เตรียมกำลังตำรวจ 400 นาย ดูแลม็อบชุมนุม 3 จุด พรุ่งนี้

กรุงเทพฯ 5 มี.ค. – ตำรวจจัดกำลัง 400 นาย ดูแลม็อบนัดชุมนุม 3 จุด พรุ่งนี้ (6 มี.ค.) พร้อมแนะนำเลี่ยงการใช้ถนนที่มีม็อบชุมนุม รวมถึงขั้นตอนการดูแลการชุมนุมสาธารณะ


พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงการเตรียมการจัดจราจรจากการชุมนุมในพื้นที่การชุมนุม 3 พื้นที่
จุดแรก โลตัสรังสิต-กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ จุดที่ได้รับผลกระทบคือ ถ.พหลโยธิน รามอินทรา แจ้งวัฒนะ วงเวียนและอุโมงค์บางเขน ถนนลาดพร้าว-วังหิน แนะนำเลี่ยงใช้ถนนวิภาวดีรังสิต และโทลล์เวย์

จุดที่ 2 ห้าแยกลาดพร้าว-ศาลอาญา รัชดาภิเษก ให้เลี่ยงถนนรัชดาภิเษก พหลโยธิน ลาดพร้าว แนะให้ใช้ถนนวิภาวดีรังสิต โทลล์เวย์ ซอยโชคชัย สุทธิสาร ประดิพัทธ์ และซอยย่อยต่างๆ ซึ่งทั้ง 2 จุดนี้อาจมารวมกลุ่มกัน ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนการดูแลการจราจรตามสถานการณ์อีกครั้ง


จุดที่ 3 แยกราชประสงค์ แนะเลี่ยงถนนราชดำริ แยกประตูน้ำ ถนนชิดลม พระราม 1 แนะใช้ถนนราชปรารภ เพชรบุรี พระราม 4 อังรีดูนังต์ และซอยต้นสน

อีกจุดที่เฝ้าติดตามข่าวคือ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เนื่องจากมีการข่าวว่าอาจมีกลุ่มผู้ชุมนุมอีกกลุ่มมารวมตัวในจุดอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด้วย

จากการข่าวทั้งหมด กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดเตรียมกำลังตำรวจจราจรไว้ 300 นาย และมีกำลังเสริมจากกองบังคับการตำรวจจราจรอีก 100 นาย คอยดูแลสภาพการจราจรบริเวณโดยรอบการชุมนุมทุกจุด


หากสถานการณ์การชุมนุมรุนแรงมากยิ่งขึ้นจะมีการพิจารณาร่วมกับบริษัทขนส่งทางรางว่าจะต้องปิดให้บริการสถานีรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินในสถานีใดบ้าง เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และทรัพย์สินของทางเอกชน เบื้องต้นอาจมีการปิดให้บริการ 3 สถานีคือ สถานีบางบัว วัดพระศรีฯ กรมราบที่ 11

อีกด้านหนึ่ง นางจันทร์ทิพย์ มากคำ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการเดินรถ ฝ่ายการเดินรถ ขสมก. เปิดเผยว่า หากสถานการณ์การชุมนุมไม่ปิดการจราจร จะเปิดการเดินรถในเส้นทางต่างๆ ตามปกติ หากมีการปิดการจราจร จะมีการปรับการเดินรถ 11 สาย ให้ไปอีกเส้นหนึ่ง โดยจะจัดเจ้าหน้าที่ ขสมก. ลงไปช่วยดูแลในเส้นทางต่าๆ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน 1348 โดยทาง ขสมก. จะมีการจัดรถอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการที่ต้องการเดินทางออกจากพื้นที่การชุมนุมแต่ละจุด เพื่อเชื่อมต่อไปยังจุดที่สามารถต่อรถไปยังเส้นทางอื่นๆ ได้ ที่อยู่ภายในพื้นที่การชุมนุมอาจจะต้องเดินเท้าออกมาในจุดรับส่งของ ขสมก. เล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีการวางแผนเตรียมการรับมือหากกลุ่มผู้ชุมนุมมีการใช้ความรุนแรงและทำลายทรัพย์สินของทางราชการ หรือ ขสมก.

โดยกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันนัดชุมนุม 6 มีนาคม พร้อมกันห้าแยกลาดพร้าว 5 โมงเย็น ไปศาลอาญา รัชดาฯ โดยพร้อมกันในเวลา 17.00 น. และยุติการชุมนุมในเวลา 21.00 น.

ข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า เปิดเผยขั้นตอนดูแลการชุมนุมสาธารณะ โดยให้รายละเอียดว่า การชุมนุมสาธารณะเป็นสิทธิและเสรีภาพของประชาชนตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 แต่ต้องไม่ขัดต่อกฎหมายอื่น ไม่ล่วงล้ำหรือละเมิดสิทธิของคนอื่น และเป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ

สำหรับขั้นตอนปฏิบัติการดูแลการชุมนุมสาธารณะตามกฎหมายมี 4 ขั้นตอน ดังนี้
1.ขั้นเตรียมการ เช่น ดำเนินการด้านการข่าว ประสานงานหน่วยที่เกี่ยวข้อง เตรียมพื้นที่และอุปกรณ์ เจรจาต่อรองกับผู้แจ้งการชุมนุม
2.ขั้นการเผชิญเหตุ เช่น จัดตั้งจุดตรวจ ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุม ดำรงการเจรจา ป้องกันภาวะแทรกซ้อน
3.ขั้นการใช้กำลังคลี่คลายสถานการณ์ (กรณีศาลมีคำสั่งให้เลิกการชุมนุม)
4.ขั้นฟื้นฟู (หลังการชุมนุม) เช่น จัดส่งผู้บาดเจ็บ ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ฟื้นฟูสถานที่และทรัพย์สิน รวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินคดี

หลักการดูแลการชุมนุมสาธารณะอยู่ภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง และให้ความสำคัญกับการชุมนุมโดยสงบ มุ่งคุ้มครองทั้งผู้ชุมนุมและประชาชนทั่วไป ส่วนเครื่องมือควบคุมฝูงชนตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ออกตามความใน พ.ร.บ.การชุมนุม มีหลายประเภท เช่น โล่ใส กระบองยาง แก๊สน้ำตา เสื้อเกราะ เครื่องขยายเสียง เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง รถควบคุมฝูงชน ปืนยิงกระสุนยางหรือแก๊สน้ำตา ฯลฯ

การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการทำหน้าที่เมื่อเผชิญกับกลุ่มผู้ชุมนุม มี 4 ขั้นตอน คือ
1.ใช้การเจรจาต่อรองและแจ้งเตือนก่อน หากมีการฝ่าฝืนกฎหมายให้หยุดการกระทำ
2.ถ้าไม่หยุด ให้แสดงท่าทางพร้อมใช้กำลัง มาตรการ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือ
3.หากยังคงฝ่าฝืนให้ใช้กำลังเพื่อกักตัวหรือจับกุมได้ ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
4.การปฏิบัติต่อผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุ จะต้องเพิ่มความระมัดระวังและปฏิบัติให้เหมาะสมกับสถานภาพ

สำหรับเครื่องมือ-อุปกรณ์ควบคุมฝูงชน จะใช้ตามความจำเป็น ได้สัดส่วนและเหมาะสมกับสถานการณ์ โดยจะแจ้งเตือนก่อน และมีลำดับความหนักเบาแตกต่างกันไป
1.การใช้กระบอง จะใช้ในกรณีผลักดันกลุ่มคนออกจากพื้นที่ แต่ต้องไม่ตีที่บริเวณอวัยวะสำคัญที่อาจเกิดอันตรายต่อชีวิตหรือทำให้พิการ
2.การยิงกระสุนยาง จะยิงต่อเป้าหมายที่กระทำการหรือมีท่าทีคุกคามต่อชีวิตผู้อื่น
3.การใช้น้ำฉีด จะใช้ในกรณีเข้ายุติการชุมนุม หรือระงับยับยั้งป้องกันเหตุ โดยใช้แรงดันน้ำเท่าที่จำเป็นในการสลายฝูงชน
4.การใช้สารควบคุมการจลาจล เพื่อยุติการชุมนุม หรือระงับยับยั้งป้องกันเหตุ สามารถทำได้ โดยใช้ระดับความเข้มข้นที่เหมาะสม
5.การใช้แก๊สน้ำตา จะระมัดระวังหลีกเลี่ยงการขว้างไปโดนตัวบุคคล และระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับกลุ่มคนที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]