จับแก๊งหลอกลงทุน เหยื่อสูญเงินพันล้านบาท

กรุงเทพฯ 14 พ.ค. – รวบแก๊งเปิดบริษัทหลอกผู้เสียหายร่วมลงทุน รวบผู้ต้องหาได้ 4 คน ส่วนเจ้าของบริษัทยังหลบหนี พบมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อนับพันราย สูญเงินกว่า 1,000 ล้านบาท


หลังจากสำนักข่าวไทยนำเสนอกรณีผู้เสียหายถูกบริษัทแห่งหนึ่งหลอกให้ร่วมลงทุนในธุรกิจหลายรูปแบบ โดยบริษัทดังกล่าวอ้างว่าจะให้ผลตอบเเทนสูง เป็นเหตุให้มีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก ในช่วงเเรกจะได้เงินปันผล เเต่ช่วงหลังเริ่มไม่จ่าย จนสุดท้ายกลุ่มผู้ต้องหาไม่สามารถให้ผลตอบเเทนหรือคืนเงินลงทุนได้ ผู้เสียหายพยายามติดตามทวงถามเรื่อยมาแต่ถูกบ่ายเบี่ยง และภายหลังติดต่อไม่ได้ ผู้เสียหายจึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ.

โดยกลุ่มผู้เสียหายระบุว่าถูกนายประสิทธิ์ เจ้าของบริษัท พร้อมพวก หลอกให้ลงทุน โดยลักษณะการลงทุนมี 5 รูปเเบบ ประกอบด้วย การเปิดบริษัทท่องเที่ยว ชักชวนผู้เสียหายซื้อแพ็กเกจทัวร์ แต่ไม่มีการจัดท่องเที่ยวจริง หากผู้ลงทุนไม่ประสงค์จะใช้แพ็กเกจทัวร์ สามารถนำเงินมาลงทุนหมุนเวียนกับทางบริษัทในรูปแบบอื่นได้, ชวนนำเงินมาร่วมลงทุนในรูปแบบสหกรณ์ อ้างให้ปันผลสูง โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทน 11-15 เปอร์เซ็นต์ ต่อการลงทุนในระยะเวลา 39 วัน เเต่สุดท้ายก็ไม่มีปันผล, ชักชวนซื้อ-ขายสินค้าแบรนด์เนมผ่านออนไลน์ โดยไม่ได้จับสินค้าจริง จะให้ซื้อจากบริษัทที่เป็นเครือข่ายผู้ต้องหาเท่านั้น และอ้างว่าจะเป็นผู้ปล่อยเช่าให้เอง โดยจะให้ค่าตอบแทนหรือแบ่งเปอร์เซ็นต์ในราคาที่สูงเกินจริง


ชวนลงทุนซื้อ-ขายทองคำ โดยชักชวนให้ซื้อทองคำตามร้านค้าทั่วไป ก่อนนำทองคำมาลงทุน อ้างเป็นโปรโมชั่นของบริษัท และชักชวนให้ผู้เสียหายนำเงินสดหรือทองคำมาลงทุน โดยโอนเงินเข้ากองทุนส่วนตัวนายประสิทธิ์
จากการสอบสวนพบว่ามีผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุนกว่า 1,000 ราย มูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท

ตำรวจได้สืบสวนสอบสวนจนทราบตัวเครือข่ายที่หลอกลวงผู้เสียหาย จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับนายประสิทธิ์ กับพวก รวม 6 คน ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”

จากนั้นตำรวจกองปราบปรามได้ร่วมกับตำรวจ ปอศ. เเละตำรวจ ปอท. เข้าตรวจค้น 9 จุด ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว จับผู้ต้องหาได้เเล้ว 4 ราย คือ น.ส.ณัฐวรรณอายุ 33 ปี น.ส.สิริมา อายุ 37 ปี นายกิตติวัฒน์ อายุ 40 ปี พ.ท.พญ.อมราภรณ์ อายุ 34 ปี เหลือผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ นายประสิทธิ์ ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ เเละนายกิตติศักดิ์ อายุ 55 ปี จึงเร่งสืบสวนเพื่อตามตัวมาดำเนินคดี ตำรวจคาดว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศ ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบยึดทรัพย์เพื่อเข้าสู่กระบวนการชดใช้ผู้เสียหาย


สำนักข่าวไทยตรวจสอบข้อมูลพบว่าในระหว่างที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาผิดกับบริษัทดังกล่าว นายประสิทธิ์ หนึ่งในผู้ต้องหา ได้ส่งข้อความและคลิปเสียงไปยังกลุ่มผู้ร่วมลงทุน พยายามชี้แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีการส่งอินโฟกราฟฟิกให้ผู้ร่วมลงทุนเป็นข้อมูลเปรียบเทียบว่าหากผู้เสียหายเดินหน้าฟ้องร้องดำเนินคดีต้องใช้เวลานานกว่าจะได้เงินลงทุนคืน แต่ถ้าหากอยากสร้างรายได้และคืนเงิน จะต้องนำเงินมาสนับสนุนและต่อยอดการลงทุนกับบริษัท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน