หนุ่มอ้างเป็นโมเดลลิ่งลวงพริตตี้กระทำชำเราแล้วข่มขู่

กรุงเทพฯ 3 พ.ค. – พริตตี้สาวร้องถูกชายวัย 39 ปี ดัดเสียงเป็นกะเทย อ้างเป็นโมเดลลิ่ง ลวงไปทำมิดีมิร้าย พร้อมบังคับเสพไอซ์-ถ่ายคลิป พบมีพริตตี้สาวสวยเป็นเหยื่ออีกเพียบ


วันนี้ (3 พ.ค.) น.ส.ฟ้า (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักศึกษาปี 3 มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี เข้าให้การเพิ่มเติมกับ พ.ต.ท.ชุมพล ภู่ระหงษ์ สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน กรณีถูกนายเด่นภูมิ วัฒนโชติภิญโญ อายุ 39 ปี ชาว จ.นนทบุรี ล่อลวงไปบังคับเสพยาและกระทำชำเรา เหตุเกิดในห้องเช่าเลขที่ 157 อาคารเมโทรพาร์คสาทร ถ.กัลปพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา

น.ส.ฟ้า ให้การว่า ตนเรียนหนังสืออยู่ และรับงานพริตตี้ชงเหล้า เอนเตอร์เทนลูกค้าด้วย ก่อนเกิดเหตุ นายเด่นภูมิ ซึ่งใช้รูปผู้หญิงเป็นโปรไฟล์ โทรผ่านไลน์มาหาตน โดยดัดเสียงเป็นกะเทย อ้างว่าเป็นโมเดลลิ่ง ต้องการจ้างตนเองให้ไปชงเหล้าที่ห้องดังกล่าว ซึ่งเปิดให้เช่าแบบรายวัน โดยนายเด่นภูมิ อ้างว่า กำลังอยู่กับลูกค้าผู้ชายคนหนึ่ง สุภาพ ใจดี ทิปหนัก และมีพริตตี้อยู่ในงานด้วยอยู่แล้ว 2 คน ตนเองจึงนั่งรถแท็กซี่ออกจากที่พักย่านสุขุมวิท มุ่งหน้าไปที่ห้องดังกล่าว พอไปถึง พบนายเด่นภูมิ แต่งตัวสวมเสื้อเชิ้ต กางเกงขายาว รองเท้ากุชชี่ ถือกระเป๋าหลุยส์ ลงมารับหน้าอาคาร จากนั้นตนเองได้ขึ้นลิฟต์ไปกับนายเด่นภูมิ จนถึงในห้อง


แต่พอเข้าไปในห้อง กลับไม่พบว่ามีผู้ใดอยู่ในห้องเลยแม้แต่คนเดียว ทันใดนั้น นายเด่นภูมิ ก็ใช้มีดพกยาวประมาณ 1 คืบ จี้ตน พร้อมข่มขู่ไม่ให้ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ และบังคับให้เสพไอซ์ ก่อนจับตนแก้ผ้าและกระทำชำเรา โดยไม่สวมถุงยางอนามัย โดยนายเด่นภูมิ บังคับกระทำชำเราตนทั้งคืน และยังใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิประหว่างข่มขืนเอาไว้ด้วย กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 2 พ.ค. ระหว่างนายเด่นภูมิ หลับจากฤทธิ์ไอซ์ที่เสพมาทั้งคืน ตนเองจึงแอบหยิบเอาโทรศัพท์มือถือคืน และค้นเอาบัตรประชาชนของนายเด่นภูมิ แล้วรีบวิ่งหนีลงจากห้องพัก โดยไม่ได้สวมรองเท้า ก่อนจะไปขอความช่วยเหลือกับ รปภ.ให้ช่วยพาเข้าเเจ้งความกับตำรวจ สน.บางขุนเทียน เมื่อช่วงสายวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา

น.ส.ฟ้า กล่าวอีกว่า หลังแจ้งความ พนักงานสอบสวนส่งตัวตนเองไปตรวจร่างกายที่ รพ.ศิริราช วันนี้จึงเดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม โดยพาเพื่อนพริตตี้ที่เคยถูกนายเด่นภูมิ ล่อลวงไปกระทำชำเรามาด้วย 1 คน ซึ่งหลังจากนี้จะพยายามรวบรวมผู้เสียหายที่คาดว่ามีอีก 4-5 คน ให้ออกมาช่วยกันแจ้งความดำเนินการกับนายเด่นภูมิ จะได้ติดคุกให้เข็ดหลาบ ไม่ไปตระเวนก่อเหตุเช่นนี้กับใครได้อีก

ด้าน น.ส.ฝน (นามสมมติ) อายุ 23 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ประมาณตี 1 มีสาววัยรุ่นอายุราว 19-20 ปี อ้างตัวเป็นพริตตี้ ใช้ไลน์ไอดีนายเด่นภูมิ โทรหาตน บอกว่ามีงานเอนเตอร์เทนชงเหล้าให้ลูกค้าที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซอยจรัญสนิทวงศ์ 40/1 ท้องที่ บก.น.7 ได้ค่าเเรง 3,000 บาท ชงเหล้าแค่ 3-4 ชั่วโมง ตนเห็นว่ามีพริตตี้คนอื่นอยู่ที่งานอยู่แล้ว จึงนั่งรถไปหา พบว่าสาวพริตตี้คนดังกล่าวนุ่งกระโจมอกอยู่กับนายเด่นภูมิ ในห้องแค่ 2 คน ซึ่งทั้ง 2 คน มีอาการคล้ายคนเมายา จากนั้นนายเด่นภูมิ ไม่พูดไม่จา ใช้มีดปอกผลไม้ยาว 1 คืบ จี้คอตน แล้วยึดโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงิน จากนั้นบังคับให้ตนแก้ผ้า และให้เสพไอซ์จนตนเมา ก่อนลงมือกระทำชำเรา โดยมีพริตตี้อีกคนนอนคลุมโปงร่วมเตียงกันอยู่ด้วยทั้งคืน นอกจากนี้ นายเด่นภูมิ ยังได้ลักเอาเงินสดในกระเป๋าสตางค์ไปด้วย 5,000 บาท และบังคับให้ตนโอนเงินจากในแอปฯ ธนาคารเข้าบัญชีไปอีก 2,500 บาท กระทั่งเวลา 12.00 น. นายเด่นภูมิ ได้ใช้ไลน์ไอดีตัวเองให้ตนโทรหลอกล่อพริตตี้อีกรายหนึ่ง อายุประมาณ 25 ปี ให้เดินทางจากปากเกร็ด จ.นนทบุรี มาที่ห้องดังกล่าว เมื่อมาถึง พริตตี้รายนั้นก็ถูกกระทำชะตากรรมเดียวกัน ก่อนที่นายเด่นภูมิ จะปล่อยตนกับพริตตี้อีกคนที่อยู่ด้วยมาก่อนหน้านี้ออกจากห้องแยกย้ายกันกลับบ้าน


น.ส.ฝน บอกด้วยว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่กล้าแจ้งความ เพราะนายเด่นภูมิ ขู่เอาไว้ว่าจะตามไปฆ่าให้ตาย แต่เมื่อตนทราบข่าวเรื่อง น.ส.ฟ้า ถูกกระทำเหมือนกันในห้องไลน์กลุ่มพริตตี้ จึงตัดสินใจเดินทางมาให้กำลังใจ น.ส.ฟ้า และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานในคดีของตน เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บวรมงคล ในวันที่ 4 พ.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้มีพริตตี้เหยื่อนายเด่นภูมิ อีกไม่น้อยกว่า 4-5 ราย ทราบข่าวและกำลังตัดสินใจเข้าแจ้งความด้วยเช่นเดียวกัน

ด้าน พ.ต.ท.ชุมพล กล่าวว่า หลังรับแจ้งความจากผู้เสียหายเป็นที่เรียบร้อย ได้ส่งตัว น.ส.ฟ้า ไปตรวจร่างกายหาสารเสพติดและร่องรอยการถูกกระทำชำเราที่ รพ.ศิริราช โดยวันนี้ได้ทำการสอบปากคำเพิ่มเติม และเร่งรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับนายเด่นภูมิ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“คับข่าวครบประเด็น” ได้ทำการสืบค้นประวัติของผู้ต้องหารายนี้ พบว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2561 นายเด่นภูมิ เคยก่อเหตุลักษณะแบบนี้และถูกแจ้งความดำเนินคดี จนถูกจับเข้าคุกมาแล้ว โดยได้แอบอ้างเป็นทีมงานจัดหานักแสดงค่าย “เอ ศุภชัย” และแคปเจอร์ภาพเน็ตไอดอล วัย 18 ปี ลักษณะเปลือยกายขณะวิดีโอคอลคุยกันอยู่ แล้วข่มขู่บังคับให้มีเพศสัมพันธ์

ซึ่งครั้งนั้น เน็ตไอดอลสาว ผู้เสียหาย เล่าว่า คนร้ายนำเบอร์โทรศัพท์ของตนมาจากเฟซบุ๊ก อ้างว่าเป็นคนจัดหาดาราของผู้จัดการคนดัง “เอ ศุภชัย” จะให้ไปเป็นพิธีกรของรายการ จากนั้นตนโพสต์ข้อความบ่นว่าปวดท้อง คนร้ายก็ฉวยโอกาสอ้างว่ามีความรู้ด้านการแพทย์ จึงวิดีโอคอลเข้ามาพูดคุย และให้ตนเองถอดเสื้อผ้า ตนหลงเชื่อและปฏิบัติตาม เพราะอยากเป็นดาราด้วย คนร้ายได้แคปเจอร์ภาพเปลือยของตนมาบังคับขอมีเพศสัมพันธ์ หากไม่ยอมจะเผยแพร่ในโซเชียล ซึ่งเธอได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา แต่ตำรวจปฏิเสธ จึงเดินทางไปร้องทุกข์ที่ ปอท.แทน กระทั่งถูกตำรวจ สภ.ปักธงชัย จับกุม และพ้นโทษ จนมาก่อเหตุอีกหลายครั้ง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน