กทม.11 พ.ค.- ตำรวจ สน.พญาไท นำสำนวนคดีฟ้องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วยเลขาธิการและโฆษกคณะฯ ฐานร่วมกันยุยงปลุกปั่น ตามที่อดีตพระพุทธะอิสระให้ทนายเข้าแจ้งความเมื่อปีที่แล้ว ด้านอัยการ นัดฟังคำสั่งคดี 13 กรกฎาคมนี้
จากกรณีที่นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ มอบอำนาจให้ทนายความเข้าแจ้งข้อกล่าวหาเอาผิด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า , นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และนางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า ฐานร่วมกันยุงยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 กรณีที่ทั้ง 3 คน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กการปราศรัยกับนักศึกษา หรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ รวมถึงเชิญชวนประชาชนร่วมชุมนุมทางการเมืองเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว
วันนี้ ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาฯ พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้นำสำนวนคดีดังกล่าว พร้อมนัดผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน เดินทางไปพบพนักงานอัยการ เพื่อรายงานตัว และฟังคำสั่งฟ้องในคดีดังกล่าว โดยก่อนเข้าพบพนักงานอัยการ นายปิยบุตร ระบุว่า ที่พวกตนทั้ง 3 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหามาตรา 116 ดังกล่าว เชื่อว่าไม่เข้าองค์ประกอบความผิด เนื่องจากในสำนวนคำฟ้อง มีการกล่าวอ้างพฤติการณ์ของแต่ละคน เช่น กรณีของนายธนาธร คือนำเรื่องที่เคยมีการอภิปรายในสภา หรือการแสดงความเห็นทางวิชาการ มาชี้นำประกอบพฤติการณ์ที่ไปปรากฎตัวในการชุมนุมทางการเมือง บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อปีที่แล้ว
ส่วนของตนเป็นการนำบทความ หรือเนื้อหาที่สมัยที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย และเรื่อที่เคยมีการเขียนลงในหนังสือฉบับหนึ่ง มาชี้นำว่าเข้าข่ายกระทำความผิด ส่วนกรณีของนางสาวพรรณิการ์ มีเพียงการไลฟ์สดเฟซบุ๊กในการชุมนุมดังกล่าวเท่านั้น พร้อมกันนี้ยังได้ยกตัวอย่างหากนำข้อเท็จจริงดังกล่าว ไปออกข้อสอบในกลุ่มนิติศาสตร์ ก็เชื่อว่าทุกคนจะตอบคำถามในทางเดียวกันว่าไม่เข้าองค์ประกอบความผิด ซึ่งแม้ว่าพนักงานสอบสวนจะไม่มีความเห็นงดสั่งฟ้อง หรือทำความเห็นแนบมากับสำนวนคดี ก็ตั้งความหวังว่าอัยการจะพิจารณาให้ความเป็นธรรม เช่นเดียวกับที่เคยมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องแบบเดียวกับคดีของนายธนาธรก่อนหน้านี้ พร้อมกันนี้ยังได้ตั้งคำถามกลับไปถึงกลุ่มนักร้องเรียน ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ จะไม่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตนเองได้ตระเวนร้องทุกข์ไปตามหน่วยงานต่างๆ หรือไม่
ขณะที่นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า เนื่องจากพนักงานสอบสวนเพิ่งนำสำนวนคำร้องส่งมาให้พิจารณาในวันนี้ พนักงานอัยการจึงยังไม่ได้พิจารณาข้อเท็จจริงสรุปได้ทันทีว่า สมควรมีความเห็นทางคดีนี้อย่างไร ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงเห็นควรนัดฟังคำสั่งคดีนี้อีกครั้งในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.00 น.-สำนักข่าวไทย