ประมวลเหตุการณ์-ความเสียหายเหตุชุมนุม

กทม. 1 มี.ค.- เจ้าหน้าที่ยังไม่ย้ายตู้คอนเทนเนอร์ที่วางไว้ริมถนนวิภาวดี-รังสิตขาออก ทำให้เมื่อเช้ารถติดอย่างหนัก ขณะที่รองนายกรัฐมนตรีแสดงความเสียใจที่มีนายตำรวจเสียชีวิต


ย้อนกลับไปเมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมาที่บริเวณหน้านกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ซึ่งภายในเป็นที่ตั้งของบ้านพักนายกรัฐมนตรี แต่สถานการณ์ดุเดือดเพราะมีเหตุชุลมุนหลายครั้ง ตั้งแต่ช่วงเวลา 21.14 น. เกิดเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มมวลชน เมื่อมีกลุ่มควันจำนวนหนึ่งอยู่ฝั่งตำรวจ ทำให้กลุ่มมวลชนขว้างปาสิ่งของ พร้อมกับมีเสียงระเบิดคล้ายประทัดยักษ์ และระเบิดปิงปอง

ต่อมาตำรวจตัดสินใจสลายการชุมนุมด้วยกระสุนยางและรถฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตา พร้อมส่งกำลังพลเข้ากระชับพื้นที่ โดยระยะเวลาที่มีการปะทะยาวนานกว่า 10 นาที


จากนั้นเกิดเหตุชุลมุนอีกครั้ง เมื่อมีมวลชนฝั่งวิภาวดีฯ ขาเข้า (หน้าปั๊มเชลล์) รวมตัวและตะโกนด่าทอตำรวจ เจ้าหน้าที่ต้องสลายการชุมนุมอีกครั้ง โดยใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง

หลังเหตุการณ์ทั้ง 2 ฝั่งถนน พบมีตำรวจบาดเจ็บหลายนายลักษณะถูกของแข็งกระแทก ส่วนผู้ชุมนุมบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง แต่ยังประเมินไม่ได้ว่ามีกี่คน

อย่างไรก็ตาม เมื่อสลายมวลชนที่ถนนวิภาวดีฯ ฝั่งขาเข้า ปรากฏว่ามีผู้กระจายตัววิ่งหนี แต่หลังจากนั้นได้เกิดสถานการณ์รุนแรงที่ย่านดินแดง มีการเผารถตำรวจและมีผู้ถูกจับกุมหลายคน


เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายที่ สน.ดินแดง พบทหารจิตอาสา 22 นายเข้ามาช่วยทำความสะอาด ทั้งภายนอกและภายใน สน.ดินแดง หลังเมื่อคืนมีกลุ่มบุคคลบุกล้อม สน. และขว้างปาสิ่งของใส่ ก่อนตำรวจควบคุมฝูงชนจะเข้ามาควบคุมสถานการณ์

จากการตรวจสอบภายในสถานีพบร่องรอยคราบสีต่างๆ รวมทั้งโต๊ะ-เก้าอี้บางส่วนเสียหาย กระจกห้องรับแจ้งความแตก 3 จุด รถกระบะและจักรยานยนต์สายตรวจถูกไฟไหม้ เบื้องต้นได้เก็บหลักฐานเตรียมดำเนินคดีผู้กระทำผิด ส่วน สน.ดินแดง ยังเปิดให้ทำการตามปกติ

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมเมื่อวานนี้ว่า ขอแสดงความเสียใจกับตำรวจที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนและเกิดอาการหัวใจหยุดเต้น ส่วนการใช้กระสุนยางนั้นยืนยันว่าเป็นไปตามขั้นตอนของตำรวจ แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องมีทหารเข้าไปควบคุมสถานการณ์ หลังพบว่าการชุมนุมเมื่อวานไม่มีแกนนำควบคุม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง