กทม. 11 ก.พ.- สำนักงานศาลยุติธรรม เตือนกลุ่มโซเชียล บิดเบือนข้อเท็จจริงวิพากษ์วิจารณ์ศาลถือว่ามีความผิด ส่วนผู้ที่วิจารณ์ด้วยเหตุผล ศาลพร้อมรับฟัง
นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีการกล่าวพาดพิง และวิพากษ์วิจารณ์ถึงการพิจารณาและพิพากษาคดีผู้พิพากษาและศาลยุติธรรมว่า ในฐานะที่สำนักงานศาลยุติธรรมเป็นหน่วยงานธุรการที่สนับสนุนการอำนวยความยุติธรรมของศาลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขอเรียนว่า ศาลได้ทราบการปราศรัยและการเผยแพร่ข้อความที่พาดพิงศาลแล้วจากที่มีการเผยแพร่ตามสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ เบื้องต้นได้รวบรวมข้อเท็จจริงจากข่าวที่ปรากฏตามสื่อนั้นไว้แล้ว โดยในส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรนั้น สํานักงานศาลยุติธรรมจะได้ตรวจสอบและดำเนินการต่อไป
ในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่ต่อการอำนวยความยุติธรรมด้านคดี ขอเรียนว่าผู้พิพากษาทุกท่าน ต่างปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอิสระ ปราศจากอคติ ใช้ดุลยพินิจเพื่อออกคำสั่งหรือคำพิพากษาในคดีต่าง ๆ โดยชอบตามกรอบแห่งกฎหมาย ปราศจากการแทรกแซงทั้งภายในและภายนอกองค์กร
สำหรับขั้นตอนการขอปล่อยตัวชั่วคราวของผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาก็จะดำเนินการไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา นอกจากนั้นผู้พิพากษายังอยู่ในกรอบจริยธรรมและการดำรงตนตามประมวลจริยธรรมของผู้พิพากษา ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม การใช้ดุลยพินิจของผู้พิพากษา ในทุกเรื่องต้องมีเหตุผลตามหลักกฎหมาย ที่สามารถอธิบายให้กับคู่ความทุกฝ่ายได้ชัดเจน และการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาก็จะต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนคดีของคู่ความทุกฝ่าย
โดยเมื่อศาลมีคำสั่ง หรือคำพิพากษาแล้ว หากคู่ความไม่เห็นด้วยก็สามารถยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาได้ตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งเป็นการตรวจสอบการทำงานตามหลักสากล ดังนั้นกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวต่าง ๆ ในช่วงนี้ ขอให้ทุกฝ่ายต่างเข้าใจถึงหลักการทำงานของผู้พิพากษา ไม่ควรดึงศาลเข้าไปเกี่ยวข้อง.-สำนักข่าวไทย
ในประเด็นข้อขัดแย้งไม่ควรผลักให้ศาลไปเป็นคู่กรณีกับคู่ความเสียเอง การตั้งคำถามหรือข้อสงสัยจากการใช้อารมณ์หรือความรู้สึกโดยปราศข้อความจริง ย่อมบั่นทอนและทำลายความน่าเชื่อถือศรัทธาของศาลไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลื่อออนไลน์มักใช้ถ้อยคำที่เกินเลย ไม่เหมาะสม และหยาบคาย อันเป็นการทำลายเกียรติและศักดิ์ศรีของผู้พิพากษา หากปรากฎว่ามีกรณีที่ข้อมูลบิดเบือน คลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง และก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรหรือบุคคลใด ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่จะต้องมีส่วนรับผิดชอบในทางกฎหมาย
ผู้พิพากษาและศาลยุติธรรมยอมรับการตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตจากประชาชนและสังคม ด้วยความอดทนอดกลั้นและมีวุฒิภาวะ ผู้พิพากษาและศาลจะไม่ออกมาตอบและอธิบายโดยไม่จำเป็น เพราะเข้าใจว่าอาจทำให้มีลักษณะเป็นการตอบโต้และก่อให้เกิดข้อโต้แย้งกันจนศาลกลายเป็นคู่ความเสียเอง หากเกิดสภาพการณ์ดังกล่าวสังความย่อมวุ่นวายและปราศจากความสงบ
จึงอยากเรียนยืนยันให้ประชาชนและสังคมทั่วไปได้เข้าใจอย่างชัดแจ้งตรงกันว่า ศาลและผู้พิพากษาจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสำนึกรับผิดชอบต่อทุกคนอย่างเท่าเทียม เสมอภาค และเป็นธรรม ตลอดมาและยังคงปฏิบัติเช่นนี้ตลอดไปไม่ว่าสถานการณ์สิ่งแวดล้อมจะเปลี่ยนไปในทิศทางใดก็ตามความเป็นกลางในหลักกฎหมายยังคงมีอยู่เสมอ-สำนักข่าวไทย