ปส.พบการส่งยาเสพติดทางพัสดุมากขึ้น

กทม.2เม.ย.-ปส.จับขบวนการค้ายาเสพติด 9 คดี ผู้ต้องหา 18 คน ของกลางยาบ้า 8,462,000 เม็ด ไอซ์ 850 กิโลกรัม, เฮโรอีน  45 กิโลกรัม และโคเคอีน 10 กิโลกรัม พบเริ่มมีการลอบขนส่งทางโลจิติกส์มากขึ้น ทั้ง ไปรษณีย์ และฝากบุคคลอื่นที่โดยสารเครื่องบินมา

พลตำรวจโทมนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส. ระบุว่า พบว่าเริ่มมีการลอบขนส่งยาเสพติดทางโลจิติกส์มากขึ้น อาทิ การขนส่งทางไปรษณีย์ และการฝากบุคคลอื่นที่โดยสารเครื่องบินมา


ส่วนทางเรือพบมีการซุกซ่อนมาในตัวเรือ จากการตรวจค้นพบเจ้าหน้าที่ ลูกเรือ ซุกซ่อนของกลางในเครื่องจักร โดยยังไม่พบว่าเชื่อมโยงกับเจ้าของเรือ ซึ่งได้ประสานกับต่างประเทศจับตาการนำเข้าส่ง-ออก เพื่อป้องการการลักลอบขนยาเสพติด

 โดยผลงานตำรวจ บก.ปส.3 ประกอบก้วย การจับนายสมศักดิ์ รักชาติ พร้อมพวกรวม 3 คน ของกลางเฮโรอีน 17 กิโลกรัม รถกระบะ 2 คัน ที่ตู้ยามแม่มะ ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย หลังสืบทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดนายสมศักดิ์ ลอบนำยาเสพติดจากชายแดนเข้ามาซุกซ่อนที่บ้านพัก ก่อนส่งลูกค้าทางพัสดุ กระทั่งพบกลุ่มผู้ต้องหานำพัสดุไปส่งที่บริษัทรับส่งพัสดุใน อ.เชียงแสน จึงแสดงตัวตรวจค้น พบเฮโรอีนซ่อนในซองขนมขบเคี้ยวในกล่องพัสดุ จึงจับกุมดำเนินคดี


การจับกุมนายชลอ แซ่ยั้ง อายุ 26 ปี พร้อมไอซ์หนัก 3 กิโลกรัม ข้อหาพยายามส่งออกไอซ์เพื่อจำหน่าย และครอบครองไอซ์เพื่อจำหน่าย ที่บริษัทรับ-ส่งพัสดุระหว่างประเทศ จ.สมุทรปราการ หลังตรวจพบวัตถุต้องสงสัยในกระเป๋าสัมภาระของนายชลอ ผู้โดยสารสายการบินระหว่างประเทศ เมื่อตรวจค้นพบไอซ์ ซุกซ่อนมาในกระป๋องข้าวโอ๊ตปรุงสำเร็จ ปะปนมากับเสื้อผ้า จึงจับกุมดำเนินดดี ส่วนนางอรพัส เลิศวรทวี อายุ 66 ปี ถูกจับกุมพร้อมโคเคน 10 กิโลกรัม ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ หลังลอบนำของกลางเข้ามาขณะเดินทางกลับจากบราซิล โดยซุกซ่อนของกลางในผนังกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าผ้าของที่ระลึก ปกหนังสือและในเสื้อกันหนาว

นอกจากนี้ ยังยึดเฮโรอีน 37 กิโลกรัม ซ่อนในซองกาแฟสำเร็จรูป ได้ที่บริษัทรับส่งพัสดุระหว่างประเทศ ใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่เตรียมส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย จึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนหาตัวผู้ส่งมาดำเนินคดี

ส่วนผลงานตำรวจ บก.ปส.4 คือการจับกุมนายคมสัน ดวงมั่น อายุ 34 ปี พร้อมพวก 1 คน ของกลางไอซ์ 347 กิโลกรัม รถบรรทุก 6 ล้อ ข้อหาร่วมกันมีไอซ์ไว้ครอบครองเพื่อขายและเสพเมทแอมเฟตามีนโดยผิดกฎหมาย ที่ด่านตรวจพาหนะชุมพร ถ.เพชรเกษม ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หลังตำรวจสืบทราบว่าจะมีการลอบขนยาเสพติดจากภาคกลางไปยังภาคใต้ โดยใช้รถบรรทุก 6 ล้อ เจ้าหน้าที่จึงตั้งด่านสกัด เมื่อพบรถตามที่รับแจ้งจึงเรียกให้หยุด ก่อนเข้าตรวจค้น พบว่ายาเสพติดถูกซุกซ่อนตามอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน กระจายตามตัวรถ จึงจับกุมดำเนินคดี


ผลงานตำรวจ บก.ปส.4 กุมนายอยุรักษ์ ภักดีรุจีรัตน์ อายุ 34 ปี พร้อมยาบ้า 6.2 หมื่นเม็ด ที่ป่าละเมาะริมถนนเพชรเกษม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังพบว่านายอนุรักษ์ มั่วสุมเสพยาเสพติด แล้วถูกจับกุมพร้อมไอซ์ 10 กรัม ก่อนได้รับการประกันตัวในชั้นศาล แต่เจ้าตัวยังคงยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก กระทั่งพบว่านายอนุรักษ์ เตรียมนำยาเสพติดไปซุกซ่อนที่ป่าละเมาะ จึงสะกดรอยตามกระทั่งพบผู้ต้องหาขับรถไปหยิบถุงสีดำวางในป่าละเมาะ จึงแสดงตัวตรวจค้นจับกุม

ตำรวจ บก.ปส.4 จับกุมนายนิอาดี ยะโก๊ะ อายุ 35 ปี พร้อมพวกรวม 5 คน และของกลางยาบ้า 4 แสนเม็ด ไอซ์ 500 กิโลกรัม รถบรรทุก 22 ล้อ รถกระบะ และรถเก๋ง แจ้งข้อหาร่วมกันมียาบ้า,ไอซ์ ไว้ครอบครองเพื่อขาย จับกุมได้ที่ด่านตรวจพาหนะชุมพร ถ.เพชรเกษม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ต่อเนื่องห้องพักในโรงแรม จ.ชุมพร หลังสืบทราบว่าจะมีขบวนการขนยาเสพติดลงไปยังภาคใต้ เดินทางออกจาก จ.เพชรบูรณ์ ไปส่งที่ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ทราบกลุ่มจึงสะกดรอยตามจนพบรถต้องสงสัย 3 คัน ขับตามกันเป็นขบวน กระทั่งพบด่านตรวจมีรถในขบวนคันเดียวที่ผ่านเข้าไป ส่วนที่เหลือจอดรอข้างนอก เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจค้นรถคันที่ขับเข้าด่าน ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่คนขับแสดงอาการมีพิรุธ กระนั้นเจ้าหน้าที่ก็ปล่อยรถไปเพื่อสะกดรอยตามก่อนพบว่าผู้ขับไปเข้าพักที่โรงแรม ส่วนเจ้าหน้าที่อีกชุดได้ตรวจพบยาเสพติดดังกล่าวบนรถบรรทุก เจ้าหน้าที่จึงสอบสวนขยายผลแล้วจับกุมผู้ร่วมขบวนการดังกล่าว

คดีสุดท้ายเป็นการจับกุมนายณรงค์ คงแง่ง อายุ 29 ปี พร้อมพวกรวม 4 คน และของกลางยาบ้า 8 ล้านเม็ด รถบรรทุก 2 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน ปืนพกสั้น 1 กระบอก กระสุนขนาด 9 มม.10 นัด ทองรูปพรรณ 2 บาท เงินสด 2.5 แสนบาท แจ้งข้อหาร่วมกับพวกที่หนี มียาบ้าไว้ครอบครองเพื่อขาย จับกุมได้หน้าปั๊มน้ำมัน อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ต่อเนื่อง สวนปาล์มบ้านพักหมู่ 8 อ.ลำทับ จ.กระบี่ หลังสืบทราบว่ามีผู้ลอบนำยาเสพติดจากภาคกลางผ่านถนนสายอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม ไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.กระบี่ จึงวางแผนสกัดกั้นจับกุมได้ดังกล่าว และคดีสุดท้ายจับกุม ส.อ.ธัญญะ ทวีค่ำคูณ อายุ 33 ปี พร้อมเฮโรอีน 4 กิโลกรัม ในข้อหาครอบครองเฮโรอีนไว้ขายและพยายามส่งออกนอกราชอาณาจัก จับกุมได้ที่ศาลาริมทางหน้า รพ.กุดจับ จ.อุดรธานี หลังได้รับแจ้งจากพนักงานบริษัทขนส่งเอกชนว่ามีพัสดุต้องสงสัย มีผู้มาส่งใช้ชื่อบนบัตรประชาชนว่านายอานนท์ บางศิริ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบเฮโรอีน 4 กิโลกรัม อยู่ในถุงผงปรุงรส เมื่อสืบสวนต่อมาทราบว่าผู้ส่งคือ ส.อ.ธัญญะ จึงรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ แต่คนร้ายไหวตัวหนีทัน ระหว่างหลบหนี เจ้าตัวมารอแฟนสาวที่ รพ.กุดจับ ชุดจับกุมจึงเข้าจับกุมดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]