รับศพ 4 วีรบุรุษกู้ภัยบ้านถล่มไปบำเพ็ญกุศล

กรุงเทพฯ 4 เม.ย.- รับแล้ว 4 ศพวีรบุรุษกู้ภัยที่ติดค้างอยู่ในเหตุไฟไหม้ โดยภรรยาของต้น สยามนนท์ กู้ภัยที่ถูกพบเป็นศพแรก เล่าด้วยความเศร้า มีนัดไปทำบุญกับสามี แต่สามีไม่กลับมา ส่วนแม่ยืนยันลูกชอบช่วยเหลือคน วันนี้ภูมิใจแต่พูดไม่ได้เต็มปาก เพราะอีกใจก็ไม่อยากสูญเสียลูกชายไป 


ภายหลัง 25 ชั่วโมงแห่งความพยายามกู้ร่างของ 3 อาสาสมัครกู้ภัย และผู้พักอาศัย 1 คน ที่ติดค้างอยู่ในบ้านเขตทวีวัฒนา 08.25 น. คือช่วงเวลาที่ร่างของผู้เสียชีวิตรายสุดท้ายคือ นายเกียรติ แพตเตอร์สัน อายุ 35 ปี ผู้พักอาศัย ถูกนำออกมาจากตัวบ้าน ก่อนถูกนำส่งนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช ขณะที่ก่อนหน้านี้ ที่สำนักข่าวไทยรายงานไปแล้วว่า พบร่างผู้เสียชีวิตรายแรกคือตั้งแต่ตอน 9.00 น. คือนายธนภพ ประไพ อายุ 44 ปี อาสาสมัครกู้ภัย 

ด้วยความที่ไม่ละความพยายาม เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 4 คน ในช่วงเวลา 1.00 น. แต่การนำร่างออกมายังเสี่ยงต่อการทรุดตัวของบ้าน เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้มือขุดเป็นโพรง แล้วนำเครื่องตัดถ่างเข้าไปง้างเหล็กที่ทับร่างผู้เสียชีวิตให้ถ่างออก กระทั่งได้ความกว้างพอที่จะนำร่างผู้เสียชีวิตที่เป็นอาสามัครกู้ภัยออกมาได้อีก 1 คน คือ นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด อายุ 38 ปี ซึ่งตอนนั้นทันทีที่นำร่างออกมาได้ ผู้ว่าฯ กทม.ที่ยังเกาะติดสถานการณ์ ได้นำธงชาติมาคลุมร่างให้อย่างสมเกียรติ ส่วนร่างผู้เสียชีวิตอีก 3 คนที่ยังคงติดค้างอยู่ภายใน ประกอบด้วย นายสมัญญา นิลธง, นายอรรถพล ท้วมทอง อาสาสมัครกู้ภัย และนายเกียรติ แพตเตอร์สัน ผู้พักอาศัย


เจ้าหน้าที่บอกว่า ติดค้างอยู่ในชั้นที่ลึกกว่าผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ที่นำออกมาได้ และอุปสรรคสำคัญคือไม่สามารถนำเครื่องจักรหนักเข้าไปยังจุดที่กำหนดได้ เพราะมีคานปูนวางทับอยู่ ประกอบกับแผ่นปูนวางเป็นลักษณะคล้ายกับขนมชั้น วิศวกรรมสถานจึงแนะให้เพิ่มความระมัดระวังในการทำงาน เพราะห่วงว่าหากเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว อาจกระทบกับร่างผู้เสียชีวิต  

อย่างไรก็ตามหลังใช้เวลาในการวางแผนและใช้อุปกรณ์ตรวจสอบภาพจุดที่ผู้เสียชีวิตติดค้างอย่างละเอียดถี่ถ้วน เจ้าหน้าที่ตัดสินใจนำรถแบ็กโฮเปิดแผ่นปูน และเวลา 06.28 น. ก็สามารถนำร่างของ 2 อาสามัครกู้ภัย นายสมัญญา นิลธง และนายอรรถพล ท้วมทอง ออกมาจากตัวบ้านได้สำเร็จ และ 08.25 น. เจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่าง นายเกียรติ แพตเตอร์สัน ผู้เสียชีวิตที่ติดค้างรายสุดท้ายออกมาจากตัวบ้านได้สำเร็จ ท่ามกลางความโล่งใจ และเสียใจของครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มารอติดตามข่าวในที่เกิดเหตุ  

จากนั้นครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้เดินทางไปติดต่อที่นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช เพื่อรับร่างกลับมาบำเพ็ญกุศล โดย 1 ในนั้น คือนางทิพา ทันปรีชา พร้อมด้วยนางสาวพัตรพิมล ศรีไพร แม่และภรรยาของนายธนภพ ประไพ อาสาสมัครกู้ภัย หรือที่ถูกเรียกขานกันว่า “ต้น สยามนนท์” โดยแม่กอดรูปถ่ายของลูกชายแนบอกอยู่ตลอดเวลาขณะรอให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง กู้ภัย และอาสาสมัคร จัดเตรียมร่างของนายธนภพเคลื่อนย้ายที่วัดนครอินทร์ จังหวัดนนนทบุรี เพื่อบำเพ็ญกุศลอย่างสมเกียรติ  


นางทิพาเล่าว่า ลูกชายเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือสังคม ทุกครั้งที่ลูกออกปฏิบัติหน้าที่ แม่จะคอยเตือนตลอดว่าให้ดูแลตัวเอง คิดไม่ถึงวันนี้จะสูญเสียลูกชาย และพูดไม่ได้เต็มปากว่าภูมิใจที่ลูกชายเสียสละชีวิตเพื่อช่วยผู้อื่น เพราะอีกใจก็ไม่อยากเสียลูกชายไป และวันเกิดเหตุแม่ก็ไปทำงาน ไม่ได้ติดตามข่าว กระทั่งมารู้จากเพื่อนว่าลูกชายจากไปอย่างไม่มีวันกลับแล้ว

ด้านนางสาวพัตรพิมล ภรรยาของนายธนพล เล่าว่า ช่วงเช้ามืดมีเจ้าหน้าที่โทรมาบอกว่ามีเหตุเพลิงไหม้สามีจึงรีบลุกออกไปทำหน้าที่และบอกว่าจะกลับมาตอน 7.00 น. เพราะนัดว่าจะไปทำบุญกัน แต่สุดท้ายสามีไม่กลับมา จากนั้นรุ่นน้องได้โทรมาสอบถามการแต่งกายของนายธนภพซึ่งใจหายมาก เพราะรุ่นน้องบอกว่า ผู้เสียขีวิตและพบศพเป็นรายแรกได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นสามีของตัวเอง เพราะที่หมวกนิรภัยมีเลข 46 ซึ่งตรงกับเลขหมวกของสามี ยอมรับว่าสามีเป็นคนรักงานกู้ภัย และเป็นคนระวังตัว มีประสบการณ์การทำงานมานาน 25 ปี แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ภูมิใจที่สามีได้ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง และได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษ แต่ลึกๆ ก็ยอมรับว่าเสียใจที่ต้องสูญเสีย

จากนั้นครอบครัวของนายสมัชญา นิลธง, นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด และนายอรรถพล ท้วมทอง อาสาสมัครกู้ภัยก็ทยอยเดินทางมารับศพไปบำเพ็ญกุศล ยกเว้นศพของ นายเกียรติ แพตเตอร์สัน ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ ยังไม่มีผู้ติดต่อมารับศพ 

ขณะที่ เพจเฟซบุ๊กจิตอาสาพระราชทาน โพสต์ภาพที่มีข้อความว่า ในหลวงทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ กรณีบ้าน นายอดิสรณ์ ฯ ถูกไฟไหม้และพังทลายลงมา มีผู้เสียชีวิต 5 คน และได้รับบาดเจ็บ 6 คน ดังนี้ 1.ทรงรับผู้เสียชีวิตเป็นศพในพระบรมราชานุเคราะห์ และผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์  2.ให้ติดตามการให้การช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบเหตุ หากมีเหตุขัดข้องให้ขอรับพระราชทานการช่วยเหลือในโอกาสต่อไป

ด้านเฟซบุ๊ก กองปราบปราม โพสต์รูปและข้อความส่งความเสียใจไปยังครอบครัวของอาสมัครกู้ภัยที่เสียชีวิต โดยระบุว่าจากกรณีเพลิงไหม้บ้านในเขตทวีวัฒนา ซึ่งอาคารถล่มลงมาระหว่างเจ้าหน้าที่กู้ภัย ปฏิบัติหน้าที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรณีดังกล่าวเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน ในจำนวนนี้เป็นวีรบุรุษอาสาบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 4 คน กองบังคับการปราบปราม ขอแสดงความเสียใจกับทุกครอบครัว และขอเป็นหนึ่งกำลังใจ ยกย่องเจ้าหน้าที่ทีมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยทุกท่าน ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเสียสละในครั้งนี้

ขณะที่นายอดิสรณ์ โสภา หรือ เอ มินเนี่ยน เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุไฟไหม้ โพสต์เฟชบุ๊กว่า “ผมขอแสดงความเสียใจ และขอสุดุดีในความกล้าหาญของเหล่าพี่ๆ อาสากู้ภัยทั้ง 4 ท่าน หลังจากนี้ผมจะพยายามหาทางช่วยดูแลครอบครัวของพวกท่านด้วยวิธีการตามแบบของผม ถ้าคิดออกแล้ว ผมขออนุญาตมาประชาสัมพันธ์ในช่องทางนี้นะครับ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ขออนุญาตให้เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานก่อนนะครับ ผมคงพูดมากไม่ได้ ลูกน้องที่เหลืออีก 7 คนที่อาศัยภายในบ้านเกิดเหตุปลอดภัยแล้วนะครับ อยู่โรงพยาบาลแล้ว รอรักษาตัวให้หายดีแล้วคงกลับไปทำหน้าที่เดิมๆ ที่เคยทำ ขอบพระคุณเพื่อนๆ บ้านที่ส่งกำลังใจมาให้ และพร้อมจะซัพพอร์ตผมต่อไป กราบลาดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตทุกท่าน เมื่อวานผมไปทำบุญที่วัดปากน้ำไทยในโตเกียวให้ทุกส่วนชั้นตอนในทางโลก ต้องขอเวลาสักพักนะครับ”.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์

วัดไตรมิตร 14 ก.ค.- “รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์ ชี้ต้องร่วมมือกัน ทั้งตำรวจ-มส.-พศ. ย้ำต้องเร่งแก้ให้เร็วที่สุด ก่อนประชาชนหมดศรัทธา สั่งสำนักพุทธฯ ดูกฎหมายอาญา 206 เอาผิดสีกา ก. ได้หรือไม่ ย้อนถาม พศ. ทำไมไม่รู้ จี้ให้ทำงานเชิงรุก บอกหลัง 1 ต.ค.นี้ ทุกวัดต้องส่งรายงานการเงินทุกเดือนและทุกปี ตามกฎกระทรวงใหม่ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เมื่อมาถึงได้เข้ากราบสักการะสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ก่อนเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เพื่อรับแนวทางปฏิบัติ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ภายหลังการเข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) นานกว่า 30 นาที นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องสงฆ์ที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มหาเถรสมาคม มีการประชุมตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเป็นการประชุมเร่งด่วนฉุกเฉิน […]

แจ้งข้อหาอดีตทหารพรานทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 14 ก.ค. – ตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายกับอดีตทหารพรานต่อยทหารกัมพูชาที่ปราสาทตาเมือนธม ขณะที่ ศบ.ทก. ยืนยันไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง พ.ต.อ.นพดล พินิจอักษร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพนมดงรัก เปิดเผยความคืบหน้าอดีตทหารพรานและนักท่องเที่ยวทำร้ายทหารกัมพูชา ว่า ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี เบื้องต้นตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ในส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาพบพนักงานสอบสวน ยังไม่ได้หลบหนีไปไหน สามารถเรียกตัวมาแจ้งข้อหาได้ ขณะที่ปราสาทตาเมือนธม มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมกันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่พบทหารคนที่โดนชกแต่อย่างใด ขณะที่ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยืนยันไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง หลังนักท่องเที่ยวไทยทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศทำหนังสือประท้วง ปมวัดภูม่านฟ้า มองแอบแฝงการเมือง ย้ำมรดกทางวัฒนธรรมควรเสริมสร้างความสัมพันธ์ใม่ใช่แบ่งแยก.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพ “พระปริยัติธาดา” วัดกัลยาณมิตรฯ สึกที่ระยอง

ระยอง 14 ก.ค. – เปิดภาพ “พระปริยัติธาดา” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ พัวพันสีกากอล์ฟ สึกแล้วที่ จ.ระยอง ขณะที่พระบางรูปยืนยันไม่สึก เพราะแม้เป็นข่าวแต่ไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง ส่วนเงินที่โอนเป็นเงินส่วนตัว ให้เพราะเมตตา ภาพล่าสุดของพระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ที่มีข่าวว่าหายตัวนานหลายวัน เพราะมีคนเปิดเผยหลักฐานความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 61 และก่อนหน้านี้มีกระแสว่า ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ สึกไปแล้วตั้งแต่วันศุกร์ แต่เมื่อเช้านี้ (14 ก.ค.) ภาพนี้ได้ยืนยันว่า พระปริยัติธาดา ได้สึกแล้วที่วัดในพื้นที่ จ.ระยอง เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา “พระภาวนาวิริยคุณ” ลั่นไม่สึก ให้ด้วยความเมตตาขณะที่พระที่ยังไม่สึกอย่าง พระภาวนาวิริยคุณ หรือพระอาจารย์ไสว ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ มีชื่อพัวพันโอนเงินให้สีกากอล์ฟ 182,200 บาท แต่ท่านได้ย้ายมาเป็นประธานสงฆ์ที่วัดไชยมงคล จ.พิษณุโลก ตั้งแต่ปี 62 โดยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวัด และเผยแผ่พระพุทธศาสนาผ่านโซเชียล ท่านเปิดใจกับทีมข่าวยืนยันว่าเรื่องราวเกี่ยวพันกับสีกากอล์ฟ เกิดขึ้นเมื่อปี 66 โดยฝ่ายหญิงติดต่อมาทางแชท ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาชีวิต […]

“ภูมิธรรม” ลั่นเอาผิดถึงที่สุดคดีสีกากอล์ฟ เรื่องนี้ไม่จบง่าย

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. – “ภูมิธรรม” ประสานดีเอสไอช่วยตำรวจสอบสวนกลาง ทำคดีสีกากอล์ฟ ลั่นเรื่องนี้ไม่จบง่าย เอาผิดถึงที่สุด เพราะมีลักษณะบ่อนทำลาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินคดีเอาผิดสีกากอล์ฟ และพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้อง ว่า จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าไปช่วยดู เพราะคดีนี้สั่นสะเทือนความรู้สึกของประชาชน กระทบความมั่นคงในแง่ของพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหลักของประเทศ โดยเมื่อเช้านี้ตนได้พูดคุยกับอธิบดีดีเอสไอ ให้ช่วยเข้าไปดู หรือมีอะไรที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้กับตำรวจที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งอธิบดีดีเอสไอก็รับเรื่องไปพิจารณาดำเนินการ และยังได้คุยโทรศัพท์กับ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งอยู่ระหว่างติดราชการต่างประเทศ โดยตนได้กำชับว่าเรื่องนี้ต้องจริงจัง ต้องเริ่มต้นด้วยการตั้งข้อหาสีกากอล์ฟให้ชัดเจนมากขึ้น และให้ประสานงานกับทางดีเอสไอ ซึ่ง พลตำรวจโท จินภพ ยินดี เพราะเป็นเรื่องที่ต้องการทำอยู่แล้ว เนื่องจากกระทบกับพุทธศาสนา และให้รายงานตนด้วย โดยเรื่องนี้จะไม่ปล่อยผ่านเฉยๆ และย้ำว่าได้กำชับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ การที่ให้ดีเอสไอเข้ามาช่วยดูคดี ไม่ได้หมายความว่าให้โอนคดีไปที่ดีเอสไอ แต่ให้มาช่วยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางดู โดยหลักการจะให้ตำรวจสอบสวนกลางทำคดีต่อไป ส่วนดีเอสไอมีอะไรเสริมได้ก็จะดี เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาคดีที่เกี่ยวกับสงฆ์ […]