กรุงเทพฯ 15 พ.ค. – ชายวัย 40 ปี สั่งลูกชายฆ่าภรรยาตนเองเสียชีวิตคาบ้านพัก สารภาพทำไปเพราะโกรธแค้นแทนพ่อที่ถูกผู้ตายตีตัวออกห่างไปคบหาชายคนใหม่ ยืนยันไม่ได้มีเจตนาฆ่า แต่เพราะพ่อขู่ว่าหากไม่ทำ พ่อจะฆ่าผู้ตายเเละทำร้ายตน
พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 และ พ.ต.อ.วิศิษฐ์ สังขนันท์ ผกก.สน.บางขุนเทียน ร่วมกันสอบเค้นนายวัชรินทร์ หรือเอ็กซ์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องสงสัยยิง น.ส.ชรินทร์ทร หรือแอม อายุ 25 ปี ภรรยาสาว ตลอดทั้งวัน กระทั่งยอมรับสารภาพว่าร่วมกับนายนรินทร์ หรือแมค อายุ 23 ปี ลูกชายซึ่งเป็นลูกติดภรรยาเก่า ฆ่าภรรยาสาวคาบ้านพักในชุมชนหลังตลาดวัดไทร เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร เนื่องจากเห็นว่าลูกชายไม่ถูกกับผู้ตายมานาน ตำรวจจึงคุมตัวนายนรินทร์มาสอบปากคำที่โรงพัก ซึ่งให้การรับสารภาพว่าทำไปเพราะโกรธแค้นแทนพ่อที่ถูกผู้ตายตีตัวออกห่างไปคบหาชายคนใหม่ ทั้งๆ ที่มีลูกด้วยกันแล้วถึง 2 คน
วันเกิดเหตุได้รับคำสั่งจากนายวัชรินทร์ ผู้เป็นพ่อ ให้ลงมือ โดยพ่อวางแผนนัดผู้ตายไปที่บ้าน และมอบปืนที่พ่อเป็นคนซื้อหามาในราคา 6,500 บาท ให้ตนลั่นไก เมื่อยิงแล้วพ่อยังสั่งให้ตนรีบขี่รถจักรยานยนต์นำปืนไปให้ที่ห้องพัก บริเวณสถานีสูบน้ำกรุงเทพมหานคร ซอยเพชรเกษม 81 ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของนายวัชรินทร์ และช่วยกันฝังปืนไว้ใกล้สถานีสูบน้ำ ก่อนพากันย้อนกลับไปที่บ้าน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งถูกตำรวจเชิญตัวมาที่โรงพัก ยืนยันไม่ได้มีเจตนาฆ่าผู้ตาย เเต่ที่ทำไปเพราะกลัวพ่อ เนื่องจากพ่อขู่ว่าหากไม่ทำ พ่อจะฆ่าผู้ตายเเละจะมาทำร้ายตน ประกอบกับที่ผ่านมาตนมักถูกพ่อตบตีเเละเตะต่อยบ่อยครั้ง ตนจึงไม่มีทางเลือก หลังก่อเหตุตนยังยกมือไหว้เเละขอโทษร่างผู้ตาย บอกว่าตนจำเป็นจริงๆ ทั้งนี้ อยากขอโทษญาติผู้ตายกับสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี และคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
มีรายงานข้อมูลประวัติอาชญากรของนายนรินทร์ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นลูกชายของนายวัชรินทร์ พบว่าก่อนหน้านี้เคยถูกฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน จับกุมข้อหาเสพยาและสูดดมสารระเหยหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2561 เคยถูกจับกุมพร้อมพวก หลังตั้งแก๊งลักทรัพย์ตู้เซฟเก็บเงินบริจาคของวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ถูกศาลตัดสินจำคุก พ้นโทษมาไม่นานก็มาก่อเหตุยิง น.ส.ชรินทร์ทร แม่เลี้ยงของตัวเอง.-สำนักข่าวไทย