จ่อเอาผิดร้านค้า-ประชาชน โกงคนละครึ่ง ย่านบางขุนเทียน

กทม. 23 ม.ค. – ตำรวจสืบสวนนครบาล ร่วมกับตำรวจนครบาล 9 แถลงดำเนินคดีกับผู้ประกอบการร้านค้าและลูกค้า รวม 21 คน ย่านบางขุนเทียน ร่วมฉ้อโกงโครงการคนละครึ่ง


จากกรณี พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ ผบ.ตร.ห่วงใยเรื่องสื่อสังคมออนไลน์ นำเสนอประเด็นกลโกง โครงการ “เราชนะ” รับซื้อ-ขายสิทธิ โดยชาวเน็ตให้ข้อมูลร้านค้าหลายแห่งที่เปิดให้ประชาชนแลกเงินในโครงการต่างๆ ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (23 ก.พ.) ที่ สน.บางขุนเทียน พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ รองผู้บังคับการศูนย์สืบสวนสอบสวนนครบาล พร้อมด้วย พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 และผู้กำกับการ สน.บางขุนเทียน ร่วมกันแถลงผลงานการดำเนินคดีผู้ต้องหา 21 คน ฐานฉ้อโกง หลังสืบทราบว่ามีการใช้สิทธิตามโครงการคนละครึ่งอย่างผิดกฎหมาย ไม่ตรงตามนโยบายที่รัฐบาลกำหนด


พ.ต.อ.ธีระชัย เผยว่า หลังตำรวจได้รับข้อมูลจากสำนักเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง ว่ามีร้านขายของชำร้านหนึ่ง ตั้งอยู่เลขที่ 725 ถนนเอกชัย ซอย 46 แขวงและเขตบางบอน ซึ่งร้านค้าดังกล่าวลงทะเบียนร่วมโครงการคนละครึ่ง กับกระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทย ต่อมาการสืบสวนพบว่า รายละเอียดการสแกนซื้อสินค้าและจ่ายเงินมีความผิดปกติ โดยมีการโอนเงินเข้า-ออกจากแอปพลิเคชัน แต่ไม่มีการซื้อสินค้ากันจริงๆ ซึ่งถือว่าไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และทำให้รัฐบาลได้รับความเสียหาย ล่าสุดการสืบสวนพบผู้กระทำความผิดลักษณะเดียวกันในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ มีอยู่ทุกภาค แต่ในท้องที่ บช.น. พบ 21 คน ในท้องที่ สน.บางขุนเทียน มีการทำผิดกันหลายกรรมหลายวาระ จึงเดินทางมาแจ้งความกับ สน.บางขุนเทียน และดำเนินการกับผู้ต้องหาทั้ง 21 คน ตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.นครินทร์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 21 คนนั้น ประกอบด้วย เจ้าของร้านขายของชำ 1 คน ญาติ 3 คน และลูกค้า 17 คน จากการสืบสวนหาพฤติกรรมของผู้กระทำความผิด พบว่า แต่ละคนมีการสแกนซื้อสินค้าหลอกๆ เพื่อนำเงิน 150 บาท จากโครงการคนละครึ่ง มาใช้จริง โดยร้านค้าจะจ่ายให้ลูกค้า 100 บาท และเจ้าของร้านจะเก็บไว้เอง 50 บาท ผู้กระทำความผิดแต่ละรายสแกนแลกเงินกันหลายครั้ง หลายวาระ ซึ่งขณะนี้ดำเนินการสอบสวน รอออกหมายเรียกตัวทั้ง 21 คน เข้าพบพนักงานสอบสวนในข้อหาฉ้อโกงแล้ว ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีมีการทำผิดหลายกรรม หลายครั้ง โทษรวมกันก็จะสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น อยากฝากบอกประชาชนและเจ้าของร้านทุกท่านด้วยว่าอย่าโกงกัน เนื่องจากมีโทษหนัก และจะซ้ำเติมความเดือดร้อนเข้าไปอีก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้