กทม.-1 มิ.ย.-ยายวัย 66 ปีสุดช้ำ ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนที่ดิน มูลค่า 50 ล้านบาท ได้เพียงตั๋วสัญญาใช้เงินที่ขึ้นเงินไม่ได้
นางลัดดา สงวนบุญอายุ 66 ปี พร้อมนายธนากร สงวนบุญ อายุ 46 ปี ลูกชาย และนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ เข้าพบ พ.ต.ต.ไพบูลย์ โพธิ์ทอง สว.(สอบสวน) สน.สายไหม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีและให้ช่วยติดตามตัวแก๊งมิจฉาชีพหลอกซื้อที่ดินจำนวนกว่า 6 ไร่ ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เป็นเงินกว่าจำนวน 50 ล้านบาท แต่กลับถูกแก๊งดังกล่าวใช้อุบายจ่ายเป็นเช็ค แล้วขอเปลี่ยนเป็นตั๋วขึ้นเงินแทน สุดท้ายไม่ได้เงินสักบาท ที่ดินก็ถูกแก๊งคนร้ายหลอกเอาไป ทั้งยังถูกหลอกเอาเงินสดไปอีก 2.5 แสนบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา
โดยก่อนถึงวันขึ้นเงินกลุ่มคนกลุ่มนี้ได้มาขอเปลี่ยนเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินแทนซึ่งระบุจำนวนเงิน 60 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มคนร้ายอ้างว่าได้สั่งจ่ายเงินเกินไป 10 ล้านบาท ให้ตนเองหาเงินมาคืนก่อน 10 ล้านบาท จึงจะสามารถขึ้นตั๋วจ่ายเงินได้ แต่แม่มีเงินในบัญชีเพียง 2.5 แสนบาท เท่านั้นจึงโอนให้คนร้ายไป ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มี.ค.64 ได้สอบถามไปที่บริษัทตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อขอขึ้นเงิน ปรากฏว่าทางบริษัทแจ้งว่าเป็นตั๋วปลอม จึงทราบในทันทีว่าถูกแก็งมิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอกซื้อที่ดินและเงินสดจากตนไป
เมื่อได้ตรวจสอบเอกสารไปที่กรมที่ดินพบว่าที่ดินดังกล่าวของตนถูกโอนเปลี่ยนชื่อไปแล้ว โดยเอกสารซื้อขายของทางที่ดินระบุว่า โดยได้รับจ่ายค่าที่ดินเป็นเช็คจำนวน 2 ฉบับ ฉบับละ 3 ล้านบาท ซึ่งยังไม่เคยได้รับเช็คดังกล่าวเลยก็ไม่รู้ว่าแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ใช้วิธีการอะไร จึงสามารถทำให้เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน เซ็นอนุมัติซื้อขายผ่านไปได้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยได้รับเช็ค
ด้านนายรัชพล กล่าวว่าหลังสอบถามรายละเอียด พบว่าคดีนี้ยังไม่ได้แจ้งความ แต่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีเองทั้งทางแพ่งและอาญา ผ่านมาเกือบ 2 เดือนคดียังไม่คืบหน้า หลังจากนี้ต้องตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน และต้องตรวจสอบเอกสารที่กรมที่ดินสาขาบางเขนด้วย ว่าโดยปกติการโอนซื้อขายที่ดิน เจ้าหน้าที่ต้องมีการสอบถามว่าผู้ขายได้รับเงินหรือยัง ซึ่งผู้ขายยังไม่ได้รับเงินแต่มีการโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ต้องตามเรื่องนี้ก่อน จากนั้นต้องตรวจสอบหลักฐานอีกหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ อยากฝากถึงคนชราที่จะทำนิติกรรมอะไรต่างๆ ขอให้บุตรหลานช่วยตรวจสอบก่อน เพราะอาจจะถูกมิจฉาชีพหลอกเอาได้ หลังจากรับเรื่องนี้ไว้จะเดินเรื่องฟ้องเพิกถอนการโอนซื้อขายที่ดินผืนนี้กับทางศาลมีนบุรีต่อไป
ด้าน พ.ต.ต.ไพบูลย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่ามีกลุ่มบุคคลมาติดต่อขอซื้อที่ดิน แต่ดูแล้วท่าทางมีพิรุธ สุดท้ายผู้เสียหายก็ขายที่ดินดังกล่าวไป และเกิดการโกงกันขึ้น คนขายไม่ได้รับเงิน ครั้งนี้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ตนจะต้องสอบสวนผู้เสียหาย และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้ทราบพฤติกรรมของคนร้าย แต่ละคนมีหน้าที่อะไรบ้าง เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานได้แล้ว เพือเข้าข่ายความผิดใด เบื้องต้นจะทำเรื่องไปที่สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาบางเขน เพื่ออายัดโฉนดที่ดินทั้ง 4 แปลง เพื่อไม่ให้โอนไปขายให้บุคคลอื่น จากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย