รับศพ 4 วีรบุรุษกู้ภัยบ้านถล่มไปบำเพ็ญกุศล

กรุงเทพฯ 4 เม.ย.- รับแล้ว 4 ศพวีรบุรุษกู้ภัยที่ติดค้างอยู่ในเหตุไฟไหม้ โดยภรรยาของต้น สยามนนท์ กู้ภัยที่ถูกพบเป็นศพแรก เล่าด้วยความเศร้า มีนัดไปทำบุญกับสามี แต่สามีไม่กลับมา ส่วนแม่ยืนยันลูกชอบช่วยเหลือคน วันนี้ภูมิใจแต่พูดไม่ได้เต็มปาก เพราะอีกใจก็ไม่อยากสูญเสียลูกชายไป 


ภายหลัง 25 ชั่วโมงแห่งความพยายามกู้ร่างของ 3 อาสาสมัครกู้ภัย และผู้พักอาศัย 1 คน ที่ติดค้างอยู่ในบ้านเขตทวีวัฒนา 08.25 น. คือช่วงเวลาที่ร่างของผู้เสียชีวิตรายสุดท้ายคือ นายเกียรติ แพตเตอร์สัน อายุ 35 ปี ผู้พักอาศัย ถูกนำออกมาจากตัวบ้าน ก่อนถูกนำส่งนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช ขณะที่ก่อนหน้านี้ ที่สำนักข่าวไทยรายงานไปแล้วว่า พบร่างผู้เสียชีวิตรายแรกคือตั้งแต่ตอน 9.00 น. คือนายธนภพ ประไพ อายุ 44 ปี อาสาสมัครกู้ภัย 

ด้วยความที่ไม่ละความพยายาม เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 4 คน ในช่วงเวลา 1.00 น. แต่การนำร่างออกมายังเสี่ยงต่อการทรุดตัวของบ้าน เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้มือขุดเป็นโพรง แล้วนำเครื่องตัดถ่างเข้าไปง้างเหล็กที่ทับร่างผู้เสียชีวิตให้ถ่างออก กระทั่งได้ความกว้างพอที่จะนำร่างผู้เสียชีวิตที่เป็นอาสามัครกู้ภัยออกมาได้อีก 1 คน คือ นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด อายุ 38 ปี ซึ่งตอนนั้นทันทีที่นำร่างออกมาได้ ผู้ว่าฯ กทม.ที่ยังเกาะติดสถานการณ์ ได้นำธงชาติมาคลุมร่างให้อย่างสมเกียรติ ส่วนร่างผู้เสียชีวิตอีก 3 คนที่ยังคงติดค้างอยู่ภายใน ประกอบด้วย นายสมัญญา นิลธง, นายอรรถพล ท้วมทอง อาสาสมัครกู้ภัย และนายเกียรติ แพตเตอร์สัน ผู้พักอาศัย


เจ้าหน้าที่บอกว่า ติดค้างอยู่ในชั้นที่ลึกกว่าผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ที่นำออกมาได้ และอุปสรรคสำคัญคือไม่สามารถนำเครื่องจักรหนักเข้าไปยังจุดที่กำหนดได้ เพราะมีคานปูนวางทับอยู่ ประกอบกับแผ่นปูนวางเป็นลักษณะคล้ายกับขนมชั้น วิศวกรรมสถานจึงแนะให้เพิ่มความระมัดระวังในการทำงาน เพราะห่วงว่าหากเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว อาจกระทบกับร่างผู้เสียชีวิต  

อย่างไรก็ตามหลังใช้เวลาในการวางแผนและใช้อุปกรณ์ตรวจสอบภาพจุดที่ผู้เสียชีวิตติดค้างอย่างละเอียดถี่ถ้วน เจ้าหน้าที่ตัดสินใจนำรถแบ็กโฮเปิดแผ่นปูน และเวลา 06.28 น. ก็สามารถนำร่างของ 2 อาสามัครกู้ภัย นายสมัญญา นิลธง และนายอรรถพล ท้วมทอง ออกมาจากตัวบ้านได้สำเร็จ และ 08.25 น. เจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่าง นายเกียรติ แพตเตอร์สัน ผู้เสียชีวิตที่ติดค้างรายสุดท้ายออกมาจากตัวบ้านได้สำเร็จ ท่ามกลางความโล่งใจ และเสียใจของครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มารอติดตามข่าวในที่เกิดเหตุ  

จากนั้นครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้เดินทางไปติดต่อที่นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช เพื่อรับร่างกลับมาบำเพ็ญกุศล โดย 1 ในนั้น คือนางทิพา ทันปรีชา พร้อมด้วยนางสาวพัตรพิมล ศรีไพร แม่และภรรยาของนายธนภพ ประไพ อาสาสมัครกู้ภัย หรือที่ถูกเรียกขานกันว่า “ต้น สยามนนท์” โดยแม่กอดรูปถ่ายของลูกชายแนบอกอยู่ตลอดเวลาขณะรอให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง กู้ภัย และอาสาสมัคร จัดเตรียมร่างของนายธนภพเคลื่อนย้ายที่วัดนครอินทร์ จังหวัดนนนทบุรี เพื่อบำเพ็ญกุศลอย่างสมเกียรติ  


นางทิพาเล่าว่า ลูกชายเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือสังคม ทุกครั้งที่ลูกออกปฏิบัติหน้าที่ แม่จะคอยเตือนตลอดว่าให้ดูแลตัวเอง คิดไม่ถึงวันนี้จะสูญเสียลูกชาย และพูดไม่ได้เต็มปากว่าภูมิใจที่ลูกชายเสียสละชีวิตเพื่อช่วยผู้อื่น เพราะอีกใจก็ไม่อยากเสียลูกชายไป และวันเกิดเหตุแม่ก็ไปทำงาน ไม่ได้ติดตามข่าว กระทั่งมารู้จากเพื่อนว่าลูกชายจากไปอย่างไม่มีวันกลับแล้ว

ด้านนางสาวพัตรพิมล ภรรยาของนายธนพล เล่าว่า ช่วงเช้ามืดมีเจ้าหน้าที่โทรมาบอกว่ามีเหตุเพลิงไหม้สามีจึงรีบลุกออกไปทำหน้าที่และบอกว่าจะกลับมาตอน 7.00 น. เพราะนัดว่าจะไปทำบุญกัน แต่สุดท้ายสามีไม่กลับมา จากนั้นรุ่นน้องได้โทรมาสอบถามการแต่งกายของนายธนภพซึ่งใจหายมาก เพราะรุ่นน้องบอกว่า ผู้เสียขีวิตและพบศพเป็นรายแรกได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นสามีของตัวเอง เพราะที่หมวกนิรภัยมีเลข 46 ซึ่งตรงกับเลขหมวกของสามี ยอมรับว่าสามีเป็นคนรักงานกู้ภัย และเป็นคนระวังตัว มีประสบการณ์การทำงานมานาน 25 ปี แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ภูมิใจที่สามีได้ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง และได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษ แต่ลึกๆ ก็ยอมรับว่าเสียใจที่ต้องสูญเสีย

จากนั้นครอบครัวของนายสมัชญา นิลธง, นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด และนายอรรถพล ท้วมทอง อาสาสมัครกู้ภัยก็ทยอยเดินทางมารับศพไปบำเพ็ญกุศล ยกเว้นศพของ นายเกียรติ แพตเตอร์สัน ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ ยังไม่มีผู้ติดต่อมารับศพ 

ขณะที่ เพจเฟซบุ๊กจิตอาสาพระราชทาน โพสต์ภาพที่มีข้อความว่า ในหลวงทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ กรณีบ้าน นายอดิสรณ์ ฯ ถูกไฟไหม้และพังทลายลงมา มีผู้เสียชีวิต 5 คน และได้รับบาดเจ็บ 6 คน ดังนี้ 1.ทรงรับผู้เสียชีวิตเป็นศพในพระบรมราชานุเคราะห์ และผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์  2.ให้ติดตามการให้การช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบเหตุ หากมีเหตุขัดข้องให้ขอรับพระราชทานการช่วยเหลือในโอกาสต่อไป

ด้านเฟซบุ๊ก กองปราบปราม โพสต์รูปและข้อความส่งความเสียใจไปยังครอบครัวของอาสมัครกู้ภัยที่เสียชีวิต โดยระบุว่าจากกรณีเพลิงไหม้บ้านในเขตทวีวัฒนา ซึ่งอาคารถล่มลงมาระหว่างเจ้าหน้าที่กู้ภัย ปฏิบัติหน้าที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรณีดังกล่าวเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน ในจำนวนนี้เป็นวีรบุรุษอาสาบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 4 คน กองบังคับการปราบปราม ขอแสดงความเสียใจกับทุกครอบครัว และขอเป็นหนึ่งกำลังใจ ยกย่องเจ้าหน้าที่ทีมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยทุกท่าน ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเสียสละในครั้งนี้

ขณะที่นายอดิสรณ์ โสภา หรือ เอ มินเนี่ยน เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุไฟไหม้ โพสต์เฟชบุ๊กว่า “ผมขอแสดงความเสียใจ และขอสุดุดีในความกล้าหาญของเหล่าพี่ๆ อาสากู้ภัยทั้ง 4 ท่าน หลังจากนี้ผมจะพยายามหาทางช่วยดูแลครอบครัวของพวกท่านด้วยวิธีการตามแบบของผม ถ้าคิดออกแล้ว ผมขออนุญาตมาประชาสัมพันธ์ในช่องทางนี้นะครับ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ขออนุญาตให้เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานก่อนนะครับ ผมคงพูดมากไม่ได้ ลูกน้องที่เหลืออีก 7 คนที่อาศัยภายในบ้านเกิดเหตุปลอดภัยแล้วนะครับ อยู่โรงพยาบาลแล้ว รอรักษาตัวให้หายดีแล้วคงกลับไปทำหน้าที่เดิมๆ ที่เคยทำ ขอบพระคุณเพื่อนๆ บ้านที่ส่งกำลังใจมาให้ และพร้อมจะซัพพอร์ตผมต่อไป กราบลาดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตทุกท่าน เมื่อวานผมไปทำบุญที่วัดปากน้ำไทยในโตเกียวให้ทุกส่วนชั้นตอนในทางโลก ต้องขอเวลาสักพักนะครับ”.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จนท.ห้ามล่าสัตว์ป่า หายตัวปริศนา 3 วัน หลังไปขายลอตเตอรี่

อุทัยธานี 14 ก.ย.- แม่เศร้าลูกชาย ซึ่งเป็น จนท.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา หายตัวปริศนา 3 วัน หลังออกเวรไปเร่ขายลอตเตอรี่ แต่จนถึงขณะนี้ ยังติดต่อไม่ได้ นางจำรัส อายุ 57 ปี ชาวบ้านบึงเจริญ หมู่ 9 ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี นำเบาะแส เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด มอบให้สื่อมวลชน ช่วยเป็นกระบอกเสียง ในการตามหาลูกชาย คือนายเอกฉัตร อายุ 39 ปี ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา ต.ระบำ อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนาน 3 วัน โดยภาพวงจรปิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน นายเอกฉัตรนำแผงลอตเตอรี่มาขาย ที่ร้านของชำของแม่ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ สีแดงออกไป กระทั่งล่าสุด วันที่ 11 กันยายน กล้องอีกจุดจับภาพนายเอกฉัตร ขี่รถจักรยานยนต์ สีเขียว ทะเบียน 1ขอ […]

ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี

14 ก.ย.- ตำรวจสอบสวนกลาง ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี พบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 30 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง บุกจับนายณัฐพงษ์ อายุ 36 ปี นายวิเนตร อายุ 28 ปี และนายธีรวุฒิ อายุ 34 ปี ที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมของกลางหลายรายการ หลังมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเครือข่ายเงินกู้นอกระบบเก็บดอกเบี้ยถึงร้อยละ 626.25 ต่อปี กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนถูกกฎหมายได้ ผู้กู้ไม่ต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตนไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน โอนเงินให้ผู้กู้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ไปบัญชีธนาคารของผู้กู้ โดยหักยอดเงินกู้เป็นดอกเบี้ยงวดแรก และงวดสุดท้ายไว้ก่อน หากผิดนัดชำระหนี้ ก็จะไประรานลูกหนี้อย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย. -สำนักข่าวไทย

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย กกต.คาดรู้ผลก่อน 3 ทุ่ม

เชียงราย 14 ก.ย.- กกต. คาดผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย 65% เหตุอากาศเป็นใจ พบประชาชนตื่นตัวมารอใช้สิทธิแต่เช้า รู้ผลก่อน 3 ทุ่มคืนนี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 7 จังหวัดเชียงราย ว่า ภาพรวมเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมารอใช้สิทธิทั้ง 2 หน่วยภายในโรงเรียนบ้านสบคา ซึ่งวันนี้สภาพอากาศเป็นใจท้องฟ้าปลอดโปร่ง หากเป็นไปเช่นนี้จะมีส่วนทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดีที่อากาศเอื้ออำนวยในการออกเสียงเลือกตั้งวันนี้ ซึ่งมีตั้งเป้าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 65 แม้จะเป็นงานยาก เพราะมีเงื่อนไขในเรื่องของกำหนดเวลายุบสภา แต่ด้วยความร่วมมือของทั้งพรรคการเมืองและผู้สมัคร และทางจังหวัดเชียงราย กกต.จังหวัดเชียงราย คาดว่าตัวเลขผู้ออกมาใช้สิทธิจะใกล้เคียงเป้าที่ได้ตั้งเป้าไว้ สำหรับรายงานผล เมื่อปิดหน่วยในเวลา 17.00 น. กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะมีการตรวจบัตรและนับคะแนน คาดว่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในเวลาประมาณ 20.00 – 21.00 น. ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยระบุว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของชาวจังหวัดเชียงราย และเลขา กกต.ได้มาตรวจเยี่ยมการเลือกตั้งซ่อม สส.เขตเลือกตั้งที่ 7 พร้อมเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะเป็นหน้าที่ เลือกคนดีเข้าสภาเป็นหน้าที่ของชาวจังหวัดเชียงราย […]

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยยังคงมีฝน ภาคใต้หนักสุด

กทม. 14 ก.ย.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง เตือนภาคใต้เตรียมรับมือฝนถล่ม ทะเลคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยา เผยภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่เนื่องจากมีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงเหนือและลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุม ส่วนประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง – สำนักข่าวไทย