รับศพ 4 วีรบุรุษกู้ภัยบ้านถล่มไปบำเพ็ญกุศล

กรุงเทพฯ 4 เม.ย.- รับแล้ว 4 ศพวีรบุรุษกู้ภัยที่ติดค้างอยู่ในเหตุไฟไหม้ โดยภรรยาของต้น สยามนนท์ กู้ภัยที่ถูกพบเป็นศพแรก เล่าด้วยความเศร้า มีนัดไปทำบุญกับสามี แต่สามีไม่กลับมา ส่วนแม่ยืนยันลูกชอบช่วยเหลือคน วันนี้ภูมิใจแต่พูดไม่ได้เต็มปาก เพราะอีกใจก็ไม่อยากสูญเสียลูกชายไป 


ภายหลัง 25 ชั่วโมงแห่งความพยายามกู้ร่างของ 3 อาสาสมัครกู้ภัย และผู้พักอาศัย 1 คน ที่ติดค้างอยู่ในบ้านเขตทวีวัฒนา 08.25 น. คือช่วงเวลาที่ร่างของผู้เสียชีวิตรายสุดท้ายคือ นายเกียรติ แพตเตอร์สัน อายุ 35 ปี ผู้พักอาศัย ถูกนำออกมาจากตัวบ้าน ก่อนถูกนำส่งนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช ขณะที่ก่อนหน้านี้ ที่สำนักข่าวไทยรายงานไปแล้วว่า พบร่างผู้เสียชีวิตรายแรกคือตั้งแต่ตอน 9.00 น. คือนายธนภพ ประไพ อายุ 44 ปี อาสาสมัครกู้ภัย 

ด้วยความที่ไม่ละความพยายาม เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 4 คน ในช่วงเวลา 1.00 น. แต่การนำร่างออกมายังเสี่ยงต่อการทรุดตัวของบ้าน เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้มือขุดเป็นโพรง แล้วนำเครื่องตัดถ่างเข้าไปง้างเหล็กที่ทับร่างผู้เสียชีวิตให้ถ่างออก กระทั่งได้ความกว้างพอที่จะนำร่างผู้เสียชีวิตที่เป็นอาสามัครกู้ภัยออกมาได้อีก 1 คน คือ นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด อายุ 38 ปี ซึ่งตอนนั้นทันทีที่นำร่างออกมาได้ ผู้ว่าฯ กทม.ที่ยังเกาะติดสถานการณ์ ได้นำธงชาติมาคลุมร่างให้อย่างสมเกียรติ ส่วนร่างผู้เสียชีวิตอีก 3 คนที่ยังคงติดค้างอยู่ภายใน ประกอบด้วย นายสมัญญา นิลธง, นายอรรถพล ท้วมทอง อาสาสมัครกู้ภัย และนายเกียรติ แพตเตอร์สัน ผู้พักอาศัย


เจ้าหน้าที่บอกว่า ติดค้างอยู่ในชั้นที่ลึกกว่าผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ที่นำออกมาได้ และอุปสรรคสำคัญคือไม่สามารถนำเครื่องจักรหนักเข้าไปยังจุดที่กำหนดได้ เพราะมีคานปูนวางทับอยู่ ประกอบกับแผ่นปูนวางเป็นลักษณะคล้ายกับขนมชั้น วิศวกรรมสถานจึงแนะให้เพิ่มความระมัดระวังในการทำงาน เพราะห่วงว่าหากเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว อาจกระทบกับร่างผู้เสียชีวิต  

อย่างไรก็ตามหลังใช้เวลาในการวางแผนและใช้อุปกรณ์ตรวจสอบภาพจุดที่ผู้เสียชีวิตติดค้างอย่างละเอียดถี่ถ้วน เจ้าหน้าที่ตัดสินใจนำรถแบ็กโฮเปิดแผ่นปูน และเวลา 06.28 น. ก็สามารถนำร่างของ 2 อาสามัครกู้ภัย นายสมัญญา นิลธง และนายอรรถพล ท้วมทอง ออกมาจากตัวบ้านได้สำเร็จ และ 08.25 น. เจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่าง นายเกียรติ แพตเตอร์สัน ผู้เสียชีวิตที่ติดค้างรายสุดท้ายออกมาจากตัวบ้านได้สำเร็จ ท่ามกลางความโล่งใจ และเสียใจของครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มารอติดตามข่าวในที่เกิดเหตุ  

จากนั้นครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้เดินทางไปติดต่อที่นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช เพื่อรับร่างกลับมาบำเพ็ญกุศล โดย 1 ในนั้น คือนางทิพา ทันปรีชา พร้อมด้วยนางสาวพัตรพิมล ศรีไพร แม่และภรรยาของนายธนภพ ประไพ อาสาสมัครกู้ภัย หรือที่ถูกเรียกขานกันว่า “ต้น สยามนนท์” โดยแม่กอดรูปถ่ายของลูกชายแนบอกอยู่ตลอดเวลาขณะรอให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง กู้ภัย และอาสาสมัคร จัดเตรียมร่างของนายธนภพเคลื่อนย้ายที่วัดนครอินทร์ จังหวัดนนนทบุรี เพื่อบำเพ็ญกุศลอย่างสมเกียรติ  


นางทิพาเล่าว่า ลูกชายเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือสังคม ทุกครั้งที่ลูกออกปฏิบัติหน้าที่ แม่จะคอยเตือนตลอดว่าให้ดูแลตัวเอง คิดไม่ถึงวันนี้จะสูญเสียลูกชาย และพูดไม่ได้เต็มปากว่าภูมิใจที่ลูกชายเสียสละชีวิตเพื่อช่วยผู้อื่น เพราะอีกใจก็ไม่อยากเสียลูกชายไป และวันเกิดเหตุแม่ก็ไปทำงาน ไม่ได้ติดตามข่าว กระทั่งมารู้จากเพื่อนว่าลูกชายจากไปอย่างไม่มีวันกลับแล้ว

ด้านนางสาวพัตรพิมล ภรรยาของนายธนพล เล่าว่า ช่วงเช้ามืดมีเจ้าหน้าที่โทรมาบอกว่ามีเหตุเพลิงไหม้สามีจึงรีบลุกออกไปทำหน้าที่และบอกว่าจะกลับมาตอน 7.00 น. เพราะนัดว่าจะไปทำบุญกัน แต่สุดท้ายสามีไม่กลับมา จากนั้นรุ่นน้องได้โทรมาสอบถามการแต่งกายของนายธนภพซึ่งใจหายมาก เพราะรุ่นน้องบอกว่า ผู้เสียขีวิตและพบศพเป็นรายแรกได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นสามีของตัวเอง เพราะที่หมวกนิรภัยมีเลข 46 ซึ่งตรงกับเลขหมวกของสามี ยอมรับว่าสามีเป็นคนรักงานกู้ภัย และเป็นคนระวังตัว มีประสบการณ์การทำงานมานาน 25 ปี แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ภูมิใจที่สามีได้ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง และได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษ แต่ลึกๆ ก็ยอมรับว่าเสียใจที่ต้องสูญเสีย

จากนั้นครอบครัวของนายสมัชญา นิลธง, นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด และนายอรรถพล ท้วมทอง อาสาสมัครกู้ภัยก็ทยอยเดินทางมารับศพไปบำเพ็ญกุศล ยกเว้นศพของ นายเกียรติ แพตเตอร์สัน ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ ยังไม่มีผู้ติดต่อมารับศพ 

ขณะที่ เพจเฟซบุ๊กจิตอาสาพระราชทาน โพสต์ภาพที่มีข้อความว่า ในหลวงทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ กรณีบ้าน นายอดิสรณ์ ฯ ถูกไฟไหม้และพังทลายลงมา มีผู้เสียชีวิต 5 คน และได้รับบาดเจ็บ 6 คน ดังนี้ 1.ทรงรับผู้เสียชีวิตเป็นศพในพระบรมราชานุเคราะห์ และผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์  2.ให้ติดตามการให้การช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบเหตุ หากมีเหตุขัดข้องให้ขอรับพระราชทานการช่วยเหลือในโอกาสต่อไป

ด้านเฟซบุ๊ก กองปราบปราม โพสต์รูปและข้อความส่งความเสียใจไปยังครอบครัวของอาสมัครกู้ภัยที่เสียชีวิต โดยระบุว่าจากกรณีเพลิงไหม้บ้านในเขตทวีวัฒนา ซึ่งอาคารถล่มลงมาระหว่างเจ้าหน้าที่กู้ภัย ปฏิบัติหน้าที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรณีดังกล่าวเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน ในจำนวนนี้เป็นวีรบุรุษอาสาบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 4 คน กองบังคับการปราบปราม ขอแสดงความเสียใจกับทุกครอบครัว และขอเป็นหนึ่งกำลังใจ ยกย่องเจ้าหน้าที่ทีมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยทุกท่าน ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเสียสละในครั้งนี้

ขณะที่นายอดิสรณ์ โสภา หรือ เอ มินเนี่ยน เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุไฟไหม้ โพสต์เฟชบุ๊กว่า “ผมขอแสดงความเสียใจ และขอสุดุดีในความกล้าหาญของเหล่าพี่ๆ อาสากู้ภัยทั้ง 4 ท่าน หลังจากนี้ผมจะพยายามหาทางช่วยดูแลครอบครัวของพวกท่านด้วยวิธีการตามแบบของผม ถ้าคิดออกแล้ว ผมขออนุญาตมาประชาสัมพันธ์ในช่องทางนี้นะครับ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ขออนุญาตให้เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานก่อนนะครับ ผมคงพูดมากไม่ได้ ลูกน้องที่เหลืออีก 7 คนที่อาศัยภายในบ้านเกิดเหตุปลอดภัยแล้วนะครับ อยู่โรงพยาบาลแล้ว รอรักษาตัวให้หายดีแล้วคงกลับไปทำหน้าที่เดิมๆ ที่เคยทำ ขอบพระคุณเพื่อนๆ บ้านที่ส่งกำลังใจมาให้ และพร้อมจะซัพพอร์ตผมต่อไป กราบลาดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตทุกท่าน เมื่อวานผมไปทำบุญที่วัดปากน้ำไทยในโตเกียวให้ทุกส่วนชั้นตอนในทางโลก ต้องขอเวลาสักพักนะครับ”.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

สาวใจเด็ด โดดจยย.รับจ้าง วิ่งตามรถตัวเองหลังตามหา 1 ปี

กทม. 18 พ.ค. – สาวใจเด็ด โดดลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งไล่รถตัวเอง หลังตามหาและผ่อนกุญแจเปล่ามานานกว่า 1 ปี พบเพื่อนสนิทนำรถไปค้ำประกันกับเจ้าหนี้ จากกรณีคลิปที่มีการแชร์ในโซเซียล ขณะผู้หญิงใส่เสื้อลายกำลังวิ่งไล่ตามรถเก๋งสีขาว พร้อมตะโกนให้คนช่วย จนพลเมืองดี ช่วยกันเข้ามารายล้อมรถและคนขับรถเก๋งต้องเลี้ยวเข้าซอย เพื่อลงมาเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ล่าสุดทีมข่าวเปิดใจ สาวที่ปรากฏในคลิป เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเข้าไปขวางรถยนต์คันนี้ เพราะว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ตนเองได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ ทะเบียนขอนแก่น และนำรถไปฝากจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องของแฟนเพื่อนสนิท แต่หลังจากที่นำรถไปฝาก ก็ไม่เคยได้พบรถตัวเองอีกเลย โดยเพื่อนสนิท อ้างว่าแฟนเอาไปขับ ทุกครั้งที่ทวงถามหารถ จะมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนในที่สุด ตนเองก็เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหารถ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ก็ยังตามหาไม่ได้ ตนเองจึงต้องผ่อนกุญแจเปล่า มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม […]

ข่าวแนะนำ

ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้”

กาญจนบุรี 19 พ.ค. – ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการแล้ว 4 ราย อุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้” ตั้งข้อหาหนักหลายกระทง ล่าสุด ครอบครัวรับศพแล้ว เผยผลชันสูตร กระสุนเจาะศีรษะ 2 นัด เป็นเหตุเสียชีวิต พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางลงพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีล่าตัวแก๊งอุ้มฆ่า นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ หรือ ดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี โดยภายหลังการประชุม พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้จับกุม นายธนเดช หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า ดีเจเตเต้ แล้ว ส่วนอีก 4 คน ศาลอนุมัติหมายจับ ประกอบด้วย นายณรงค์เดช, นายภคณัท, นายนพพิจิตร และนายธราเทพ ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ใน 5 ข้อหาหนัก ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

ตามหา “เจ๊แก้ว” ใส่ทอง 20 บาท หายตัวไป 2 วัน

สุราษฎร์ธานี 19 พ.ค. – ยังไร้วี่แวว “เจ๊แก้ว” เจ้าของแผงทุเรียน หายตัว 2 วัน พร้อมทองหนัก 20 บาท-เงินสด 1 แสน สามีวอนตำรวจ-พลังโชเชียลช่วยตามหา หวั่นเกิดเหตุร้าย เมื่อวานนี้ (18 พ.ค.) ญาติของ น.ส.สุจิตรา หรือเจ๊แก้ว อายุ 43 ปี เจ้าของแผงทุเรียนในตลาดโพธิ์หวาย ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ว่า น.ส.สุจิตรา หายตัวไปวันที่ 17 พฤษภาคม หลังจากเสร็จงานที่แผงทุเรียน และกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 2 กม. ช่วงเวลาประมาณ 19.40 น. น้องสาวของเจ๊แก้ว เล่าว่า วันนั้นตนได้โทรศัพท์คุยกับพี่สาวและทราบว่าพี่สาวกำลังจะออกจากแผงทุเรียนเพื่อที่จะกลับบ้าน หลังจากนั้นก็เห็นผิดสังเกตว่าพี่สาวยังมาไม่ถึงบ้านเลยพยายามโทรหาแต่ก็ไม่มีคนรับ ปกติแล้วพี่สาวได้สวมใส่สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท เลทข้อมือทองคำน้ำหนัก 10 บาท […]

“บิ๊กเต่า” นำทีมตรวจเงินวัดไร่ขิง พบบัญชีวัดเพิ่มอีกรวม 49 บัญชี

นครปฐม 19 พ.ค. – “บิ๊กเต่า” นำทีมตรวจเงินวัดไร่ขิง พบตู้บริจาค 185 ตู้ บัญชีวัดรวม 49 บัญชี รอตรวจสอบเส้นเงินที่ชัดเจน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้นำกำลังตำรวจ เจ้าหน้าที่ สตง. และเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนา เข้าตรวจสอบข้อมูลการเงินเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ภายในห้องการเงิน วัดไร่ขิง ก่อนที่ในช่วงบ่ายพระครูปฐมธีรวัฒน์ (บัญชา ฐิตธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ได้เป็นตัวแทนนำ จนท.ออกมาชี้จุดตั้งตู้บริจาคปัจจัยที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด พบว่ามีตู้บริจาคทั้งหมด 185 ตู้ ซึ่งหลังจากใช้เวลาตรวจสอบบัญชีเพิ่มเติมกว่า 8 ชั่วโมง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่าการตรวจสอบในวันนี้ ไม่ได้ เป็นการสอบปากคำ แต่เป็นเพียงการเรียกทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีการเงินของวัดประมาณ 10 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารจาก 4 ธนาคาร เข้ามาให้ข้อมูล เพื่อหาข้อสรุปว่า บัญชีของวัดมีกี่บัญชี ซึ่งทำให้พบบัญชีวัดเพิ่มขึ้นจากที่พบก่อนหน้านี้ 20 กว่าบัญชี (ใน 20 กว่า มีบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาส […]