เตรียมกำลังตำรวจ 400 นาย ดูแลม็อบชุมนุม 3 จุด พรุ่งนี้

กรุงเทพฯ 5 มี.ค. – ตำรวจจัดกำลัง 400 นาย ดูแลม็อบนัดชุมนุม 3 จุด พรุ่งนี้ (6 มี.ค.) พร้อมแนะนำเลี่ยงการใช้ถนนที่มีม็อบชุมนุม รวมถึงขั้นตอนการดูแลการชุมนุมสาธารณะ


พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงการเตรียมการจัดจราจรจากการชุมนุมในพื้นที่การชุมนุม 3 พื้นที่
จุดแรก โลตัสรังสิต-กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ จุดที่ได้รับผลกระทบคือ ถ.พหลโยธิน รามอินทรา แจ้งวัฒนะ วงเวียนและอุโมงค์บางเขน ถนนลาดพร้าว-วังหิน แนะนำเลี่ยงใช้ถนนวิภาวดีรังสิต และโทลล์เวย์

จุดที่ 2 ห้าแยกลาดพร้าว-ศาลอาญา รัชดาภิเษก ให้เลี่ยงถนนรัชดาภิเษก พหลโยธิน ลาดพร้าว แนะให้ใช้ถนนวิภาวดีรังสิต โทลล์เวย์ ซอยโชคชัย สุทธิสาร ประดิพัทธ์ และซอยย่อยต่างๆ ซึ่งทั้ง 2 จุดนี้อาจมารวมกลุ่มกัน ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนการดูแลการจราจรตามสถานการณ์อีกครั้ง


จุดที่ 3 แยกราชประสงค์ แนะเลี่ยงถนนราชดำริ แยกประตูน้ำ ถนนชิดลม พระราม 1 แนะใช้ถนนราชปรารภ เพชรบุรี พระราม 4 อังรีดูนังต์ และซอยต้นสน

อีกจุดที่เฝ้าติดตามข่าวคือ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เนื่องจากมีการข่าวว่าอาจมีกลุ่มผู้ชุมนุมอีกกลุ่มมารวมตัวในจุดอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด้วย

จากการข่าวทั้งหมด กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดเตรียมกำลังตำรวจจราจรไว้ 300 นาย และมีกำลังเสริมจากกองบังคับการตำรวจจราจรอีก 100 นาย คอยดูแลสภาพการจราจรบริเวณโดยรอบการชุมนุมทุกจุด


หากสถานการณ์การชุมนุมรุนแรงมากยิ่งขึ้นจะมีการพิจารณาร่วมกับบริษัทขนส่งทางรางว่าจะต้องปิดให้บริการสถานีรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินในสถานีใดบ้าง เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และทรัพย์สินของทางเอกชน เบื้องต้นอาจมีการปิดให้บริการ 3 สถานีคือ สถานีบางบัว วัดพระศรีฯ กรมราบที่ 11

อีกด้านหนึ่ง นางจันทร์ทิพย์ มากคำ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการเดินรถ ฝ่ายการเดินรถ ขสมก. เปิดเผยว่า หากสถานการณ์การชุมนุมไม่ปิดการจราจร จะเปิดการเดินรถในเส้นทางต่างๆ ตามปกติ หากมีการปิดการจราจร จะมีการปรับการเดินรถ 11 สาย ให้ไปอีกเส้นหนึ่ง โดยจะจัดเจ้าหน้าที่ ขสมก. ลงไปช่วยดูแลในเส้นทางต่าๆ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน 1348 โดยทาง ขสมก. จะมีการจัดรถอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการที่ต้องการเดินทางออกจากพื้นที่การชุมนุมแต่ละจุด เพื่อเชื่อมต่อไปยังจุดที่สามารถต่อรถไปยังเส้นทางอื่นๆ ได้ ที่อยู่ภายในพื้นที่การชุมนุมอาจจะต้องเดินเท้าออกมาในจุดรับส่งของ ขสมก. เล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีการวางแผนเตรียมการรับมือหากกลุ่มผู้ชุมนุมมีการใช้ความรุนแรงและทำลายทรัพย์สินของทางราชการ หรือ ขสมก.

โดยกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันนัดชุมนุม 6 มีนาคม พร้อมกันห้าแยกลาดพร้าว 5 โมงเย็น ไปศาลอาญา รัชดาฯ โดยพร้อมกันในเวลา 17.00 น. และยุติการชุมนุมในเวลา 21.00 น.

ข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า เปิดเผยขั้นตอนดูแลการชุมนุมสาธารณะ โดยให้รายละเอียดว่า การชุมนุมสาธารณะเป็นสิทธิและเสรีภาพของประชาชนตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 แต่ต้องไม่ขัดต่อกฎหมายอื่น ไม่ล่วงล้ำหรือละเมิดสิทธิของคนอื่น และเป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ

สำหรับขั้นตอนปฏิบัติการดูแลการชุมนุมสาธารณะตามกฎหมายมี 4 ขั้นตอน ดังนี้
1.ขั้นเตรียมการ เช่น ดำเนินการด้านการข่าว ประสานงานหน่วยที่เกี่ยวข้อง เตรียมพื้นที่และอุปกรณ์ เจรจาต่อรองกับผู้แจ้งการชุมนุม
2.ขั้นการเผชิญเหตุ เช่น จัดตั้งจุดตรวจ ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุม ดำรงการเจรจา ป้องกันภาวะแทรกซ้อน
3.ขั้นการใช้กำลังคลี่คลายสถานการณ์ (กรณีศาลมีคำสั่งให้เลิกการชุมนุม)
4.ขั้นฟื้นฟู (หลังการชุมนุม) เช่น จัดส่งผู้บาดเจ็บ ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ฟื้นฟูสถานที่และทรัพย์สิน รวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินคดี

หลักการดูแลการชุมนุมสาธารณะอยู่ภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง และให้ความสำคัญกับการชุมนุมโดยสงบ มุ่งคุ้มครองทั้งผู้ชุมนุมและประชาชนทั่วไป ส่วนเครื่องมือควบคุมฝูงชนตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ออกตามความใน พ.ร.บ.การชุมนุม มีหลายประเภท เช่น โล่ใส กระบองยาง แก๊สน้ำตา เสื้อเกราะ เครื่องขยายเสียง เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง รถควบคุมฝูงชน ปืนยิงกระสุนยางหรือแก๊สน้ำตา ฯลฯ

การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการทำหน้าที่เมื่อเผชิญกับกลุ่มผู้ชุมนุม มี 4 ขั้นตอน คือ
1.ใช้การเจรจาต่อรองและแจ้งเตือนก่อน หากมีการฝ่าฝืนกฎหมายให้หยุดการกระทำ
2.ถ้าไม่หยุด ให้แสดงท่าทางพร้อมใช้กำลัง มาตรการ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือ
3.หากยังคงฝ่าฝืนให้ใช้กำลังเพื่อกักตัวหรือจับกุมได้ ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
4.การปฏิบัติต่อผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุ จะต้องเพิ่มความระมัดระวังและปฏิบัติให้เหมาะสมกับสถานภาพ

สำหรับเครื่องมือ-อุปกรณ์ควบคุมฝูงชน จะใช้ตามความจำเป็น ได้สัดส่วนและเหมาะสมกับสถานการณ์ โดยจะแจ้งเตือนก่อน และมีลำดับความหนักเบาแตกต่างกันไป
1.การใช้กระบอง จะใช้ในกรณีผลักดันกลุ่มคนออกจากพื้นที่ แต่ต้องไม่ตีที่บริเวณอวัยวะสำคัญที่อาจเกิดอันตรายต่อชีวิตหรือทำให้พิการ
2.การยิงกระสุนยาง จะยิงต่อเป้าหมายที่กระทำการหรือมีท่าทีคุกคามต่อชีวิตผู้อื่น
3.การใช้น้ำฉีด จะใช้ในกรณีเข้ายุติการชุมนุม หรือระงับยับยั้งป้องกันเหตุ โดยใช้แรงดันน้ำเท่าที่จำเป็นในการสลายฝูงชน
4.การใช้สารควบคุมการจลาจล เพื่อยุติการชุมนุม หรือระงับยับยั้งป้องกันเหตุ สามารถทำได้ โดยใช้ระดับความเข้มข้นที่เหมาะสม
5.การใช้แก๊สน้ำตา จะระมัดระวังหลีกเลี่ยงการขว้างไปโดนตัวบุคคล และระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับกลุ่มคนที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]