ตร.เตือนภัยหลอกจองวัคซีนทางเลือก

กทม.2 ก.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัยกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเป็นบุคลากรทางการแพทย์หลอกจองวัคซีนทางเลือก


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวกรณีโรงพยาบาลหลายแห่ง หน่วยงานต่างๆเปิดให้ประชาชนจองวัคซีนทางเลือกในหลายช่องทาง ว่า ถือเป็นเรื่องดีในการเพิ่มการฉีดวัคซีนและเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ แต่ในทางกลับกันก็มีมิจฉาชีพฉวยโอกาสแฝงตัวมาในรูปของบุคลากรทางการแพทย์หรือบุคคลที่น่าเชื่อถือ ไปชักชวนผู้เสียหายในลักษณะว่าตนมีโควตาฉีดวันซีนทางเลือกหลายโควตา จึงนำมาขายให้ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินให้เหล่ามิจฉาชีพเพื่อซื้อวัคซีน ก็จะมีการสร้างกลุ่มไลน์และสร้างความน่าเชื่อถือโดยให้บุคคลที่อ้างว่าตนเป็นแพทย์ เป็นผู้ดูแลกลุ่มและคอยตอบคำถามจากผู้ที่อยู่ในกลุ่ม และมีการนัดวันเวลาสถานที่ในการฉีด แต่เมื่อถึงวันนัดปรากฎว่าผู้เสียหายไม่มีรายชื่อ และบุคคลที่อ้างว่าเป็นแพทย์ ก็ไม่ได้เป็นแพทย์จริง ผู้เสียหายจึงทราบว่าตนถูกหลอกแล้วจึงไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์และดำเนินคดีต่อไป เช่น กรณีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.อุดรธานี และอีกหลายพื้นที่ มีผู้ได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวหลายคน และได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการตามขั้นนตอนกฎหมาย รวมทั้งติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดต่อไป

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า การกระทำลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและความผิดฐานฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ความผิดในลักษณะดังกล่าวเป็นความผิดต่อส่วนตัว ผู้เสียหายจะต้องมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ซึ่งพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวแห่งชาติ มีความห่วงใยประชาชนในกรณีดังกล่าวและขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ช่วยแจ้งเบาะแสข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำไปสืบสวนขยายผล และดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดกับกลุ่มมิจฉาชีพต่อไป พร้อมได้กำชับสั่งการให้ทุกหน่วยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เฝ้าระวัง สืบสวนปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญกรรมทางเทคโนโลยีอย่างเป็นรูปธรรมและเร่งสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชน ให้ทราบถึงพิษภัยและรูปแบบการกระทำความผิดต่างๆ เพื่อเป็นการจำกัดความเสียหายและตัดโอกาสในการกระทำความผิดที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต


รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าการกระทำดังกล่าวนอกจากจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแล้ว ยังเป็นการซ้ำเติมความยากลำบากและจิตใจของพี่น้องประชาชนอีกด้วย และขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงแนวทางการป้องกันการถูกหลอกขายวัคซีนโควิด-19 โดย ต้องตรวจสอบที่มาที่ไปให้ชัดเจนว่าวัคซีนมีอยู่จริงหรือไม่ โดยตรวจสอบข้อมูลกับทางโรงพยาบาล หรือ หน่วยงานที่เปิดให้จองวัคซีนทางเลือก โดยตรง อย่าหลงเชื่อแม้ว่าบุคคลที่ชักชวนจะน่าเชื่อถือมากเพียงใดก็ตามจนกว่าจะตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน และขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารอยู่เสมอเพื่อจะได้รู้ทันกลโกงของเหล่ามิจฉาชีพ นอกจากนี้หากพบเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง