ตร.คู่กรณีขอโทษ “หมิว” รับเข้าห้องน้ำผิด-ไม่มีเจตนาแอบถ่าย

กรุงเทพฯ 22 มี.ค. – “หมิว สิริลภัส” นักแสดงสาว เข้าพบพูดคุยกับตำรวจคู่กรณี หลังแอบตามเข้าห้องน้ำในปั๊มน้ำมันย่านรัชดาภิเษก โดยตำรวจได้ขอโทษและยืนยันปวดท้องหนักมาก แถมพักผ่อนน้อยจนเบลอ ไม่ทันดูห้องน้ำ ด้าน “หมิว” ไม่ปักใจเชื่อ และไม่รับคำขอโทษ ขอดูพยานหลักฐานอื่นๆ ประกอบ ขณะนี้ดำเนินคดีได้เพียงข้อหาทำให้ตกใจกลัว


นางสาวสิริลภัส กองตระการ หรือหมิว ดาราสาว เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน หลังมีการนัดหมายให้มาพบพูดคุยกับคู่กรณี เป็นตำรวจชั้นประทวน ยศ ส.ต.ท. สังกัด สน.ทุ่งมหาเมฆ หลังก่อนหน้านี้ได้แจ้งความดำเนินคดี หลังถูกชายตามถึงในห้องน้ำของปั๊มน้ำมันริมถนนรัชดาภิเษก โดยเชื่อว่าชายคนดังกล่าวได้แอบถ่ายขณะทำกิจธุระในห้องน้ำ ก่อนขึ้นรถเก๋งตำรวจหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาพบว่าชายคนดังกล่าว เป็นตำรวจจริง

หมิวเปิดเผยกับสื่อก่อนเข้าไปพบกับคู่กรณีว่า วันนี้ได้นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุ พร้อมคลิปวิดีโอจุดเกิดเหตุในช่วงเวลากลางวัน และถ่ายภาพสภาพของห้องน้ำชั่วคราวภายในปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ ซึ่งพบว่าห้องน้ำแยกกันระหว่างห้องน้ำชายและห้องน้ำหญิงอย่างชัดเจน มาเป็นหลักฐานมอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าคำให้การของคู่กรณีว่าสับสนระหว่างห้องน้ำ ชายหญิง ทำให้เข้าผิด ฟังไม่ขึ้น จากนั้นได้เข้าไปพูดคุยกับ ส.ต.ท. คู่กรณี ในห้องของ ผกก. สน.พหลโยธิน โดยไม่อนุญาติให้สื่อเข้าไปสังเกตการณ์ ใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง


จากนั้นหมิวเปิดเผยหลังพูดคุยกับตำรวจคู่กรณี บอกว่าตัวเองปวดท้องหนักมาก และพักผ่อนน้อยจนเบลอ ไม่ทันได้ดูห้องน้ำ ไม่มีใครสั่งให้ติดตามแน่นอน แต่ตนเองติดโซเชียลมากจึงเล่นโทรศัพท์มือถือ ยืนยันว่าไม่เห็นคู่กรณียกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย แต่เห็นเขาเงยหน้าขึ้นมาสบตากันพอดี ซึ่งคู่กรณีได้ขอโทษแล้ว แต่ยังไม่รับคำขอโทษ หรือปักใจเชื่อ ต้องรอดูหลักฐานอื่นประกอบก่อน เช่น หากรถตำรวจคันที่มาจอดข้างกันเป็นรถตำรวจจริงๆ ก็คงจะมีเจตนาที่จะขับตามตนมาหรือไม่ ขณะนี้จะยังไม่ตัดสินว่าใครผิดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เบื้องต้นได้คุยกับตำรวจแล้ว พบว่าไม่เข้าข่ายความผิดตามคดีอาญา ฐานคุกคามหรืออนาจาร เป็นเพียงความผิดลหุโทษ ฐานทำให้ตกใจกลัว ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับคู่กรณีเชื่อว่าเขาเองไม่น่าจะเป็นคนตั้งใจที่จะทำอนาจารใดๆ เพียงแค่สงสัยว่าเหตุใดคนที่ปวดท้องหนักมาก แต่เมื่อเข้าห้องน้ำกลับไม่รีบทำธุระ เพราะถามคู่กรณีไปก็ตอบไม่ได้

ด้านตำรวจนายดังกล่าว เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุเข้าเวรทำงานตั้งแต่ช่วงตี 5 ครึ่ง จนถึง 5 ทุ่ม ก่อนหน้านั้นต้องรับผิดชอบงานจราจร และไปดูแลการชุมนุม อีกทั้งมีการทำงานลากยาวติดสะสมแบบนี้มาหลายวันแล้ว จึงทำให้เกินความเบลอ และพลาดเดินเข้าห้องน้ำผู้หญิง ทั้งนี้ การมายัง สน.พหลโยธิน ในวันนี้ ต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าในวันนั้นไม่ได้มีเจตนาจะตามไปถ่ายคลิป หรือตามไปก่อเหตุอนาจารอะไร อีกทั้งเหตุที่มีการขับรถหลบหนีออกจากปั๊มโดยไม่อธิบายหรือชี้แจงอะไร เพราะเห็นหมิวถือมีดและส่งเสียงดัง จึงเกิดความกลัว อย่างไรก็ตาม ได้มีการขอโทษ พร้อมรับผิดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางอาญาหรือทางวินัย

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นางสาวสิริลภัส หรือหมิว นำหลักฐานภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุ พร้อมคลิปวิดีโอ แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชน กรณีถูกชายคนหนึ่งเดินตามเข้าไปห้องน้ำในปั๊มน้ำมันย่านรัชดาภิเษก โดยสงสัยว่าจะตามเข้าไปถ่ายภาพขณะทำธุระในห้องน้ำ ก่อนวิ่งขึ้นรถตำรวจหลบหนีไปนั้น


หมิวบอกว่า เหตุเกิดขึ้นคืนวันที่ 6 มีนาคม หลังไปส่งเพื่อนที่ย่านรัชดาฯ ซอย 8 และจะไปต่อที่ซอยรัชดาภิเษก 32 เพื่อคุยธุระเรื่องเพลง ระหว่างทางแวะเข้าห้องน้ำปั๊มน้ำมัน เห็นรถคู่กรณีขับมาจอดเทียบ แต่ไม่ยอมลงจากรถจนผิดสังเกต จึงหยิบมีดปอกผลไม้พกติดตัวเข้าห้องน้ำ ต่อมาหลังเข้าห้องน้ำได้สักพัก มีคนเดินตามเข้ามาในห้องน้ำที่อยู่ติดกัน ด้วยความที่ไม่ไว้วางใจแต่แรก จึงไม่ทำธุระ ยืนรออยู่บนชักโครก พยายามฟังว่าอีกฝ่ายเข้ามาทำธุระตามปกติหรือไม่ แต่ไม่ได้ยินเสียงถอดกางเกง หรือเห็นว่าจะทำธุระใด เวลาผ่านไปราว 3 นาที ก่อนที่อีกฝ่ายจะสังเกตมองมาที่ตน จากนั้นตนจึงเริ่มโวยวายและเหตุการณ์ต่างๆ ก็เป็นไปตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ จากนั้นวันรุ่งขึ้นก็เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.พหลโยธิน และทำใจอยู่นานกว่าจะตัดสินใจโพสต์เตือนภัยเรื่องนี้ลงในโซเชียลมีเดีย และค่อนข้างมั่นใจว่าตั้งแต่คู่กรณีเดินเข้าห้องน้ำ จนถึงออกจากห้องน้ำ ไม่ได้ถ่ายคลิปของตนไว้ เพราะตนระมัดระวังตัวและสังเกตพฤติกรรมคู่กรณีตลอด หากนำมือถือไปตรวจสอบคิดว่าไม่น่าจะพบภาพอะไร หลังเกิดเรื่องได้ให้คนสนิทไปถ่ายภาพลักษณะห้องน้ำช่วงกลางวัน เพื่อนำมาเปรียบเทียบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเข้าใจผิดหรือไม่ ซึ่งมองว่าเป็นไปได้ยาก เพราะห้องน้ำมีป้ายแสดงสัญลักษณ์ชัดเจน ส่วนเรื่องที่ตนต้องพกมีดเข้าไปในห้องน้ำ ยอมรับว่าตนพกไว้ป้องกันตัว ซึ่งพกมาตลอดตั้งแต่ขับรถแรกๆ เนื่องจากมักไปไหนเพียงลำพัง อีกทั้งมีดที่พกก็เป็นเพียงมีดปอกผลไม้เท่านั้น

ส่วนเรื่องการดำเนินคดี แม้จะไม่มีการถ่ายภาพลามกอนาจาร แต่มองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล อาจเข้าข่ายเป็นการคุกคามทางเพศ ซึ่งจะขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และเท่าที่ได้รับการประสานข้อมูลจากผู้บังคับบัญชาของตำรวจนายดังกล่าว ก็ระบุว่าพร้อมจะอำนวยความสะดวกเรื่องการดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“3 สส.” บัญชีรายชื่อใหม่ รายงานตัวต่อสภาแล้ว

รัฐสภา 10 ก.ย.- “3 สส.” บัญชีรายชื่อใหม่ “ทิพานัน-พล.ต.อ.อัศวิน-รุ่งเรือง” รายงานตัวต่อสภาแล้ว พร้อมผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประเทศ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตามประกาศสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายสุชาติ ชมกลิ่น ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายสุชาติ สิ้นสุดลง จึงประกาศให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาติ เลื่อนขึ้นมาเป็น สส. แทน โดย น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การเป็น สส. คือผู้แทนของประชาชน วันนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งที่ได้เป็นตัวแทนในการทำงานฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งการมีกฎหมายที่ถูกต้องชัดเจนเป็นเรื่องที่ดี และจะทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุด ทั้งนี้มีกฎหมายที่ต้องอยากขับเคลื่อนโดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน รวมถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม เช่น เรื่องอากาศที่มีผลกระทบกับคนไทย นอกจากนี้ยังมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้ารายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายธนกร วังบุญคงชนะ ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายธนกร […]

จับตา! ประชุม GBC “ไทย-กัมพูชา” ที่เกาะกง

10 ก.ย.- “ไทย-กัมพูชา” เปิดโต๊ะเจรจา GBC สมัยพิเศษ ที่จังหวัดเกาะกง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะผู้แทนระดับสูง ร่วมหารือสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคง ลดความตึงเครียด และเดินหน้ามาตรการสร้างสันติสุขชายแดน พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และว่าที่รัฐมนตรีกลาโหม นำคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา หรือ GBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 โดยมี คณะผู้แทนประกอบด้วย พลเอก ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม, พลอากาศเอก นนทรี อินทรสาลี รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด, นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านกิจการความมั่นคงภายใน, นายวรณัฐ คงเมือง รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, พลเอก กันตพจน์ เศรษฐารัศมี ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม, พลเอก ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก, พลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เสนาธิการทหารเรือ และพลอากาศเอก วชิระพล […]

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 10 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟล้ม 24 ต้น ทำไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้าพัง

เชียงใหม่ 8 ก.ย.-วินาศสันตะโร กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟฟ้าล้ม 24 ต้น บนถนนหนองฮ่อ อ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้ไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้ากว่า 10 หลัง พังเสียหาย ส่วนรถเสียหายนับสิบคัน ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง อุบัติเหตุเกิดขึ้นช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังรถกระบะบรรทุกน้ำดื่มเอกชนพุ่งชนเสาไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนถึง สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ประมาณ 300 เมตร โดยรถกระบะได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าจนหักโค่นลงมา ก่อนที่รถจะเกี่ยวเข้ากับสายไฟลากไปอีกหลายสิบเมตร ทำให้สายไฟถูกดึงจนทำให้เสาไฟฟ้าโค่นล้มต่อๆ กันลงมาขวางถนนรวมแล้วกว่า 24 ต้น เสาไฟกิ่งเสียหาย 25 ต้น ทับบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าพังเสียหายกว่า 10 หลัง และยังมีรถยนต์ที่จอดไว้ในบ้าน ริมถนน และที่ขับผ่านมา ถูกทับเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 10 คัน นอกจากนี้สายไฟฟ้าที่ถูกดึงจนขาดยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ร้านอาหารบริเวณดังกล่าวจนวอดเสียหายเกือบทั้งหมด อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างและสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีขาว เป็นรถขนส่งน้ำดื่มอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับ ถังน้ำดื่มตกเกลื่อน พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 คน เป็นพนักงานขับรถและคนงานที่นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำออกมาจากรถนำส่งโรงพยาบาล โดยพนักงานที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่ต้องปั๊มหัวใจก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาล […]