สามี “เจ๊ไข่” ร้านดังย่านประชาชื่นยิงตัวเองดับ

กรุงเทพฯ 4 มี.ค.-สามี “เจ๊ไข่” เจ้าของร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดังย่านประชาชื่น ยิงตัวเองเสียชีวิตกลางร้าน ครอบครัวตั้งข้อสงสัย ช่วง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้ตายไม่ยิ้มเลย


ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ร้อยตำรวจเอกจิระวัฒน์ จันทะโรจน์ รองสารวัตรสอบสวน สน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุมีผู้ยิงตัวตาย ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านถนนริมคลองปะปา จึงประสานมูลนิธิร่วมกตัญญู และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมตรวจสอบ

จากการตรวจสอบ ที่ชั้น 4 ของอาคาร ระหว่างซอยประชาชื่น 37-39 เป็นร้านอาหารซีฟู้ดชื่อร้านเจ๊ไข่ ซีฟู้ด พบร่างนายสุรศักดิ์ อายุ 65 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นห้อง ที่บริเวณขมับศีรษะด้านขวาพบมีรูกระสุน 1 นัด ใกล้กันพบปืนพก แบบลูกโม่ ยังไม่ทราบขนาดตกอยู่บนพื้นห้อง ห่างจากบริเวณเท้าของศพประมาณ 1 เมตร ซึ่งนายสุรศักดิ์ เป็นสามีของคุณนิภาพร ซื่อสัตย์ หรือ เจ๊ไข่


จากการสอบถามคนงานของร้านอาหารดังกล่าว ทราบข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขึ้นไปที่ชั้น 4 ในช่วงเวลา 21.00 น. ซึ่งเป็นเวลาปกติที่ผู้ตายจะขึ้นไปในเวลานี้ของทุกวันเพื่อดื่มกินก่อนเข้านอน ก่อนที่เมื่อร้านปิดเวลาประมาณ 22.00 น. เจ๊ไข่ จะปิดร้านและขึ้นตามไป และร่วมดื่มกิน ก่อนที่เจ๊ไข่จะปลีกตัวเข้าห้อง ซึ่งขณะเข้าห้องน้ำได้ยินเสียงปืนดังขึ้น เมื่อวิ่งออกมาดูก็พบว่านายสุรศักดิ์ ได้ยิงตัวเอง จึงพยายามเรียกเจ้าหน้าที่กู้ชีพและอาสากู้ภัย เข้ามาเพื่อข่วยชีวิต แต่ไม่เป็นผล ซึ่งขณะเกิดเหตุมีคนอยู่ในอาคารทั้งหมดเพียงแค่ 4 คน คือ นายสุรศักดิ์ เจ๊ไข่ และคนงานอีก 2 คน

ส่วนสาเหตุจนถึงขณะนี้ทางครอบครัวยังไม่ทราบระบุได้ว่าการก่อเหตุในครั้งนี้มาจากสาเหตุใด เพราะยอดขายของทางร้านก็ยังปกติดี ไม่น่าจะใช่ความเครียดจากเรื่องธุรกิจ มีเพียงข้อสงสัยที่ทางครอบครัวเห็นว่าผิดปกติ คือ ในช่วง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้ตายไม่ยิ้มเลย ซึ่งปกติแล้วผู้ตายจะเป็นคนยิ้มแย้มกับทุกๆคน แต่ก็ไม่ได้มีใครคิดว่าผู้ตายจะมาก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้ส่งร่างผู้ตายให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างไปส่งชันสูตร ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน เพราะจากการสอบถามเบื้องต้น ยังไม่พบสาเหตุที่คาดว่าผู้ตายจะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น


สำหรับร้านเจ๊ไข่ เปิดมาจนถึงปัจจุบันกว่า 30 ปี โดยเริ่มจากธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็ก มีเพียง 1 คูหา ปัจจุบันมีขนาดอาคารกว่า 8 คูหา มูลค่าทรัพย์สินกว่า 40 ล้านบาท มีพนักงานทั้งหมดรวมกว่า 40 คน และทำยอดขายได้วันละนับแสนบาทต่อวัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]