กองทัพสื่อฯ-ไทยมุงแห่ดูทำแผน “กวิน ยิง 2 ศพ”

กทม. 25 มิ.ย. – หลังจากนอนคุกมา 1 คืน ตำรวจพหลโยธินคุมตัวนายกวิน อดีตทหารเกณฑ์ยิงดับพนักงานร้านสะดวกซื้อ และผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลสนาม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวยอมรับทุกข้อกล่าวหา ท่ามกลางกองทัพสื่อฯ และประชาชนที่มามุงดูเป็นจำนวนมาก และเมื่อเสร็จสิ้นการทำแผน จะส่งตัวกลับมาที่ สน.พหลโยธิน ก่อนขออำนาจศาลฝากขังวันพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.)


จุดแรกตำรวจได้คุมตัวนายกวิน แสงนิลกุล ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่โรงแรมแห่งหนึ่งในซอยลาดพร้าว 25 ซึ่งเป็นจุดที่นายกวินมาเปิดห้องพักก่อนไปก่อเหตุยิงนายรัฐวิทย์ สันติคุปตพงซ์ พนักงานร้านสะดวกซื้อ ที่อยู่หน้าปากซอย จากนั้นพาไปจำลองเหตุการณ์ทั้งก่อนและหลังก่อเหตุในร้านสะดวกซื้อ เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี ซึ่งตลอดการคุมตัวทำแผน มีทั้งบรรดาสื่อมวลชน และประชาชนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงต่างมามุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ใช้เวลาไม่นานในการทำแผน ก่อนพาตัวนายกวินขึ้นรถตู้กลับไปคุมตัวต่อที่ สน.พหลโยธิน เพื่อรอให้ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ มารับตัวนายกวินไปทำแผนประกอบ และชี้จุดยิงผู้ป่วยโควิดที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนาม สถาบันธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นการทำแผน จะมีการส่งตัวกลับมาที่ สน.พหลโยธิน เพื่อให้พนักงานสอบสวนนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.)

“กวิน” คลั่งยิง 2 ศพเปิดปากสารภาพทุกข้อกล่าวหา
ด้านผู้กำกับการ สน.พหลโยธิน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมื่อคืนนี้ นายกวินนอนหลับได้ปกติ ไม่เครียด ตื่นก่อน 7 โมง และมีอาการเหนื่อยล้าบ้าง ส่วนข้อหาที่แจ้งกับนายกวินตอนนี้ยังมีอยู่ 2 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และมีและพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน ที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควร ส่วนความผิดฐานอื่นอยู่ระหว่างพิจารณา หากพบก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป


ตร.ปทุมฯ แจ้ง 4 ข้อหา เร่งตรวจสอบปืนก่อเหตุ
ขณะที่ พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผู้บังการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ย้ำว่าหลังจากตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้ตัวนายกวินมา จะรีบดำเนินการสอบปากคำผู้ต้องหาทันที พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา 4 ฐานความผิดคือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และหลังสอบเสร็จจะรีบนำตัวส่งคืน สน.พหลโยธิน ส่วนด้านหลักฐาน พิสูจน์หลักฐานได้เก็บปลอกกระสุนและหัวกระสุนในที่เกิดเหตุได้ทั้งหมด 19 ชิ้น ส่วนปืนที่ยึดได้ สน.พหลโยธิน จะนำส่งตรวจที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานกลาง พร้อมกับหลักฐานอื่น เพื่อเชื่อมโยงให้ได้ว่านายกวินใช้ปืนกี่กระบอก เพราะในที่เกิดเหตุพบกระสุนปืนขนาด .38 และ 9 มม.

ย้อนกลับไปก่อนที่นายกวินจะมอบตัว ได้ไปบุกยิงนายรัฐวิทย์ สันติคุปตพงศ์ พนักงานร้านสะดวกซื้อในซอยลาดพร้าว 25 จนเสียชีวิต ก่อนไปยิงผู้ป่วยโควิดที่โรงพยาบาลสนาม สถาบันธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี เสียชีวิตอีกราย จากนั้นขับรถกระบะหนีบ้านญาติที่ จ.ระนอง กระทั่งตำรวจตามไปปิดล้อม กดดันจนยอมมอบตัว และถูกนำตัวมาสอบปากคำที่ สน.พหลโยธิน เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา

การสอบปากคำนายกวิน ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยมูลเหตุจูงใจที่ไปยิงพนักงานร้านสะดวกซื้อ เพราะโมโหที่ทำเบียร์หล่นแตก และผู้ตายกดดันให้จ่ายเงิน จนมีปากเสียงกัน ส่วนที่ไปก่อเหตุในพื้นที่ปทุมธานีต่อเพราะใกล้บ้าน ขับรถผ่านบ่อย เข้าใจว่าสถานที่นั้นเป็นที่บำบัดผู้ติดยาเสพติด ตัวเองเคยมีปมถูกทำร้ายจากคนติดยาเสพติดมาก่อน จึงบุกไปยิงคนที่อยู่ข้างใน แต่หลังก่อเหตุเพิ่งมารู้ว่าเป็นโรงพยาบาลสนาม อยากขอโทษพ่อแม่และญาติผู้เสียชีวิต รวมถึงยอมรับว่าขณะก่อเหตุอยู่ในอาการมึนเมา แต่เรื่องอาการทางจิตยังต้องรอแพทย์วินิจฉัย


นอกจากนี้ นายกวินยังย้ำ คนต้นเหตุที่ทำให้ต้องไปยิงผู้บริสุทธิ์ถึง 2 คน เพราะเคยถูกคนชื่อ “ยงยุทธ” และ “เค้ก” รุ่นพี่ตอนอยู่ในค่ายทหารทำร้าย อยากก่อเหตุให้ทั้งคู่เห็นว่าโมโหแล้วเป็นยังไง และอยากให้มาขอโทษ

พ่อ “กวิน” รับลูกชายเคยบ่นเครียด ถนัดใช้ปืน
ขณะที่พ่อของนายกวิน ยอมรับกับตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ว่าลูกเคยเป็นทหารเกณฑ์ที่หน่วยรบพิเศษ เคยฝึกคอบร้าโกลด์เมื่อครั้งเป็นทหารเกณฑ์ ทำให้ชำนาญการใช้อาวุธปืนเป็นอย่างดี รวมถึงเคยพูดว่าเครียดเพราะถูกรุ่นพี่ทำร้ายด้วย

ด้านครอบครัวของผู้สูญเสียต่างบอกทำใจไม่ได้ที่บุคคลอันเป็นที่รักต้องมาจบชีวิตแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเป็นการกระทำที่โหดร้าย แต่หากผู้ก่อเหตุต้องการมาขอขมาก็จะอโหสิกรรมให้ เพื่อไม่ต้องจองเวรต่อกัน โดยร่างของพนักงานร้านสะดวกซื้อ ครอบครัวตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดราษฎร์ประคองธรรม จ.นนทบุรี และมีกำหนดฌาปนกิจในวันที่ 27 มิถุนายน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]

Los Angeles mayor issues curfew for downtown Los Angeles

นายกฯ เล็กแอลเอประกาศเคอร์ฟิว

ลอสแอนเจลิส 11 มิ.ย.- นางแคเรน แบสส์ นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส (LA) ประกาศมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว ย่านใจกลางเมือง หลังจากมีการทำลายทรัพย์สินในวงกว้างจากเหตุประท้วงต่อต้านเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง นางแบสส์แถลงว่า เคอร์ฟิวจะมีผลครอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 1 ตารางไมล์หรือราว 2.6 ตารางกิโลเมตรจากย่านใจกลางเมือง ตั้งแต่เวลา 20.00 น.วันที่ 10 มิถุนายนจนถึงเวลา 06.00 น.วันที่ 11 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าไทย 14 ชั่วโมง  ก่อนหน้านี้เธอย้ำระหว่างการแถลงข่าวว่า เหตุไม่สงบเกิดขึ้นอย่างจำกัดในบางพื้นที่เท่านั้น ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ประท้วงอย่างสันติ มีเพียงกลุ่มปลุกปั่นกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้นที่ก่อเหตุรุนแรงและฉกชิงทรัพย์สิน การประท้วงในแอลเอเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐหรือไอซ์ (ICE) กวาดจับผู้อพยพลอบเข้าเมือง กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิแจ้งเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนว่า ไอซ์จับกุมผู้ลอบเข้าเมืองได้วันละ 2,000 คน มากกว่าสมัยรัฐบาลโจ ไบเดนที่จับกุมเฉลี่ยวันละ 311 คนในปีงบประมาณ 2567 ตำรวจแจ้งว่า เมื่อวานนี้จับกุมผู้ชุมนุม 197 คน […]

นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

ดอนเมือง 11 มิ.ย.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจกำลังพล กองกำลังสุรนารี และพบปะประชาชนที่ด่านช่องจอม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดสุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา จากนั้น เวลา 11.05 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปเป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์การคลี่คลายปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และมาตรการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ณ ห้องประชุมอัมพรพิมาน โรงพยาบาลกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี […]

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]