กทม. 1 เม.ย.- “สันธนะ” หอบหลักฐานคดี “หลงจู๊สมชาย” จ้างวานฆ่าวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง พบกองปราบฯ จี้ ผบ.ตร. เปลี่ยนคณะทำงานสืบสวน อ้างใกล้ชิดเว็บพนันใหญ่
นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล นำเอกสารหลักฐานใส่กระเป๋าเดินทางมามอบให้พนักงานสอบสวนใช้พิจารณาประกอบสำนวนคดีที่นายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือ หลงจู๊สมชาย เจ้าพ่อบ่อนพนันภาคตะวันออก ถูกกล่าวหาจ้างวานฆ่าวินจักรยานยนต์รับจ้าง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 หลังได้รับหมายเรียกสอบปากคำในฐานะพยานของคดีดังกล่าว
นายสันธนะ กล่าวว่า วันนี้จะพูดถึงคดีนี้เป็นครั้งสุดท้าย แม้วันนี้จะเป็นวันโกหกสากล แต่ยืนยันหลักฐานที่นำมาวันนี้เป็นของจริง บุคคลที่เอ่ยถึงมีชื่อ มีตัวตนจริง ซึ่งเมื่อวานนี้ ตนได้ทำหนังสือถึง พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เปลี่ยนคณะทำงานสืบสวนสอบสวนของคดีนี้ ซึ่งมีนายตำรวจยศพลตำรวจเอก, พลตำรวจตรี และพันตำรวจเอก รวม 3 นาย เพราะคดีนี้ผิดเพี้ยนทั้งหมด อีกทั้งพลตำรวจเอกนายนี้ไม่อาจทำคดีได้ เพราะมีความใกล้ชิดกับเว็บพนันกาแล็กซี่ออนไลน์ มีที่ตั้งอยู่ชายแดนประเทศไทย พร้อมแสดงรูปถ่ายใบหนึ่งที่อ้างถึงความสัมพันธ์ดังกล่าว
ส่วนพลตำรวจตรี ตำแหน่งระดับผู้บังคับการ ช่วยราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ดูแลคดีนี้ และเป็นมือวางของพลตำรวจเอกนายนี้ แต่เนื่องจากมีประวัติเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญ 2 คดีที่จบไปแล้ว ทำให้ไม่ไว้วางใจ ส่วนพันตำรวจเอกมีตำแหน่งรองผู้บังคับการหน่วยงานหนึ่ง ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อฯ ในลักษณะที่ทำให้สังคมเข้าใจว่า ตนมีส่วนร่วมกระทำผิด หรือฟอกเงินในคดีนี้ ถามว่าหากตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนผิด ตนจะรอดมาได้หรือไม่ เพราะตนก็เคยรับราชการมาก่อนเหมือนกัน
นายสันธนะ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังทำหนังสือถึงผู้บังคับการกองปราบปราม ให้เรียกพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. มาร่วมสอบปากคำในคดีบ่อนการพนันด้วย เพราะคดีนี้มีเรื่องเกี่ยวเนื่องกัน ไม่ใช่เพียง กก.2 บก.ป. ที่ทำคดีเรื่องจ้างวานฆ่าเท่านั้น หากมาสอบเพียงเรื่องนี้ ตนไม่ยินยอมจะให้ปากคำ เพราะคดีนี้มีผู้มีอำนาจรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง หากไม่มีความคืบหน้า ตนก็ไม่อยากเอาตำแหน่งหน้าที่ส่วนตัวที่เป็นคณะกรรมการตรวจสอบทุจริตในภาครัฐของพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งมายุ่งเกี่ยวเท่าไหร่
นายสันธนะ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทราบมาว่า หลงจู๊ได้บอกผ่านเสี่ยโป้ โป้อานนท์ ที่ถูกขังในจุดคัดกรองโควิด-19 ของเรือนจำแห่งเดียวกันว่า ตัวเองจ่ายขนาดนี้ ยังโดนหลอกได้ ตนจึงนำหลักฐานภาพถ่าย แชตการพูดคุยสนทนาคนที่รับเงิน 3 ล้านบาท เพื่อเจรจากับครอบครัววินจักรยานยนต์ผู้ตาย กับญาติ ก่อนเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังนายสันธนะ เข้าพบพนักงานสอบสวนได้เพียง 5 นาที ก็เดินออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้ง โดยระบุว่า ได้พบพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. เพียงคนเดียว ไม่ตรงตามเงื่อนไขที่ขอให้นำพนักงานสอบสวนคดีบ่อนการพนันของเสี่ยโป้ ที่เชื่อมโยงกับคดีจ้างวานฆ่า มาร่วมสอบปากคำด้วย ตนจึงเดินทางกลับ และถือว่ามาพบแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.กเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ระบุว่า แม้นายสันธนะไม่ให้ปากคำ ก็เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการทำสำนวนคดี เพราะพนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานเพียงพออยู่แล้ว การออกหมายเรียกให้นายสันธนะมาเป็นพยาน ก็เพราะมีการกล่าวอ้างว่าได้เข้าไปรับรู้ข้อมูล
ส่วนการที่นายสันธนะ ขอให้พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 ที่รับผิดชอบคดีนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ มาร่วมสอบสวนในคดีนี้ด้วยนั้น ขอชี้แจงว่า คดีของเสี่ยโป้ เป็นคดีกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร มีคณะทำงานโดยอัยการร่วมเป็นพนักงานสอบสวน หากนายสันธนะ ต้องการเป็นพยานในคดีดังกล่าว ต้องประสานงานกับทางพนักงานอัยการ.-สำนักข่าวไทย