กทม. 11 มี.ค.- คุม 3 แกนนำกลุ่มราษฎรไต่สวนคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำตัว 3 แกนนำราษฎรมาควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครแทนเรือนจำพิเศษธนบุรี
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัว นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี มาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก หลังศาลนัดไต่สวน คำร้อง กรณี วานนี้ นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความยื่นคำร้องขอให้ศาลออกคำสั่งให้นำตัวจำเลยและผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ที่ถูกควบคุมอยู่ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี มาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ให้ตรงกับหมายขังระหว่างสอบสวนและพิจารณาคดีตามคำร้อง
ล่าสุด ศาลได้ไต่สวนพยานจนครบและนัดฟังคำสั่งกรณีดังกล่าว วันที่ 15 มีนาคมนี้ เวลา 11.00 น. ด้าน นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจำเลย เปิดเผยว่า การคุมขังจำเลยไม่ว่ากรณีใดก็ตามเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องปฎิบัติตามหมายขังที่ศาลสั่ง แต่กรณีนี้กลับเปลี่ยนสถานที่คุมขังโดยที่ศาลไม่ได้อนุญาต และไม่รายงานต่อศาลว่าเป็นกรณีเร่งด่วนตั้งแต่วันที่ควบคุมตัวไป แต่กลับมาทำหนังสือรายงานต่อศาลหลังจากทีมทนายความทำเรื่องร้องต่อศาลว่าการย้ายสถานที่คุมขังของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เป็นการละเมิดคำสั่งศาล ซึ่งได้นำกรณีที่เกิดขึ้นนี้มาเป็นเหตุผล เพื่อขอให้ศาลไต่สวนพิจารณาให้มีคำสั่งนำจำเลยกลับมาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้ (12 มี.ค.) จะมายื่นเรื่องขอประกันตัวจำเลย ในคดีปักหมุดคณะราษฎรที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19 -20 กันยายน 2563 ต่อศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยมีการเตรียมหลักทรัพย์ประกันคนละ 5 แสนบาท และนายประกันที่น่าเชื่อถือไว้ด้วย
การร้องขอให้ศาลไต่สวนในครั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ศาลอาญารัชดาภิเษกได้มีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังนายจตุภัทร์ และนายภาณุพงศ์ ในความผิดอาญามาตรา 112 จากการชุมนุมกลุ่มราษฎร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2563 หลังอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องและส่งตัวยื่นฟ้องต่อศาลอาญา ส่วนนายปิยรัฐในความผิดคดีชุมนุมที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา โดยทั้ง 3 คน ศาลไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว และออกหมายขังระหว่างสอบสวนให้กับผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและได้กำหนดให้ขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แต่ปรากฏว่าทั้งสามกลับถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษธนบุรี ซึ่งถือเป็นการคุมขังที่ไม่ตรงต่อหมายขังของศาล ซึ่งเจ้าหน้าที่อ้างว่าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครมีความแออัด จึงให้ทั้ง 3 คนมากักตัวดูอาการโรคโควิด-19 และคุมขังที่เรือนจำธนบุรีแทน เพราะมีความแออัดน้อยกว่า
จากนั้นทนายความได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้มีคำสั่งให้นำตัว จำเลยทั้ง 3 คน ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี มาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครให้ตรงกับหมายขังระหว่างสอบสวนและพิจารณาคดีตามคำร้องเนื่องจากเห็นว่า เป็นการคุมขังที่ขัดต่อหมายขังของศาล และขัดต่อกฎหมายเพราะหมายขังจะต้องจัดการให้เป็นไปตามเขตของศาลซึ่งออกหมาย ตามมาตรา 89 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งการนำจำเลยทั้ง 3 คน ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษธนบุรี ซึ่งเป็นเรือนจำที่มีที่ตั้งห่างไกลจากศาลอาญาและเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ย่อมทำให้เกิดความเดือดร้อนเกินสมควรแก่จำเลยและผู้ต้องหาเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ทนายความผู้ต้องหาไม่สามารถเดินทางไปปรึกษาหารือเกี่ยวกับคดีได้อย่างสะดวก กระทบกระเทือนต่อสิทธิในการต่อสู้คดีและกระทบต่อญาติในการเดินทางติดต่อขอเข้าเยี่ยม หรือสั่งซื้อสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นให้แก่ผู้ต้องหาอีกด้วย อีกทั้งการนำตัวผู้ต้องหาไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษธนบุรีย่อมก่อให้เกิดความไม่สะดวกในช่วงเวลาที่จะต้องเบิกตัวผู้ต้องหามาศาล เพราะที่ตั้งของเรือนจำมีความห่างไกล เดินทางยากลำบาก อาจก่อให้เกิดความล่าช้า ไม่สะดวก ในการเดินทางมาศาล ซึ่งอาจจะกระทบกระเทือนต่อกระบวนพิจารณาคดีของศาล. -สำนักข่าวไทย
