fbpx

ตำรวจเตือน อย่าใช้โซเชียลตามอารมณ์

กทม.11 มิ.ย.- ตำรวจ ปอท. เตือนสติชาวคีบอร์ด อย่าอ้างโซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่ส่วนตัว โพสต์ละเมิดสิทธิผู้อื่น อาจถูกดำเนินคดีได้


หลังมีกรณีอาจารย์โรงเรียนแห่งหนึ่ง โพสต์ข้อความไม่เหมาะสมในสื่อสังคมออนไลน์ โดยใช้ข้อความลักษณะลามกอนาจาร และมีการนำภาพนักเรียนซึ่งเป็นเยาวชนและภาพผู้อื่นประกอบข้อความ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ นั้น

พันตำรวจเอกศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยากฝากเตือนสติผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม อาจเข้าใจว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว มีสิทธิเสรีภาพในการใช้งาน ขอให้คิดไตร่ตรองให้ดีก่อนโพสต์หรือแสดงความคิดเห็น แม้การโพสต์สิ่งต่างๆ เหล่านั้นจะเป็นการโพสต์พูดคุยกันแบบส่วนตัว ตั้งค่าเป็นแบบ   เฉพาะเพื่อน , เพื่อนทุกคนยกเว้น… , เพื่อนที่เจาะจง  รวมทั้งใน ”กลุ่มปิด” ก็ตาม  อาจมีโอกาสที่เพื่อนบางคน หรือ สมาชิกที่อยู่ในกลุ่ม แคปรูปหรือข้อความ ออกมาเผยแพร่ส่งต่อให้ผู้อื่น ซึ่งทำให้บุคคลภายนอกได้เห็น และอาจมีการนำไปเปิดเผยต่อสาธารณะ จนส่งผลกระทบต่อหน้าที่อาชีพการงานได้ และที่สำคัญการโพสต์เหล่านั้นอาจมีผลด้านกฎหมาย อาจถูกดำเนินคดีได้ถ้าเป็นการละเมิดบุคคลอื่น เช่น นำภาพผู้อื่นหรือตัดต่อภาพผู้อื่นมาประกอบข้อความที่ทำให้บุคคลในภาพได้รับความเสียหาย หรือ โพสต์หรือแชร์ข้อความทำให้บุคคลอื่นเสียหาย ซึ่งในเรื่องนี้ได้มีกฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจน ได้แก่ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ในเรื่องการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือ หากเป็นนำเข้าภาพผู้อื่นที่เกิดจากการตัดต่อ/ดัดแปลง เป็นเหตุให้บุคคลในภาพได้รับความเสียหาย จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 16 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ จึงอยากแนะนำข้อควรปฏิบัติในการโพสต์ข้อความหรือภาพในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อไม่เป็นการละเมิดกฎหมาย ดังนี้ 1.ขณะโพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ ควรมีสติสัมปชัญญะ ไม่อยู่ในขณะมึนเมา หรืออยู่ในสภาวะอารมณ์ที่ไม่ปกติ เช่น โกรธ เป็นต้น 2.คิดก่อนโพสต์หรือแชร์ข้อมูลว่าสิ่งที่กำลังจะโพสต์หรือแชร์เป็นความจริงหรือไม่ และ หากโพสต์หรือแชร์ไปแล้วจะมีบุคคลอื่นได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชังหรือไม่  3.ไม่นำภาพผู้อื่นมาประกอบการโพสต์ โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต โดยเฉพาะภาพที่จะทำให้ผู้นั้นได้รับเสียหาย

4.ศึกษาทำความเข้าใจกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการโพสต์การแสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อที่จะไม่ละเมิดกฎหมาย เช่น ประมวลกฎหมายอาญา ในเรื่องหมิ่นประมาท , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ในเรื่องการนำเข้าข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ ที่ผิดกฎหมาย ตามมาตรา 14 หรือ การนำเข้าภาพผู้อื่นสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่เกิดจากการตัดต่อดัดแปลง ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ตามมาตรา 16 เป็นต้น

รอง โฆษก ตร. กล่าวทิ้งท้าย ขอให้พี่น้องประชาชนเล่นโซเชียลฯ อย่างมีสติ และสร้างสรรค์ ด้วยความปรารถนาดีจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​