บุกทลายออฟฟิศแอปพลิเคชันปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด

กรุงเทพฯ 16 มี.ค. – ตำรวจ สอท. บุกทลายออฟฟิศแอปพลิเคชัน Eesy money ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด มีผู้ตกเป็นเหยื่อนับพันราย ยึดของกลางคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือมาตรวจสอบ ก่อนควบคุมตัวพนักงาน 10 คน มาสอบสวน


เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (15 มี.ค.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นำโดย พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สอท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 5 อาคาร ฟอรั่มทาวเวอร์ ถ.รัชดาภิเษก แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.

ขณะเข้าตรวจค้นพบพนักงานของบริษัท 10 คน นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้หยุดและทำการตรวจยึดคอมพิวเตอร์ จำนวน 30 ชุด โทรศัพท์มือถือ 28 เครื่อง ก่อนควบคุมตัวพนักงานและของกลางมาตรวจสอบที่ บช.สอท.


พล.ต.ต.ภาณุมาศ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากประชาชนว่าได้รับความเดือดร้อนจากการกู้หนี้ยืมสิน โดยมีการคิดดอกเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก คิดเป็นร้อยละ 38 จากยอดเงินต้น เมื่อกู้ยืมเงินจำนวน 2,500 บาท จะได้รับเงินจริง 1,550 บาท จะถูกหักค่าดำเนินการจำนวน 950 บาท จึงได้สืบสวนพบเป็นแอปพลิเคชันเงินกู้ Eesy money ปรากฏอยู่ในเพลย์สโตร์ ซึ่งมีอยู่หลายแอปฯ เพื่อให้ผู้ต้องการกู้ยืมเงินโหลดเข้าไป ซึ่งต้องยอมรับเงื่อนไขยอมให้เข้าถึงข้อมูลต่างๆ เมื่อกดเข้าไปแล้วจะมีเงื่อนไขเวลาในการชำระเงินคืนภายใน 7 วัน หากชำระล่าช้าจะถูกปรับเป็นรายวัน ประมาณวันละ 100-200 บาท นอกจากนั้นหากไม่จ่ายจะถูกทวงถามผ่านไปยังบุคคลที่ 3 ซึ่งถูกอ้างว่าเป็นผู้ค้ำประกันให้กับผู้ที่กู้ยืมเงิน ซึ่งแอปพลิเคชันดังกล่าวจะตั้งไว้ให้ดึงข้อมูลรายชื่อในโทรศัพท์ของผู้เสียหายไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต จนมีผู้เดือดร้อนเป็นจำนวนมาก

จากการสอบถามพนักงานทราบว่าบริษัทแห่งนี้เปิดให้บริการได้เพียง 2 เดือน มีลูกค้าประมาณ 1,200-1,300 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลการกระทำความผิดต่อไป ทั้งนี้ การกระทำของบริษัทแห่งนี้ถือเป็นความผิด “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้ผู้อื่นกู้ยืมเงิน หรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน” ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัวเจ้าของบริษัท รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม

กกต.ขอบคุณ ปชช.ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

เลขาธิการ กกต. แถลงสถานการณ์หลังปิดหีบบัตรเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ พร้อมชี้แจงกรณีบัตรเลือกตั้งหายที่จังหวัดบึงกาฬ