กทม.11 พ.ค.- ยี่ปั๊วหวย ร้องกองปราบปราม รับโอนคดี “บ้านรวยโชค” โกงซื้อล็อตเตอรี่มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท หวั่นคดีไม่คืบหน้า เชื่อผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยตัวแทนผู้เสียหายที่ถูกโกงสลากกินแบ่งรัฐบาล กว่า 20 คน จากจำนวน 500 คน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับนางสาวจิตรา โยธาภิรมย์ หรือ เจ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลังเป็นหนึ่งในขบวนการโกงล็อตเตอรี่ และได้เข้ามอบตัวกับตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค2 เมื่อวานนี้ เพื่อให้อายัดทรัพย์ในการกระจายคืนผู้เสียหาย รวมถึงขอให้โอนสำนวนคดีมายังกองปราบปราม เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก หลายท้องที่ทั่วประเทศ และเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในคดี
นายรณณรงค์ กล่าวอีกว่า ตนตั้งข้อสังเกตุว่าอาจจะมีข้าราชการระดับสูงช่วยเหลือ และอาจมีการชดใช้เยียวให้กับผู้เสียหายแค่บางกลุ่มโดยไม่ทั่วถึง นอกจากนี้ยังเชื่อว่าในคดีนี้ มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง เพราะผู้ต้องหารายนี้อายุเพียงแค่ 30 ปี ไม่น่าจะสามารถกระทำได้คนเดียว ที่มูลค่าความเสียหายกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยหลังจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อกำชับเร่งรัดให้ทำคดี
ผู้เสียหาย คนแรก กล่าวว่า ตนเองอยู่สายของนายอ๊อฟ ซึ่งได้มีการสั่งจองและโอนเงินค่าสลากกินแบ่งรัฐบาล ล่วงหน้าในงวดวันที่ 1 มิถุนายนที่จะถึง โดยที่เชื่อเนื่องจากนายอ๊อฟ อ้างว่าหัวหน้ารู้จักผู้ใหญ่ที่จะจัดโควต้าสลากฯ ได้จำนวนมาก และราคาถูก โดยที่ผ่านมาหลายงวดไม่เคยมีปัญหา กระทั่ง 2-3 งวดหลัง นายอ๊อฟเริ่มจ่ายสลากฯ ช้า เมื่อทวงถามก็บ่ายเบี่ยง จนทำให้บางครั้งก็ต้องยอมรับซื้อคืนในราคาขาดทุน 87-88 บาท และได้สลากฯครบตามที่สั่งทุดครั้ง โดยอ้างว่าจะได้กำไรเพียงใบละ 50 สตางค์เท่านั้น และบางครั้งก็ต้องนำกำไรไปเพิ่มทุน จากความเสียหายล่าสุดที่ได้ไม่ได้รับสลากฯ ตามที่ตกลงกันไว้ แต่พวกตนได้โอนจ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้วกว่า 12-15 ล้านบาท
ส่วนผู้เสียหาย คนที่สอง เป็นสายของนายเขต กล่าวว่า ตนเองซื้อขายกับนายเขตมาร่วม 2 ปี ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีปัญหาใดๆ จนงวดหลังๆ เริ่มมีการจ่ายสลากล่าช้า จนทำให้ต้องทำหนังสือสัญญาซื้อขายเพื่อตรึงราคาของสลากฯ อยู่ที่ 80 บาท กระทั่งงวดล่าสุดนานเขต ไม่ส่งสลากให้ อ้างว่าไม่ได้ของ พร้อมอ้างว่าหัวหน้าที่ได้รับโควต้าได้หนีไปแล้ว ไม่สามารถติดต่อได้
ส่วนการทำสัญญาตรึงราคาซื้อขายสลากฯ ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าลูกทีมของตนเองจะโอนเงินค่าสลากฯ เข้าบัญชีของนายเขตโดยตรง หลังจากที่พบความผิดปกติได้มีการแจ้งไปยังลูกทีม แต่ก็ไม่ทันทำให้ลูกทีมบางส่วนยังโอนเงินเข้าบัญชีนายเขตอย่างต่อเนื่อง ทำให้มูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ผู้เสียหาย ได้เรียกร้องให้ตำรวจออกหมายเรียกนายเขตมาสอบปากคำ เพราะเป็นบุคคลที่รับโอนเงิน และเชื่อว่านายเขตรู้เห็นเกี่ยวกับความเสียหายทั้งหมด เพราะนายเขตเคยพูดว่ามีการขาดทุนสะสม ซึ่งหากนำนายเขตมาสอบปากคำน่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์.-สำนักข่าวไทย