เปิดไทม์ไลน์อดีตทหารเกณฑ์ยิงดับ 2 ศพ

24 มิ.ย. – เปิดไทม์ไลน์อดีตทหารเกณฑ์บุกยิงต่อเนื่อง จากกรุงเทพฯ ไป จ.ปทุมธานี จนมีผู้เสียชีวิต 2 คน ก่อนหลบหนีไปกบดานที่ จ.ระนอง กระทั่งถูกจับกุมตัว


เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลา 22.30 น. นายกวินที่ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เข้าไปซื้อเบียร์ที่ร้าน 7-11 ในซอยลาดพร้าว 25 จำนวน 3 ขวด แล้วทำขวดเบียร์ตกแตก 1 ขวด แต่จะจ่ายเงินเฉพาะขวดที่ซื้อ นายรัฐวิทย์ พนักงานชาย ซึ่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ ขอให้ชำระเงินขวดที่ทำแตกด้วย แต่นายกวินไม่ยอม ทำให้มีปากเสียงกัน พนักงานอีกคนเข้ามาช่วยพูด สุดท้ายยอมให้จ่ายเฉพาะขวดที่ซื้อ

เวลา 02.30 น. คนร้ายย้อนกลับมาที่เซเว่นฯ ถามหาพนักงานที่ทะเลาะกัน ก่อนใช้ปืนขนาด .38 ยิงพนักงานคนดังกล่าว 3 นัด เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ


เวลา 03.30 น. นายกวินใส่ชุดทหารลายพราง บุกไปที่โรงพยาบาลสนามภายในสถาบันธัญญษรักษ์ อ.ธัญบุรี และจ่อยิงนายสุขสันต์ อายุ 54 ปี ผู้ป่วยโควิด จำนวน 4 นัด เสียชีวิต ก่อนขับกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์สีขาว ทะเบียน 3ฒข6233 หลบหนี

เวลา 06.00 น. นายกวินแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันซัสโก้ ริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ 2 ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เต็มถัง 1,800 บาท ก่อนชักปืนขู่พนักงานปั๊ม บอกว่าเพิ่งยิงคนตาย 2 ศพ ไม่มีเงินจ่าย พนักงานงานในปั๊มวิ่งหนีแตกกระเจิง ส่วนนายกวินขับรถหลบหนีไป ขณะที่โซเชียลวิพากษ์วิจารณ์เส้นทางคนร้ายขับหลบหนีถนนเพชรเกษม ตั้งแต่ ต.คลองวาฬ ผ่านด่านมั่นคง 24 ชั่งโมง ถึงเขตรอยต่อ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ระยะทางกว่า 130 กิโลเมตร แต่ไม่มีการสกัดจับคนร้ายแต่อย่างใด

เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่สนธิกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ร่วม 60 นาย ปิดล้อมบ้านหลังหนึ่งใน ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง หลังพบรถนายกวิน จอดอยู่หน้าบ้าน ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านญาติของนายกวิน ระหว่างนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด


หลังปิดล้อมกดดันนานเกือบ 3 ชั่วโมง สุดท้ายนายกวินยอมมอบตัวในเวลา 12.50 น. ก่อนถูกคุมตัวขึ้นรถตู้ออกไป จากการตรวจสอบภายในบ้านพักพบอาวุธปืน 2 กระบอก ขณะที่นางชม้าย แสงนิลกุล ซึ่งมีศักดิ์เป็นย่า อายุ 95 ปี และเป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งถูกจับเป็นตัวประกัน และคนในบ้านรวม 3 คน ปลอดภัยดี พบรอยกระสุนปืน 2 นัด ที่หน้าต่างบ้าน

ขณะที่พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บินด่วนไป จ.ระนอง เพื่อรับตัวนายกวินขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับมาสอบปากคำต่อที่กรุงเทพฯ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่ามูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุยิงกราดในโรงพยาบาลสนามที่ปทุมธานี เป็นเพราะเข้าใจผิด คิดว่าเป็นสถานบำบัดยาเสพติด

ส่วนกรณีก่อเหตุภายในร้านสะดวกซื้อ เกิดจากการทะเลาะวิวาทกันก่อนหน้า กับพนักงานกรณีทำขวดเบียร์แตก อย่างไรก็ตาม การสอบสวนเบื้องต้นยังไม่สามารถรับฟังได้ทั้งหมด และจะมีการสอบปากคำเพื่อขยายผลการลงมือก่อเหตุเพิ่มเติมอีกครั้งทันทีที่ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวถึงกรุงเทพฯ

ก่อนนายกวินจะถูกจับกุม พบว่าช่วงเช้าผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบนางสาวมณีรัตน์ เจ้าของร้านขายของชำที่นายกวินได้เข้าไปช่วงเช้า นางสาวมณีรัตน์ เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่าตอนที่ร้านเปิดก็มีรถกระบะของนายกวินมาจอดรถหน้าร้านขายของชำแห่งหนึ่งใน จ.ระนอง ไปข่มขู่ขอเบียร์และบุหรี่ ขอบุหรี่ 2 ซอง และบอกว่าตนขอนะ ตนเองไม่มีเงิน ตนจึงดึงซองบุหรี่กลับ นายกวินบอกว่าขอนะ ตนคือคนร้ายในข่าวที่ยิงคนตายมาแล้ว 2 ศพ ตนไม่อยากจะทำใครอีกแล้ว จยจะไปบ้านย่าที่อยู่ใกล้ๆ ตรงนี้ ก่อนออกจากร้าน หยิบเบียร์ไปอีก 2 ขวด แล้วตะโกนบอกว่าขอนะ ตนจึงบอกว่าเอาไปเลย อยากได้อะไรก็เอาไปได้เลยยกให้

ส่วนความคืบหน้าที่ จ.ปทุมธานี ซนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พลตำรวจตรีชยุต มารยาทตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี พลตำรวจตรีหญิงชุติมา ชัยมุกสิก ผบก.สพฐ. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุโรงพยาบาลสนามภายในสถาบันธัญญารักษ์ อ.ธัญบุรี โดยผู้ว่ฯ ปทุมธานี บอกว่าการรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ปกติมีเจ้าหน้าที่ รปภ. ดูแลรัดกุมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะเสริมกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ กอ.รมน. เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่มาใช้บริการและบุคลากรทางการแพทย์

ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ระบุว่าการสืบสวนยังไม่ยืนยันสาเหตุ แต่ยืนยันได้ว่าผู้ก่อเหตุกับผู้เสียชีวิตทั้งสองคดีไม่น่าจะรู้จักกันมาก่อน และไม่ได้เป็นญาติกัน คิดว่าคนร้ายมีความเครียดส่วนตัว

ขณะที่นางสาวร่มเย็น บุญสืบ อายุ 47 ปี ภรรยาของผู้ป่วยโควิดที่ถูกยิงเสียชีวิต เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ บอกว่ายังไม่ทราบสาเหตุที่คนร้ายก่อเหตุ แต่ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลสนาม ว่ามีคนร้ายเข้าไปยิงสามี ขณะเดินออกจากห้องน้ำในช่วงเวลา 03.00 น. เนื่องจากเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 อยู่ในระหว่างการรักษาตัว ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. ซึ่งไปรักษามาด้วยกัน แต่ตนรักษาหายแล้วจึงกลับบ้านก่อน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุ เพราะอยู่ในสถานที่ราชการ และมี รปภ. คอยดูแลอยู่ตลอดเวลา

ขณะที่เจ้าหน้าที่พยาบาลในโรงพยาบาลสนาม เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ พร้อมเผยว่า ผู้ก่อเหตุเข้ามาภายในอาคารสถาบันบำบัดและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดเเห่งชาติบรมราชชนนี สอบถามพนักงาน รปภ. ว่าตึกราชวิถีอยู่ที่ไหน เมื่อ รปภ. บอกว่าให้ไปอีกตึกหนึ่ง ผู้ก่อเหตุก่อเดินไป แต่ประตูปิดอยู่ จึงชักปืนขึ้นมายิงจนบานกระจกประตูแตก จากนั้นไปพบกับผู้ป่วยโควิด-19 หน้าห้องน้ำ ก่อนก่อเหตุยิงจนเสียชีวิต รปภ. และพยาบาล เมื่อได้ยินเสียงปืนต่างพากันหลบกระสุน หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็เดินออกไป

ส่วนบรรยากาศที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นายอธิวัฒณ์ อายุ 74 ปี พ่อ และญาติ เดินทางมาเพื่อติดต่อรับศพนายรัฐวิทย์ อายุ 32 ปี พนักงานร้านสะดวกซื้อที่ถูกนายกวินยิงเสียชีวิต ซึ่งผลการชันสูตรเบื้องต้นพบว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากอวัยวะภายในบาดเจ็บจากกระสุนปืน โดยญาติไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ เพียงแต่บอกว่านายรัฐวิทย์เป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร เป็นการสูญเสียอย่างกะทันหัน จึงยังทำใจไม่ได้ ขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเป็นการกระทำที่โหดร้าย สำหรับศพของนายรัฐวิทย์ ญาติได้นำไปตั้งบำเพญกุศลที่วัดราษฎร์ประคองธรรม ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

นายกิตติ อายุ 61 ปี พ่อของนายกวิน ให้ปากคำกับตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ว่าตนคุยกับลูกชายตลอดเวลา คาดว่าลูกชายเกิดความเครียดส่วนตัว และเคยเป็นทหารเกณฑ์ที่หน่วยรบพิเศษป่าหวาย จ.ลพบุรี เคยฝึกคอบร้าโกลด์เมื่อครั้งเป็นทหารเกณฑ์ จึงชำนาญการใช้อาวุธปืนเป็นอย่างดี

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่าผู้ก่อเหตุไม่ใช่กำลังพลของกองทัพบก แต่เคยเป็นอดีตทหารเกณฑ์ที่ปลดประจำการไปแล้วตั้งแต่ปี 2562

ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงษ์ พงศ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นอดีตทหารอาสาที่ถูกปลดประจำการตั้งแต่ปี 2562 และมีปัญหาด้านสุขภาพจิต หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีไปที่บ้านพักหลังหนึ่งใน จ.ระนอง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เผยเกือบทั่วทุกภาคฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 17 พ.ค.- กรมอุตุฯ เผยเกือบทั่วทุกภาคของไทยมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

ศาลไม่ให้ประกันผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่ม ส่งคุมขังเรือนจำ

16 พ.ค.- ศาลไม่ให้ประกัน “เปรมชัย” และผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่ม คุมตัวทั้งหมดเข้าเรือนจำ ชี้คดีมีความเสียหายใหญ่หลวง น่าสะพรึงกลัว กระทบสังคม ญาติและทนายความของผู้ต้องหาทั้งหมดได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง ศาลได้ไต่สวนพนักงานสอบสวน ผู้ร้อง และผู้ต้องหา แล้วมีคำสั่งเมื่อเวลา 20.00 น. ว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับคดีนี้จนเกิดความเสียหายใหญ่หลวงน่าสะพรึงกลัว กระทบต่อสังคมอย่างยิ่ง ทั้งพนักงานสอบสวนและผู้เสียหายคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เกรงจะหลบหนียากแก่การติดตามตัว ทั้งคดีต้องสอบสวนพยานอีก 15 ปาก กรณีมีเหตุผลอันสมควรจะรอผลการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อนแล้วค่อยพิจารณามีคำสั่งโดยละเอียดรอบคอบต่อไป ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา ยกคำร้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป.-สำนักข่าวไทย

จับครบทีม 4 คนร้ายฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ-ฆ่าฝังดิน 1 ศพ

ตรัง 16 พ.ค. – ปิดคดีฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ และฆ่าฝังดิน 1 ศพ ในสวนปาล์ม จ.ตรัง ตำรวจจับครบแล้ว 4 คน โดย 2 คนสุดท้ายเพิ่งนำตัวลงมาจากเขา คนร้ายที่ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพ และฆ่าฝังดิน 1 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ทนแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ไม่ไหว ล่าสุดยอมให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว เพราะกลัวจะถูกวิสามัญ โดย 2 คนแรกคือ นายศุภกรณ์ หรือ บิน หัวหน้าแก๊ง กับนายจรณชัย หรือ แต้ม ตำรวจควบคุมตัวได้ช่วงเช้ามืดวันนี้ ส่วนอีก 2 คนคือ นายปิยศักดิ์ หรือ แจ็ค และนายรพีพันธ์ หรือ เทือก ตำรวจเข้าควบคุมตัวได้ช่วงเย็นที่ผ่านมา ขณะที่หนีไปกบดานอยู่ในป่าบ้านถ้ำน้ำผุด อ.เมืองตรัง ซึ่งคือบ้านเกิดของนายแจ็ค […]

เปิดสัมพันธ์ลับ “ทิดแย้ม-สีกา”

16 พ.ค. – เปิดความสัมพันธ์ลับระหว่าง “ทิดแย้ม-สีกา” เริ่มตั้งแต่สีกายังเรียนหนังสือในโรงเรียนวัดไร่ขิง อดีตเจ้าอาวาสให้ความเมตตา จึงเอ่ยปากยืมเงิน 40 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนตั้งแต่ปี 2564 ความสัมพันธ์ระหว่างนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรืออดีตพระธรรมวชิรานุวัตร อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 หรือ ทิดแย้ม กับสีกา คือ น.ส.อรัญญาวรรณ ซึ่งได้ข้อมูลจากการสอบปากคำทั้ง 2 คน ตลอดคืน รวมถึงหลักฐานสำคัญในโทรศัพม์มือถือของทั้ง 2 คน ทำให้พบว่าความสัมพันธ์นี้ถึงขั้นลึกซึ้ง น.ส.อรัญญาวรรณ รับสารภาพว่ารู้จักกับทิดแย้มมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดไร่ขิง โดยอดีตเจ้าอาวาสขณะนั้นให้ความเมตตา จึงลองเอ่ยปากขอยืมเงิน 40 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนตั้งแต่ปี 2564 สอดคล้องกับที่ทิดแย้มให้การว่าได้โอนเงินไปให้กับ น.ส.อรัญญาวรรณ เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ช่วงปี 2564 นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานสำคัญคือ คลิปการสนทนาระหว่างทิดแย้ม และ น.ส.อรัญญาวรรณ ที่มีการพูดคุยถึงเรื่องการทวงเงินเพราะครบดีล ถึง 4 ครั้ง ครั้งละ 5 […]