ตร.เผยชุมนุม 2 วัน ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย

กรุงเทพฯ 21 ก.พ.-ตำรวจนครบาล ระบุการชุมนุมที่เกิดขึ้นทั้ง 2 วัน ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย หลังเจรจาให้ระมัดระวังเรื่องการควบคุมมวลชนและการ์ด ส่วนการชุมนุมในบ่ายวันนี้ ที่เป็นการนัดรวมตัวกันของกลุ่มคนเสื้อแดง แนวร่วมฯ และกลุ่มอาชีวะ แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทาง

พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงภาพรวมการชุมนุมทั้งวันที่ 19 และ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า การชุมนุมทั้ง 2 วัน ผ่านไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการเจรจาและรับฟังกันระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุม ซึ่งตำรวจก็แนะนำให้ควบคุมการ์ดบางกลุ่มเป็นพิเศษ เนื่องจากเหตุความรุนแรงที่ผ่านมา พบว่าเกี่ยวข้องกับการ์ดกลุ่มนี้ ส่วนการป้องกันสถานที่สำคัญทางราชการ โดยมีการใช้ตู้คอนเทนเนอร์วางขวางเส้นทางผ่าน และการเตรียมกำลังพลไว้กว่า 60 กองร้อย ก็เชื่อว่ามีส่วนช่วยให้ผู้ชุมนุมหลีกเลี่ยงการกระทำผิดกฎหมาย เช่นเดียวกับการนัดชุมนุมที่หน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ที่สุดท้ายมีการเปลี่ยนสถานที่การชุมนุมไปเป็นที่อื่นแทน


ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม ตำรวจ สน.บางโพ และ สน.สำราญราษฎร์ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาเตรียมดำเนินคดีกับผู้ที่มีพฤติการณ์ชักชวนคนไปร่วมการชุมนุม , ผู้ที่ขึ้นปราศรัย, ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการชุมนุม รวมไปถึงการ์ดที่ดูแลความเรียบร้อย ซึ่งจะพิจารณาไปตามพยานหลักฐานความผิดที่เกิดขึ้น เช่น ความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.ควบคุมโรค, พ.ร.บ.ความสะอาด และข้อหาอื่นๆ สำหรับการดำเนินคดีในเหตุการณ์ชุมนุมที่หน้าศาลฎีกาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังมีการจับกุมผู้กระทำผิดซึ่งหน้าไปแล้ว 11 คน ก็จะมีการออกหมายเรียกผู้ร่วมกระทำผิดอีกอย่างน้อย 12 คน เพื่อดำเนินคดี เช่น แกนนำ ผู้เข้าร่วมชุมนุมที่มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง รวมถึงผู้ที่ไม่ได้เป็นทั้งแกนนำและผู้ชุมนุม แต่ไปใช้ความรุนแรงในเหตุการณ์ดังกล่าว ในหลายความผิด

ส่วนเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างกลุ่มการ์ดที่มาจากกลุ่มนักเรียน-นักศึกษา 2 สถาบัน ในพื้นที่ สน.นางเลิ้ง มีการแยกดำเนินคดีออกเป็น 2 คดี โดยคดีการไล่ทำร้ายร่างกายกัน มีการจับกุมผู้กระทำผิดไปแล้ว 2 คน รายล่าสุด คือ นายรัฐชา ศรีประเสริฐ มือยิงการ์ดอาชีวะ ซึ่งตำรวจได้ควบคุมตัวไปส่งศาลฝากขังแล้วเมื่อวานนี้ ส่วนคดีการปิดล้อมหน้าสถานีตำรวจ และทำลายทรัพย์สินทางราชการ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้อง


อย่างไรก็ตามสำหรับการชุมนุมในช่วงบ่ายวันนี้ ที่มีนัดรวมตัวกันของกลุ่มคนเสื้อแดง, แนวร่วมฯ และกลุ่มอาชีวะ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เจ้าหน้าที่ได้เตรียมพร้อมการป้องกันเหตุร้าย และการกระทบกระทั่งกันของกลุ่มอาชีวะ พร้อมฝากเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการสัญจรในบริเวณดังกล่าวด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง