เปิดไทม์ไลน์อดีตทหารเกณฑ์ยิงดับ 2 ศพ

24 มิ.ย. – เปิดไทม์ไลน์อดีตทหารเกณฑ์บุกยิงต่อเนื่อง จากกรุงเทพฯ ไป จ.ปทุมธานี จนมีผู้เสียชีวิต 2 คน ก่อนหลบหนีไปกบดานที่ จ.ระนอง กระทั่งถูกจับกุมตัว


เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลา 22.30 น. นายกวินที่ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เข้าไปซื้อเบียร์ที่ร้าน 7-11 ในซอยลาดพร้าว 25 จำนวน 3 ขวด แล้วทำขวดเบียร์ตกแตก 1 ขวด แต่จะจ่ายเงินเฉพาะขวดที่ซื้อ นายรัฐวิทย์ พนักงานชาย ซึ่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ ขอให้ชำระเงินขวดที่ทำแตกด้วย แต่นายกวินไม่ยอม ทำให้มีปากเสียงกัน พนักงานอีกคนเข้ามาช่วยพูด สุดท้ายยอมให้จ่ายเฉพาะขวดที่ซื้อ

เวลา 02.30 น. คนร้ายย้อนกลับมาที่เซเว่นฯ ถามหาพนักงานที่ทะเลาะกัน ก่อนใช้ปืนขนาด .38 ยิงพนักงานคนดังกล่าว 3 นัด เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ


เวลา 03.30 น. นายกวินใส่ชุดทหารลายพราง บุกไปที่โรงพยาบาลสนามภายในสถาบันธัญญษรักษ์ อ.ธัญบุรี และจ่อยิงนายสุขสันต์ อายุ 54 ปี ผู้ป่วยโควิด จำนวน 4 นัด เสียชีวิต ก่อนขับกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์สีขาว ทะเบียน 3ฒข6233 หลบหนี

เวลา 06.00 น. นายกวินแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันซัสโก้ ริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ 2 ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เต็มถัง 1,800 บาท ก่อนชักปืนขู่พนักงานปั๊ม บอกว่าเพิ่งยิงคนตาย 2 ศพ ไม่มีเงินจ่าย พนักงานงานในปั๊มวิ่งหนีแตกกระเจิง ส่วนนายกวินขับรถหลบหนีไป ขณะที่โซเชียลวิพากษ์วิจารณ์เส้นทางคนร้ายขับหลบหนีถนนเพชรเกษม ตั้งแต่ ต.คลองวาฬ ผ่านด่านมั่นคง 24 ชั่งโมง ถึงเขตรอยต่อ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ระยะทางกว่า 130 กิโลเมตร แต่ไม่มีการสกัดจับคนร้ายแต่อย่างใด

เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่สนธิกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ร่วม 60 นาย ปิดล้อมบ้านหลังหนึ่งใน ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง หลังพบรถนายกวิน จอดอยู่หน้าบ้าน ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านญาติของนายกวิน ระหว่างนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด


หลังปิดล้อมกดดันนานเกือบ 3 ชั่วโมง สุดท้ายนายกวินยอมมอบตัวในเวลา 12.50 น. ก่อนถูกคุมตัวขึ้นรถตู้ออกไป จากการตรวจสอบภายในบ้านพักพบอาวุธปืน 2 กระบอก ขณะที่นางชม้าย แสงนิลกุล ซึ่งมีศักดิ์เป็นย่า อายุ 95 ปี และเป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งถูกจับเป็นตัวประกัน และคนในบ้านรวม 3 คน ปลอดภัยดี พบรอยกระสุนปืน 2 นัด ที่หน้าต่างบ้าน

ขณะที่พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บินด่วนไป จ.ระนอง เพื่อรับตัวนายกวินขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับมาสอบปากคำต่อที่กรุงเทพฯ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่ามูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุยิงกราดในโรงพยาบาลสนามที่ปทุมธานี เป็นเพราะเข้าใจผิด คิดว่าเป็นสถานบำบัดยาเสพติด

ส่วนกรณีก่อเหตุภายในร้านสะดวกซื้อ เกิดจากการทะเลาะวิวาทกันก่อนหน้า กับพนักงานกรณีทำขวดเบียร์แตก อย่างไรก็ตาม การสอบสวนเบื้องต้นยังไม่สามารถรับฟังได้ทั้งหมด และจะมีการสอบปากคำเพื่อขยายผลการลงมือก่อเหตุเพิ่มเติมอีกครั้งทันทีที่ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวถึงกรุงเทพฯ

ก่อนนายกวินจะถูกจับกุม พบว่าช่วงเช้าผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบนางสาวมณีรัตน์ เจ้าของร้านขายของชำที่นายกวินได้เข้าไปช่วงเช้า นางสาวมณีรัตน์ เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่าตอนที่ร้านเปิดก็มีรถกระบะของนายกวินมาจอดรถหน้าร้านขายของชำแห่งหนึ่งใน จ.ระนอง ไปข่มขู่ขอเบียร์และบุหรี่ ขอบุหรี่ 2 ซอง และบอกว่าตนขอนะ ตนเองไม่มีเงิน ตนจึงดึงซองบุหรี่กลับ นายกวินบอกว่าขอนะ ตนคือคนร้ายในข่าวที่ยิงคนตายมาแล้ว 2 ศพ ตนไม่อยากจะทำใครอีกแล้ว จยจะไปบ้านย่าที่อยู่ใกล้ๆ ตรงนี้ ก่อนออกจากร้าน หยิบเบียร์ไปอีก 2 ขวด แล้วตะโกนบอกว่าขอนะ ตนจึงบอกว่าเอาไปเลย อยากได้อะไรก็เอาไปได้เลยยกให้

ส่วนความคืบหน้าที่ จ.ปทุมธานี ซนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พลตำรวจตรีชยุต มารยาทตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี พลตำรวจตรีหญิงชุติมา ชัยมุกสิก ผบก.สพฐ. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุโรงพยาบาลสนามภายในสถาบันธัญญารักษ์ อ.ธัญบุรี โดยผู้ว่ฯ ปทุมธานี บอกว่าการรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ปกติมีเจ้าหน้าที่ รปภ. ดูแลรัดกุมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะเสริมกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ กอ.รมน. เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่มาใช้บริการและบุคลากรทางการแพทย์

ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ระบุว่าการสืบสวนยังไม่ยืนยันสาเหตุ แต่ยืนยันได้ว่าผู้ก่อเหตุกับผู้เสียชีวิตทั้งสองคดีไม่น่าจะรู้จักกันมาก่อน และไม่ได้เป็นญาติกัน คิดว่าคนร้ายมีความเครียดส่วนตัว

ขณะที่นางสาวร่มเย็น บุญสืบ อายุ 47 ปี ภรรยาของผู้ป่วยโควิดที่ถูกยิงเสียชีวิต เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ บอกว่ายังไม่ทราบสาเหตุที่คนร้ายก่อเหตุ แต่ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลสนาม ว่ามีคนร้ายเข้าไปยิงสามี ขณะเดินออกจากห้องน้ำในช่วงเวลา 03.00 น. เนื่องจากเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 อยู่ในระหว่างการรักษาตัว ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. ซึ่งไปรักษามาด้วยกัน แต่ตนรักษาหายแล้วจึงกลับบ้านก่อน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุ เพราะอยู่ในสถานที่ราชการ และมี รปภ. คอยดูแลอยู่ตลอดเวลา

ขณะที่เจ้าหน้าที่พยาบาลในโรงพยาบาลสนาม เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ พร้อมเผยว่า ผู้ก่อเหตุเข้ามาภายในอาคารสถาบันบำบัดและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดเเห่งชาติบรมราชชนนี สอบถามพนักงาน รปภ. ว่าตึกราชวิถีอยู่ที่ไหน เมื่อ รปภ. บอกว่าให้ไปอีกตึกหนึ่ง ผู้ก่อเหตุก่อเดินไป แต่ประตูปิดอยู่ จึงชักปืนขึ้นมายิงจนบานกระจกประตูแตก จากนั้นไปพบกับผู้ป่วยโควิด-19 หน้าห้องน้ำ ก่อนก่อเหตุยิงจนเสียชีวิต รปภ. และพยาบาล เมื่อได้ยินเสียงปืนต่างพากันหลบกระสุน หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็เดินออกไป

ส่วนบรรยากาศที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นายอธิวัฒณ์ อายุ 74 ปี พ่อ และญาติ เดินทางมาเพื่อติดต่อรับศพนายรัฐวิทย์ อายุ 32 ปี พนักงานร้านสะดวกซื้อที่ถูกนายกวินยิงเสียชีวิต ซึ่งผลการชันสูตรเบื้องต้นพบว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากอวัยวะภายในบาดเจ็บจากกระสุนปืน โดยญาติไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ เพียงแต่บอกว่านายรัฐวิทย์เป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร เป็นการสูญเสียอย่างกะทันหัน จึงยังทำใจไม่ได้ ขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเป็นการกระทำที่โหดร้าย สำหรับศพของนายรัฐวิทย์ ญาติได้นำไปตั้งบำเพญกุศลที่วัดราษฎร์ประคองธรรม ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

นายกิตติ อายุ 61 ปี พ่อของนายกวิน ให้ปากคำกับตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ว่าตนคุยกับลูกชายตลอดเวลา คาดว่าลูกชายเกิดความเครียดส่วนตัว และเคยเป็นทหารเกณฑ์ที่หน่วยรบพิเศษป่าหวาย จ.ลพบุรี เคยฝึกคอบร้าโกลด์เมื่อครั้งเป็นทหารเกณฑ์ จึงชำนาญการใช้อาวุธปืนเป็นอย่างดี

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่าผู้ก่อเหตุไม่ใช่กำลังพลของกองทัพบก แต่เคยเป็นอดีตทหารเกณฑ์ที่ปลดประจำการไปแล้วตั้งแต่ปี 2562

ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงษ์ พงศ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นอดีตทหารอาสาที่ถูกปลดประจำการตั้งแต่ปี 2562 และมีปัญหาด้านสุขภาพจิต หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีไปที่บ้านพักหลังหนึ่งใน จ.ระนอง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย