พบเส้นทางส่งไอซ์ จาก “สุวรรณภูมิ-อินชอน”

กทม.1 มิ.ย.- ตำรวจ ปส. ทราบเบาะแส ชายไทย   ขนไอซ์ 4 กิโลกรัม  ถูกจับที่ประเทศเกาหลีใต้แล้ว  พบเส้นทางส่งพัสดุจาก สนามบินสุวรรณภูมิ ไป สนามบินอินชอน  เร่งประสานตำรวจสากล  ของรายละเอียดคดี ตามจับกุมขบวนการในไทย    


จากกรณี สำนักข่าวยอนฮัป ของเกาหลีใต้ รายงานอ้างข้อมูลจากสำนักงานอัยการเขตซูวอน ทางตอนใต้ของกรุงโซล ระบุ ชาวไทยอายุ 32 ปี ถูกส่งตัวขึ้นศาล หลังถูกจับกุมโทษฐานพยายามนำเข้าสารต้องห้ามปริมาณมหาศาลจากประเทศไทยที่ส่งมาทางเครื่องบินเมื่อไม่กี่วันก่อนผู้ต้องสงสัย ถูกตั้งข้อหารับไอซ์น้ำหนัก 4 กิโลกรัม ห  รือราว 134,000 เม็ด มูลค่า 1.34 หมื่นล้านวอน (363ล้านบาท) ที่ซุกมาในถุงผลิตภัณฑ์โปรตีนเสริมอาหาร ส่งมาทางเครื่องบิน เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา   โดยได้รับว่าจ้างเป็นเงิน 200,000 บาท

พลตำรวจโทมนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปรายปรามยาเสพติด(ผบช.ปส.) เปิดเผยว่า   กรณีดังกล่าว ตำรวจปราบปรามยาเสพติด พอทราบเบาะแส  ตัวบุคคล และ เส้นทางการลำเลียง ไอซ์ของชายไทยวัย 32 ปี แล้ว    ว่ามีการนำส่งพัสดุไปที่ สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อส่งต่อไปยังสนามบินอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ก่อนถูกศุลกากรเกาหลีใต้ตรวจพบ และ จับกุม ส่งดำเนินคดีในชั้นอัยการ   ซึ่งเรื่องนี้  พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการ ให้ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด เร่งดำเนินการจับกุมผู้เกี่ยวข้อง มาดำเนินคดี โดยเร็ว นอกจากนนี้ ยังให้ ประสาน ตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพลในไทย   ประสานข้อมูลไปยังตำรวจสากลของเกาหลีใต้อีกทาง เพื่อขอรายละเอียดการจับกุม ชายอายุ  32 ปี   และ  ไอซ์ ที่ตรวจยึดได้ ลักษณะหีบห่อ บรรจุภัณฑ์ ตลอดจน คำให้การ เพื่อนำข้อมูล มาสืบสวนจับกุมขบวนการที่อยู่ในไทยต่อไป 


ทั้งนี้จากข้อมูลการจับกุมยาเสพติด ที่มีปลายทางไปยังเกาหลีใต้  ในช่วงรอบปีที่ผ่านมา   มีการจับกุม ประมาณ 20 ครั้ง  หลุดรอดไปถึง  เกาหลีใต้ ไม่เกิน3 ครั้ง  รวมครั้งนี้ด้วย   โดยยาเสพติดล็อตนี้ มีจำนวน   4 กิโลกรัม  ถือว่ามีจำนวนไม่มาก  จากข้อมูล  เป็นเพียงเครือข่ายรายย่อย ไม่ใช่รายใหญ่ เพราะรายใหญ่มักเลือกส่งยาไป ที่ฮ่องกง และออสเตรเลีย มากกว่า   ยืนยัน ไทยไม่ใช่เป็นประเทศผู้ส่งจำหน่ายยาเสพติดไปยังประเทศต่างๆ แต่ไทยเป็นเพียงทางผ่านของยาเสพติดโดยมีต้นทางจากประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านเข้ามายังไทย เพื่อส่งต่อ ยาเสพติด  ไปยังประเทศที่สามเท่านั้น   -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

ล่าโจรชิงทอง 30 เส้น กลางห้างฯ อุดรธานี

อุกอาจกลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี โจรใส่เสื้อไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อก ควงปืนปลอมบุกเดี่ยวจี้ชิงทองคำภายในร้านทอง ได้ไปถึง 30 เส้น ตำรวจเร่งตามล่าตัว

หนุ่มจีนฆ่าโหดคู่ขา อ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ”

หนุ่มจีนยอมรับฆ่าสาว LGBTQ+ เพราะถูกปฏิเสธร่วมหลับนอน และถูกถีบตกเตียง จึงโมโหแล้วบีบคอจนสิ้นใจตายคามือ ก่อนอ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ” เลยใช้กรรไกรกรีดหน้าอก ตัดหัวใจ คว้านซิลิโคน ออกมาไว้ข้างนอก ส่วนปอดที่หายไป ยืนยันไม่ได้แตะต้อง

เกิดเหตุระเบิดที่ท่าเรือในอิหร่าน-เสียชีวิตแล้ว 18 ราย

สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรง ที่อาจจะมีสาเหตุมาจากการระเบิดของวัสดุเคมี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 700 ราย โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นในวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น ที่ท่าเรือบันดาร์ อับบาส ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน

ประชาชนทยอยใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 8 นครศรีธรรมราช

ชาวนครศรีธรรมราช ในเขต 8 ซึ่งประกอบด้วย 4 อำเภอ คือ ฉวาง พิปูน นาบอน และช้างกลาง ทยอยออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส. หลังเปิดให้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 08.00 น. ประธาน กกต. เผยยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง