หาแหล่งพักพิง “บอส อยู่วิทยา” ในต่างแดน นำมาดำเนินคดี

กรุงเทพฯ 18 ก.พ. – โฆษก อสส. แจงผลสอบวินัย “เนตร นาคสุข” ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วน “บอส อยู่วิทยา” ยังล่องหน สั่งหาพิกัดแหล่งพักพิง ติดตามตัวกลับมาดำเนินคดี


นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดวินัยนายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด เกี่ยวกับการกลับคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส คดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิตว่า ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนที่มีนายประสาน หัตถกรรม กอ.ผู้ทรงคุณวุฒิ อดีตรองอัยการสูงสุด เป็นประธานสอบ อยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวน ตนไม่ทราบรายละเอียด เพราะไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการชุดดังกล่าว ส่วนเรื่องของระยะเวลาในการสอบสวนนั้นมีกรอบตามกฎหมายกำหนด ซึ่งต้องดูรายละเอียด และหากไม่แล้วเสร็จสามารถขยายเวลาได้

ส่วนคดีนายวรยุทธนั้น ในฐานะที่เป็นหัวหน้าคณะทำงานสำนวนคดีนายวรยุทธ ซึ่งมีความคืบหน้าล่าสุดอยู่ในระหว่างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดติดตามตัวนายวรยุทธกลับมาดำเนินคดี ส่วนรายละเอียดในการติดตามตัวนั้น ต้องสอบถามกับอธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรง


สำหรับข้อหาที่ยังไม่หมดอายุความในคดีนายวรยุทธขับรถชนดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจสายตรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อเช้ามืด
วันที่ 3 กันยายน 2555 มี 2 ข้อหาคือ 1.ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อายุความ 15 ปี ขาดอายุความ 3 กันยายน 2570 2.ข้อหาเสพโคเคนยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 2 อายุความ 10 ปี ขาดอายุความวันที่ 3 กันยายน 2565

สำหรับนายวรยุทธ หลังศาลอนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ตำรวจแจ้งว่ามีการประสานไปยังตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล (Interpol) เพื่อขอออกหมายแดง (Interpol Red Notice) ให้ติดตามตัวนายวรยุทธกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายภายในอายุความ ขณะที่อินเตอร์โพลแจ้งดำเนินการออกหมายแดงอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ตามขั้นตอนตำรวจต้องเป็นผู้สืบเสาะหาแหล่งที่อยู่ที่แน่ชัดของนายวรยุทธ ก่อนประสานเรื่องส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนตามหมายจับ แต่จนถึงปัจจุบันตำรวจยังไม่สามารถระบุถิ่นที่อยู่แน่ชัดในการติดตามตัวกลับมาดำเนินคดีได้

อย่างไรก็ตาม หากสามารถนำตัวกลับมาดำเนินคดีได้ก่อนวันที่ 3 กันยายน 2565 นายวรยุทธจะถูกส่งฟ้อง 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 1 มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท อีกข้อหาคือ เสพโคเคน ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ 2522 มาตรา 58 และ 91 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000-60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากได้ตัวกลับมาหลังวันที่ 3 กันยายน 2565 นายวรยุทธจะถูกฟ้องเพียงข้อหาเดียว ที่อายุความนานสุด 15 ปี คือข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่หากพ้นวันที่ 3 กันยายน 2570 ก็ถือว่าคดีสิ้นสุด เพราะขาดอายุความทุกคดี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว