คุมตัวโชเฟอร์สองแถวทำแผน หลังอุ้มศพสาวใหญ่ทิ้งข้างท่อ

นครศรีธรรมราช 6 มิ.ย.- ตำรวจเมืองนครศรีธรรมราชคุมตัวโชเฟอร์สองแถวทำแผนอุ้มร่างกิ๊กสาวที่ไร้วิญญาณทิ้งข้างท่อในสวนปาล์ม สารภาพไม่ได้ตั้งใจ อ้างสาวช็อกตายหลังร่วมหลับนอน


เมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 มิ.ย.พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายวิเชียร ชัยเภท อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/11 หมู่ 10 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โชเฟอร์สองแถวสายนคร-ท่าศาลา ผู้ต้องหาคดีตามหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร และข้อหาผู้ใดลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีเหตุพบศพหญิงสาวผู้เสียชีวิตข้างท่อระบายน้ำในสวนปาล์มน้ำมัน หมู่ 2 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.วันดี ชำนาญพงศ์ อายุ 52 ปี ชาว อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช สภาพพองอืดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจว่าถูกฆาตกรรม จึงสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมตัวนายวิเชียรมาสอบสวน และได้ให้การรับสารภาพ


โดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายวิเชียรมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ โดยได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าวันเกิดเหตุวันที่ 31 พ.ค.64 ได้ชวน น.ส.วันดี มาร่วมหลับนอนด้วยกัน หลังจากนั้น น.ส.วันดีเกิดอาการช็อกและหมดสติก่อนเสียชีวิต ทำให้นายวิเชียรเกิดความกลัวจึงอุ้มร่างของ น.ส.วันดีใส่รถสองแถวไปทิ้งยังที่เกิดเหตุ แล้วปลดสร้อยคอทองคำและแหวนของผู้ตายไปด้วย หลังจากนั้นก็ได้หลบหนีไปกระทั่งมาคนมาพบศพอีก 2 วันต่อมา

นายวิเชียรกล่าวขณะที่ทำแผนว่า จริงๆ แล้วตนเองไม่ได้ตั้งใจจะปลดเอาสร้อยและแหวนของผู้ตายไป และในชั่วขณะนั้นคิดอะไรไม่ได้จึงปลดไปเพื่อให้เจ้าหน้าที่หลงประเด็นว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ แต่ก็หนีได้ไม่นานก็ถูกจับกุมในที่สุด ขณะเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหากระทำผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ลักทรัพย์ในเคหะสถานและซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย

ซึ่งการทำแผนดังกล่าวได้รับความสนใจจากไทยมุงที่มามุงดูกันเป็นจำนวนมาก หลังจากเจ้าหน้าที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จแล้วได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง