fbpx

ประธานเอ็มกรุ๊ปมอบตัวคดีฉ้อโกงประชาชน

อสมท 17 พ.ค.-จากกรณีผู้เสียหายร้องสำนักข่าวไทย ถูกชักชวนลงทุนโครงการแพ็กเกจทัวร์นำเที่ยวกับบริษัททัวร์ชื่อดัง และชักชวนลงทุนซื้อขายทองเก็งกำไรแต่กลับไม่ได้ค่าตอบแทนตามที่ตกลง จนมีผู้เสียหายนับพันราย มูลค่าความเสียหายกว่าพันล้านบาท ซึ่งเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา สอบสวนกลางได้นำหมายศาลบุกเข้าตรวจค้นพร้อมจับกุมตัวผู้ต้องหา 4 ราย ล่าสุดวันนี้ (17 พ.ค.) ประธานเอ็มกรุ๊ป หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา หอบหลักฐานเข้ามอบตัวกับตำรวจกองปราบปราม


ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาตำรวจกองบังคับการปราบปรามทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. หน่วยงานหลักรับผิดชอบคดีหลักเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ ในลักษณะหลอกร่วมลงทุนที่สร้างความเสียหายในวงกว้าง หรือในลักษณะฉ้อโกงประชาชน ได้ออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้บริหารใหญ่ บริษัทเอ็มกรุ๊ป และพนักงานรวม 6 คน ต่อมาช่วงค่ำวันศุกร์ (14 พ.ค.) ตำรวจกองปราบปรามได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา 4 คน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ปอศ. ดำเนินคดีตามข้อกล่าวหาที่ถูกผู้เสียหายแจ้งความไปก่อนหน้านี้

หลังพนักงาน 4 คน ถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัว ผู้บริหารอย่างนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาได้ติดต่อขอนำเอกสารหลักฐานการจัดตั้งบริษัทและการดำเนินการทางธุรกิจ ทั้งกิจการทัวร์นำเที่ยว การลงทุนในกองทุนรวม การดำเนินงานของสหกรณ์ธุรกิจ ธุรกิจร้านค้าวิสาหกิจชุมชน และการซื้อขายทองคำ เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อมอบตัวต่อสู้คดี พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาไม่ได้ฉ้อโกงประชาชนตามที่ถูกแจ้งความ อ้างธุรกิจมีปัญหาจากพิษโควิด-19 ทำท่องเที่ยวพินาจ


หลังจากข่าวตำรวจกองปราบปรามผนึกกำลัง 2 หน่วยงาน ในสังกัดสอบสวนกลาง บุกเข้าตรวจค้นสำนักงานใหญ่เอ็มกรุ๊ป และจับกุม 4 ใน 6 ผู้ต้องหาที่ถูกศาลออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงประชาชนไว้ได้ ทำให้ผู้เสียหายที่ยังลังเลไม่กล้าเข้าแจ้งความก่อนหน้านี้ ตัดสินใจ นำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ที่กองปราบปราม บ้างเข้าให้ข้อมูล หวังให้ตำรวจเร่งดำเนินการอายัดทรัพย์ของบริษัท หวั่นถูกโยกย้ายหากล่าช้า บางรายยอมรับลงทุนร่วมร้อยล้าน ได้ผลตอบแทนจริง แต่ช่วงหลังมีปัญหา ผุ้บริหารอ้างบริษัทประสพปัญหาขาดทุนจากโควิค ทั้งที่ในความเป็นจริงธุรกิจหลักยังคงมีกำไร

สำหรับคดีนี้หลังตำรวจรับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนพบคดีมีมูล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางสั่งตั้งคณะทำงานขึ้นมารับผิดชอบคดีนี้ มอบหมายให้ 3 หน่วยงานบูรณาการและเปิดปฏิการร่วมกัน โดยกองปราบปรามรับผิดชอบการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ปอศ.ทำหน้าที่สอบสวนทำคดี และ ปอท. รับผิดชอบการสืบหาทางเทคโนโลยีทั้งหมด นอกจากนี้ทั้ง 3 หน่วยงานยังคงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน ตลอดจนทรัพย์สินและธุรกิจอื่นๆ ของบริษัทเอ็มกรุ๊ป ล่าสุดมีโยกย้ายทรัพย์สินหลายรายการ ออกจากบัญชีทรัพย์สินบริษัท ขณะเดียวกันมีการเบิกถอนนออกจากบัญชีธนาคารกว่า 20 บัญชี จนเหลือเงินในบัญชีเพียงไม่กี่บาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ใต้ พายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย

ยังระดมฉีดน้ำ-โฟม สกัดเพลิงไหม้โกดังสารเคมี

เหตุเพลิงลุกไหม้โกดังเก็บสารเคมี ที่จังหวัดระยอง ผ่านมากว่า 30 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้เพลิงสงบ ขณะที่ล่าสุด จ.ระยอง ประกาศให้พื้นที่ 2 ตำบล เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว