กรุงเทพฯ 17 พ.ค.-ตำรวจยศ พ.ต.ท. สังกัดกองบังคับการจราจร ผู้ต้องหาร่วมกันก่อคดีลักพาตัวนักธุรกิจชาวไต้หวันอุ้มเรียกค่าไถ่ ย่านทองหล่อ เข้ามอบตัวแล้ว เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ด้านต้นสังกัด ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงพิจารณาโทษทางวินัยอีกทางหนึ่ง
พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้า คดีที่กองปราบปราม ได้จับกุมนายเจเรมี่ แมนเชสเตอร์ สัญชาติอเมริกัน นายลูอิส ซิสกิน อดีตทหารนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกา และนายเอกบดินทร์ ประสิทธิ์นฤทธิ์ ผู้ต้องหา ร่วมกันอุ้มเรียกค่าไถ่ นายเวน ยู ซุง นักธุรกิจ ชาวไต้หวัน จากร้านอาหารย่านทองหล่อไปเรียกค่าไถ่กว่า 100 ล้านบาท เมื่อปลายมีนาคม 64 จากความขัดแย้งเรื่องการซื้อถุงมือยางการแพทย์ ก่อนทราบภายหลังว่ามีตำรวจยศ พ.ต.ท. สังกัดกองบังคับการตำรวจจราจร เข้าพัวพันในคดี ว่าวันนี้ ตำรวจยศ พ.ต.ท. รองผู้กำกับการกองบังคับการจราจร ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคนที่ 4 ในคดีดังกล่าว ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.ทองหล่อ แล้ว เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
พลตำรวจโทภัคพงศ์ ยืนยันว่า รองผู้กำกับการนายดังกล่าว มีส่วนร่วมกระทำความผิดชัดเจน และอยู่ในที่เกิดเหตุวันที่เกิดเรื่อง โดยไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ จากนี้พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปส่งฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก พร้อมคัดค้านการประกันตัวเพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติซึ่งไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และมีตำรวจร่วมกระทำความผิด สำหรับรองผู้กำกับการนายดังกล่าว หลังจากนี้กองบังคับการตำรวจจราจร จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เพื่อพิจารณาโทษทางวินัย
คดีนี้ เมื่อปลายปี 63 นายลูอิส ผู้ต้องหา ได้ติดต่อขอซื้อถุงมือไนไตร กับบริษัทแพดดี้เดอะรูม ซึ่งแต่งตั้งให้บริษัทคอลเลกชั่น ของนางเอมิลี่ เป็นผู้เจรจาธุรกิจ แต่ปรากฏว่าธุรกิจเกิดความขัดแย้ง จนนายลูอิส เสียหายกว่า 93 ล้านบาท และเมื่อทราบว่า นายเวน ยู ชุง ชาวไต้หวัน ผู้เสียหาย 1 ในตัวแทนบริษัทของนางเอมิลี่ อาศัยอยู่ในไทย จึงว่าจ้างนายไมเคิล ชาวอิสราเอล บริษัทนักสืบเอกชนในไทย ช่วยติดตามทรัพย์สินคืนจากคู่กรณี
นายไมเคิล และพวก วางแผนติดต่อนายเวน ยู ชุง ทำทีซื้อถุงมือยาง ก่อนนัดหมายมาพบเจอกันที่ร้านอาหารย่านทองหล่อเมื่อ 28 มี.ค.64 เมื่อพบเจอผู้เสียหายเข้าจู่โจมจับตัวล็อกคอใส่กุญแจมือ แล้วพาออกจากร้านอาหารไปยังห้องพักรายวัน ลงมือทำร้ายร่างกาย ก่อนใช้โทรศัพท์ผู้เสียหายติดต่อไปหานางเอมิลี่ เจ้านาย ข่มขู่เรียกเงิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และโทรศัพท์ไปข่มขู่เรียกเงินญาติผู้เสียหายอีก 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่นางเอมิลี่ และญาติผู้เสียหายไม่ยินยอม จึงขอความช่วยเหลือไปยังสถานทูต และตำรวจ
เมื่อผู้ต้องหา เห็นท่าไม่ดีจึงเกลี้ยกล่อมให้ผู้เสียหายไม่เอาความ แต่ผู้เสียหายไม่ยอม กลุ่มผู้ต้องหาจึงยอมปล่อยตัว ที่ สน.ทองหล่อ เมื่อผู้เสียหายแจ้งความ ตร. จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิด 8 คน กระทั่งเจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนนี้ ที่มีส่วนร่วมในขบวนการก่อเหตุดังกล่าวได้หลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ กทม. จึงนำกำลังเข้าติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว ทำให้ตอนนี้ จับกุมได้ 3 คน มอบตัว 1 คน (ตร.) และอยู่ระหว่างหลบหนีอีก 4 คน เป็นชาวต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย