คุมหนุ่มใหญ่ทำแผนยิงสาววัย 19 ปี เสียชีวิต

กรุงเทพฯ 26 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวหนุ่มใหญ่วัย 53 ปี ยิงสาววัย 19 ปี 7 นัดซ้อน บนรถแท็กซี่ ย่านพระราม 2 เสียชีวิต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เผยแค้นที่ถูกบอกเลิก ทั้งๆ ที่ดูแลอย่างดีมานานกว่า 7 ปี


ความคืบหน้าคดีหนุ่มใหญ่วัย 53 ปี ยิงสาววัย 19 ปี 7 นัดซ้อน บนรถแท็กซี่ ย่านถนนพระราม 2 เสียชีวิต ก่อนถูกตามจับกุมได้ หลังหลบหนีเข้าไปในบริเวณห้างบิ๊กซี สาขาพระราม 2 พร้อมกับอาวุธปืนออโตเมติกขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล็อก 19 ที่ใช้ก่อเหตุ

จากนั้นตำรวจ สน.ท่าข้าม ได้ควบคุมตัวนายอำนาจ แซ่ตั้ง อายุ 53 ปี ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณริมถนนพระราม 2 หน้าห้างบิ๊กซี สาขาพระราม 2 ท่ามกลางประชาชนที่มามุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก


สอบสวนนายอำนาจให้การว่า เคยประกอบอาชีพแมสเซนเจอร์ ตอนนี้ตกงานมาหลายเดือนแล้ว และรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยอ้างว่าแอบคบหากับผู้ตายมาแล้ว 7 ปี แต่เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ผู้ตายพยายามตีตัวออกห่าง ติดต่อไม่ค่อยได้ วันนี้จึงตัดสินใจขับจักรยานยนต์มาจอดรอปากซอยพระราม 2 ซ.100 ดักรอและตามขึ้นรถเมล เพื่อจะเคลียร์ปัญหา แต่กลับทะเลาะกันมีปากเสียงตั้งแต่บนรถเมลจนถึงที่เกิดเหตุ ดวยความโมโหที่ถูกผู้ตายบอกเลิกและพยายามตีตัวออกห่าง ทั้งๆ ที่คอยช่วยเหลือดูแลอย่างดีมานานกว่า 7 ปี ขณะยื้อบนรถแท็กซี่ จึงขู่แล้วชักปืนออกมายิง

ด้าน พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 กล่าวว่า จากการสอบสวนคดีนี้ได้ตั้งปมสาเหตุเกิดจากความหึงหวงไว้ก่อน หลังจากนี้จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดีกับนายอำนาจ 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.00 น. เมื่อตำรวจ สน.ท่าข้าม รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตริมถนนพระราม 2 หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาพระราม 2 จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรน่า ทะเบียนป้ายเหลือง ทส344 กรุงเทพมหานคร มีร่องรอยการยิงภายในรถหลายนัด มีคราบเลือดติดอยู่ตามที่นั่งเบาะหลัง และมีปลอกกระสุนตกอยู่นอกตัวรถ 10 ปลอก ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นหญิงอายุ 19 ปี นักศึกษาสถาบันแห่งหนึ่งที่ถูกยิง พบว่าเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จึงปิดล้อมพื้นที่เกิดเหตุไว้ ก่อนที่ พ.ต.ท.นภัสพงษ์ ทัศนา สารวัตรกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 กับพลเมืองดีจะช่วยกันเข้าจับกุมผู้ก่อเหตุ คือนายอำนาจ แซ่ตั้ง อายุ 53 ปี หลังหลบหนีไปทางตลาดหน้าห้างบิ๊กซี พร้อมกับอาวุธปืนออโตเมติกขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล็อก 19 ที่ใช้ก่อเหตุ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว