บช.น. แถลงสรุปเหตุชุมนุม ถ.ราชดำเนิน จับแล้ว 20 ราย

กรุงเทพฯ 21 มี.ค.-รอง ผบช.น. เผยเหตุปะทะจากการชุมนุมเมื่อวานนี้ ตำรวจบาดเจ็บกว่า 50 นาย ยังรักษาตัวในรพ. 11 นาย จับกุมผู้ชุมนุม 20 คน ดำเนินคดีรวม 7 ข้อหา วอนนักสืบโชเซียล ช่วยตามหาชายเสื้อลายมือปาระเบิด

พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวแห่งชาติ ร่วมกันแถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มรีเด็ม ซึ่งมีการปะทะกันกับตำรวจเมื่อวานนี้


โดยโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวย้ำว่าการชุมนุมในขณะนี้ ยังอยู่ในการประกาศตามพระราชกำหนดฉุกเฉิน และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมในที่สาธารณะ และการใช้เครื่องกีดขวาง​เนื่องจากป้องกันความเสียหายต่อสถานที่สำคัญ ส่วนการปฏิบัติหน้าที่​ของตำรวจเป็นการใช้ยุทธวิธีตามหลักสากล โดยทุกขั้นตอนมีการประกาศแจ้งเตือนทุกระยะ ซึ่งตำรวจจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อยับยั้งไว้ไม่ให้เกิดความเสียหายต่อผู้ชุมนุมและสถานที่สำคัญต่างๆ ในพื้นที่

ขณะที่ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สรุปว่า มีการจับกุมผู้กระทำความผิด 20 นาย ส่งดำเนินคดีข้อหาร่วมกันชุมนุมผิด กม. พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ม.9 / มั่วสุมในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค / สมคบ 10 คนขึ้นไปก่อวุ่นวายในบ้านเมือง ม. 215 วรรค2 / ทำร้ายเจ้าหน้าที่และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน โดยมีและใช้อาวุธ ม. 138 และ 140 และบางส่วนผิด ม. 112 อย่างจงใจ


โดยทั้ง 20 คนยังอยู่ในความควบคุมของตำรวจที่ ตชด.ภาค 1 และมีอีก 5 คน ถูกดำเนินคดีข้อหาเล็กน้อยลงโทษปรับแล้วปล่อยตัว ส่วนตำรวจ ที่บาดเจ็บ จากการปฏิบัติหน้าที่รวมกว่า 50 นาย ยังคงพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 11 นาย โดย 9 นาย พักรักษาตัวอยู่ รพ.ตำรวจ ในจำนวนนี้ 1 นายบาดเจ็บสาหัสกะโหลกศีรษะแตก รักษาตัวอยู่ไอซียู และ 2 นายพักรักษาตัว ที่ รพ.วชิระ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุม ได้รับบาดเจ็บ 11 คน

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังระบุถึงภาพการทำร้ายเจ้าหน้าที่ที่แยกคอกวัว โดยถูกผู้ชุมนุมกลุ่มจรยุทธ์ ทำร้ายบาดเจ็บ ย้ำว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้น เกิดจากผู้ชุมนุมเป็นหลัก ตำรวจมีหน้าที่รักษากฎหมาย ขณะเดียวกันฝากนักสืบโซเชียลช่วยตามหาชายสวมเสื้อลายที่ปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่หลายครั้ง อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ดำเนินคดี

พลตำรวจตรี ปิยะ ยังระบุลำดับเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อวานนี้ว่าเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. ชุมนุมใน 2 พื้นที่ คือ สนามหลวงหน้า รร.รัตนโกสินทร์ และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หน้าร้านแมคโดนัล


17.30 น. ผู้กำกับ สน.ชนะสงครามแจ้งเตือนผู้ชุมนุมว่าการชุมนุมดังกล่าว ผิดกฎหมาย ทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค แต่ผู้ชุมนุมพยามผลักดันเจ้าหน้าที่ออกจากบริเวณและมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเจ้าหน้าที่ต้องถอยร่นออกมา

18.00 น. ผู้ชุมนุมพยายามรื้อสิ่งกีดขวางจากแนวที่หนึ่ง

18.30 น. และผู้ชุมนุมหรือสิ่งกีดขวาง ใช้ลูกแก้วระเบิดบางชนิดโยนใส่ตำรวจ

18.50 น. ผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายคอนเทนเนอร์ 1 ตู้ เปิดเป็นช่อง ขว้างปาสิ่งของ และวัตถุระเบิดเข้าใส่ตำรวจ ทำลายสิ่งของของทางราชการ เช่น กล้องวงจรปิด แผงเหล็กกัน

19.00 น. ตำรวจเตือนผู้ชุมนุมให้หยุดทำการ แต่ยังไม่หยุด จึงเริ่มฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุม

19.20 น. ผู้ชุมนุมพยายามบุกเข้าไปหาแนวกั้นของตำรวจจึงเริ่มใช้กำลังเข้าควบคุมสถานการณ์

20.50 น. ตำรวจคุมพื้นที่บริเวณสนามหลวงไว้ได้ ผู้ชุมนุมกระจาย 2 จุดโดยรอบ

21.20 น. ผู้ชุมนุมเริ่มเผาและทำลายทรัพย์สินทางราชการ หลายจุด เช่น แยกคอกวัว

00.30 น. ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ปกติ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระเบิดรถครู ตชด.

ทราบกลุ่มคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก

ทราบคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก จ.นราธิวาส แล้ว วันก่อเหตุมีแนวร่วมปฏิบัติการประมาณ 6 คน กลุ่มเป้าหมายคือเจ้าหน้าที่รัฐ

หมายจับผู้มีพระคุณ

ออกหมายจับผู้มีพระคุณจ้าง “เอ็ม กองเรือ” สังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตำรวจเร่งล่า “สมหวัง” ผู้มีพระคุณของ “เอ็ม กองเรือ” หลังศาลออกหมายจับใช้จ้างวานสังหาร “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา

เศร้า ฝังศพ “พ่อ-ลูก” ครู ตชด. เหยื่อวางระเบิด

ประชาชน-ตำรวจตระเวนชายแดน นับพันคน ร่วมพิธีฝังศพ 2 พ่อลูก ครู ตชด. เหยื่อผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส

ข่าวแนะนำ

นายกฯไปนราธิวาส

นายกฯ นำคณะถึงนราธิวาส สวมเสื้อสูท “ลายนรารวมใจ”

“นายกฯ อิ๊งค์” ถึงนราธิวาสสวมเสื้อสูท “ลายนรารวมใจ” สีชมพูบานเย็น หวานฉ่ำ ถ่ายทอดความเป็นหนึ่งเดียวของผู้คนชาวนราธิวาส ที่มีความรัก สามัคคี ประสานความสัมพันธ์บนวิถีชีวิต และวัฒนธรรมอันงดงามของจังหวัดนราธิวาส

สารวันครูปี68

นายกฯ มอบสารวันครู จุดประกายฝัน ดันเด็กไทยกล้าคิด สร้างโอกาส

“นายกฯ” มอบสารวันครู ประจำปี 2568 “ครูจุดประกายความฝัน ผลักดันให้กล้าคิด สร้างโอกาสในชีวิตให้เด็กไทย” ระลึกบุญคุณครู ปลูกฝังศิษย์คิด-ทำในสิ่งที่ดีและถูกต้อง เชื่อ ครู ต้องพัฒนาพร้อมรับมือโลกยุคใหม่

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาว-ลมแรง กทม.อุณหภูมิลด 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ เซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น ส่วน กทม.-ปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ