กรุงเทพฯ 2 มี.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนเร่งคลี่คลายคดี “พริตตี้วาวา” หลังรับงานเอ็นฯ แล้วเสียชีวิตปริศนา พบสารเสพติดในร่างกาย “พริตตี้วาวา” แต่ไม่ยืนยันถูกบังคับเสพยา และพบพิรุธทำความสะอาด ลบภาพกล้องวงจรปิดบ้านเกิดเหตุ
บรรยากาศที่ สน.พหลโยธิน พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวน เร่งคลี่คลายคดีพริตตี้วาวาเสียชีวิตปริศนา หลังไปรับงานให้กับนายเก่งที่บ้านพักย่านเสนานิคม
พล.ต.ต.จิรพัฒน์ เปิดเผยว่า ขณะนี้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไป 11 คน เป็นญาติผู้ตายบางส่วนและผู้ร่วมงาน วันนี้สอบเพิ่มอีก 3 คน ยังเหลือสอบพยานอีก 6 คน บางคนให้การเป็นประโยชน์ บางคนให้การคลุมเครือ แต่มีพยานระบุว่าช่วงตี 4 ผู้ตายมีอาการอาเจียนหนัก แฟนสาวของผู้ชายที่ร่วมงานจึงพาขึ้นไปอาบน้ำและนอนพักที่ชั้น 4 ของบ้าน และคอยดูแลตลอด กระทั่งผู้ตายมีอาการชักเกร็ง เจ้าของบ้านกับเพื่อนชายอีกคนจึงอุ้มขึ้นรถพาไปส่งโรงพยาบาลทันที ในช่วง 06.00 น. ใช้เวลาเดินทางเพียง 5 นาที
เบื้องต้นเชื่อว่าภายในงานปาร์ตี้มีการเสพยาเสพติดจริง ประกอบกับผลชันสูตรเบื้องต้นพบสารเสพติดบางชนิดในร่างกายของพริตตี้วาวา ได้แก่ เคตามีนในเลือด และยาอีปัสสาวะ ในกระเพาะอาหารมียาบ้าและยานอนหลับไดอะซิแพม แต่ยังไม่ทราบว่าผู้ตายดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ ต้องรอผลการตรวจจากแพทย์อีกครั้ง
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบ้าน พบว่ามีการลบข้อมูลไปแล้ว ขณะนี้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลางกำลังกู้ภาพเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะเป็นหลักฐานสำคัญในคดี เนื่องจากอยู่บนชั้น 2 ของบ้านในตำแหน่งที่จัดงานปาร์ตี้ และยังพบว่ามีการจ้างบริษัททำความสะอาดเข้ามาทำความสะอาดบ้านทันทีหลังเกิดเหตุ
ขณะที่กำลังประชุมติดตามคดี นางสาวพรทิพย์ แก้วสุข แม่ของพริตตี้สาววาวา ได้เดินทางมาที่ สน.พหลโยธิน เร่งรัดให้ตำรวจค้นหาความจริงและดำเนินคดีกับคนร้ายให้ได้ หากคดีจบเร็วจะได้นำร่างลูกสาวไปฌาปนกิจ โดยเฉพาะต้องการเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ เชื่อจะช่วยเปิดเผยความจริงได้ พร้อมยืนยันลูกสาวไม่ยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด แม้แต่กาแฟหรือแอลกอฮอล์ ลูกก็ไม่ดื่ม แต่หากมีคนนำไปให้ดื่มก็ต้องประเมินและรู้ลิมิตตนเอง
สำหรับคดีนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับใคร เพราะต้องติดตามคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาสอบปากคำให้ครบทั้งหมดก่อน ซึ่งมีการออกหมายเรียกไปแล้ว แต่ผู้ที่ร่วมงานปาร์ตี้ทั้งหมดจะเข้าข่ายความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นเอกสารร้องเรียนต่อ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ให้ตรวจสอบมาตรฐานการรักษาพยาบาล กรณีการเสียชีวิตของพริตตี้วาวา ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเขตจตุจักรว่าตรงตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ และเข้าข่ายการรักษาสิทธิยูเซ็ป (UCEP) หรือไม่ เนื่องจากช่วงที่พริตตี้วาวาเข้ารับการรักษาตั้งแต่เวลา 06.29 น. ไม่ได้เข้าห้องไอซียู แต่นอนอยู่ในห้องสังเกตอาการ จนเมื่อ 07.18 น. จึงเริ่มการรักษา และมีการเรียกเก็บเงินอีก 40,000 บาท และในเวลา 08.45 น. วาวาเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว แต่ไม่สามารถนำศพออกไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ในตอนเที่ยงได้ เพราะไม่ได้จ่ายค่าชุดที่ใช้ระหว่างรักษาพยาบาลอีก 500 บาท โดยมองว่ากว่าจะเริ่มทำการรักษาใช้เวลานานถึง 50 นาที และหากรักษาเร็วคงไม่เสียชีวิต
ด้านกรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว และเตรียมเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งทางฝั่งโรงพยาบาลเอกชน และญาติผู้เสียชีวิต มาให้ถ้อยคำกับคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องร้องเรียน เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ภายใน 7 วัน.-สำนักข่าวไทย