กทม.22ก.พ.-เปิดใจลูกสาวหญิงดูดไขมันเสียชีวิต หลังเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ยืนยัน แม่ร่างกายแข็งแรง ไม่เคยแพ้ยา คาใจไม่รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด
จากกรณีที่อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า น้องสาวของตน คือนางศรัณย์ภัทร์ กาญจนสุวรรณ์ อายุ 54 ปี ได้ไปดูดไขมันที่คลินิกชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหงเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาและเสียชีวิตในวันนั้น
วันนี้ นางสาวอัยมิญห์ อิทธีรนันท์ อายุ 30 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.หัวหมาก พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า แม่มีความตั้งใจที่จะดูดไขมันที่ช่วงหลังออก เพราะก่อนหน้านี้ออกกำลังกายมาตลอด แต่ไม่สามารถกำจัดไขมันที่หลังได้ ก่อนที่แม่จะตัดสินใจดูดไขมันกับคลินิกแห่งนี้ แม่ไปปรึกษาโรงพยาบาลเอกชน ชื่อดังและคลินิกอื่นๆ มาหลายที่แล้ว หลังเจอคลินิกนี้ได้มีการเข้าไปพูดคุยปรึกษากับคลินิกดังกล่าว
แม่เล่าให้ฟังว่า ทางแพทย์ของคลินิกได้ให้ข้อมูลและการันตีผลที่จะได้รับการรักษา รวมทั้งมีการโฆษณาและพยายามโน้มน้าวใจว่าสามารถทำได้สำเร็จ จนแม่เชื่อใจและตกลงค่าใช้จ่ายรวมทั้งนัดวัน ทำการดูดไขมัน วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ซึ่งในวันดังกล่าว แม่แจ้งให้ตนเดินทางไปรับกลับบ้านช่วงเวลา 14.00 น. แต่ช่วง 13.06 น. ทางคลินิกได้พยายามติดต่อผ่านไลน์ ทั้งข้อความและการโทร แต่เพราะบัญชีไลน์ยังไม่ได้เป็นเพื่อนกัน จึงทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ ทางคลินิกจึงเปลี่ยนไปติดต่อทางน้องชายว่า แม่เริ่มมีอาการผิดปกติซึ่งในเวลานั้นน้องชายได้พยายามแจ้งให้คลินิกนำแม่ไปส่งโรงพยาบาล เมื่อตนทราบจึงรีบเดินทางไปที่คลินิกดังกล่าวแล้วได้เข้าไปหาแม่ ซึ่งขณะนั้นตัวของแม่เย็นแล้ว
นางสาวอัยมิญห์ และครอบครัว ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนที่จะติดต่อหาญาติทำไมทางคลินิกไม่นำตัวคุณแม่ส่งโรงพยาบาล ทั้งที่สถานที่ตั้งของคลินิกอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลขนาดใหญ่ถึง 2 แห่ง อีกทั้งหลังจากที่เข้าไปในคลีนิกทำให้ได้เห็นว่าอุปกรณ์รวมทั้งสถานที่ดูแล้วอาจไม่ได้มาตรฐาน ด้วยตัวคลินิกเอง ตั้งอยู่ในตึกแถว อุปกรณ์เครื่องมือ ที่ใช้ทำศัลยกรรมและกู้ชีพ รวมถึงในถังขยะ ภายในห้องเจอหลอดฉีดยาที่ภายในบรรจุ น้ำสีขุ่นคล้ายยาสลบแต่ไม่ทราบใช่หรือไม่ จากการพูดคุยกันระหว่างแม่และคลินิกระบุว่าจะใช้เพียงยานอนหลับเท่านั้น
ส่วนที่หลายคนตั้งคำถามว่าแม่เสียชีวิตเพราะรับยาเกินขนาดหรือไม่ ต้องรอผลตรวจพิสูจน์จากทางเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ตนได้มีโอกาสคุยกับแพทย์เจ้าของเคสของคลินิก ซึ่งแพทย์ได้แจ้งว่าหลังจากที่เริ่มลงมือดูดไขมันได้เพียง 20 นาที แม่เริ่มมีอาการผิดปกติ ซึ่งต่อจากนั้นทางพยาบาลและหมอพยายามกู้ชีพด้วยการซีพีอาร์ แต่ไม่เป็นผล
ทั้งนี้ ก่อนแม่จะใช้บริการดูดไขมันที่คลินิกแห่งนี้ได้มีการไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลและมีการพูดคุยกับพยาบาลของคลินิกเอง ถึงความกังวลว่ายานอนหลับจะทำให้หลับได้นานขนาดไหน กลัวตายและจะฟื้นหรือไม่ซึ่งทางพยาบาลของคลีนิกได้ให้ความมั่นใจ ว่าจะต้องฟื้นอย่างแน่นอน
ทางลูกสาวยืนยันว่า แม่ของตนไม่เคยแพ้ยาแพ้อาหารใดๆ และที่ผ่านมาสุขภาพแข็งแรงมากเพราะมีการดูแลตัวเองอย่างดีและออกกำลังกายมาสม่ำเสมอ และก่อนหน้าแม่เคยผ่านการดูดไขมันมาแล้วที่อื่น ซึ่งในครั้งนั้นไม่เคยมีปัญหาหรืออาการแทรกซ้อนทั้งตอนทำและหลังทำ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตในใบแพทย์ระบุระบบหายใจ และระบบโลหิตไหลเวียนล้มเหลว
ส่วนวันนี้ที่เดินทางมาที่ สน.หัวหมากเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการสอบปากคำทางฝั่งผู้เสียหายเพิ่มเติม และต้องการที่แจ้งความร้องทุกข์ เพิ่มเติมอีกด้วยเพื่อให้มีการดำเนินคดีกับแพทย์และพยาบาลที่คลินิกแห่งนั้น
ด้าน พ.ต.อ.วิชัย ณรงค์ ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้มีการเชิญแพทย์ ผู้ช่วยแพทย์ และพยาบาลที่อยู่ในคลินิกนั้นเข้าสอบปากคำไปแล้วทั้งสิ้น 6 ปาก สำหรับคำให้การนั้นอยู่ในสำนวนทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ หลังจากนี้จะมีการเชิญฝั่งญาติของผู้ตายเข้าให้ปากคำกับทางตำรวจในภายหลัง ยืนยันจะทำสำนวนอย่างรอบคอบให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.- สำนักข่าวไทย
