กรุงเทพฯ 6 ก.พ.-ตำรวจ สน.บางเขน รวบ 2 คนร้าย ตระเวนลัก จยย. ก่อเหตุมาแล้ว 2-3 ปี พบของกลางเล่มทะเบียน 65 เล่ม กุญแจ 28 ดอก ป้ายทะเบียน 7 แผ่น
พ.ต.อ.อรรถพล มีเสียง ผกกสน.บางเขน แถลงจับกุมนายศุพงศ์สิต หรือเอิร์ท รื่นโต อายุ 27 ปี และนายจีรวัฒน์ หรือบอส บุญทวี อายุ 26 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ที่ขโมยมาจำนวน 6 คัน ประกอบด้วย ฮอนด้า คลิก 2 คัน ฮอนด้าเวฟ 1 คัน ฮอนด้าโซนิก 2 คัน ฮอนด้า ไนซ์ 1 คัน ทั้งนี้ยังพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิ๊ก สีแดง หมายเลขทะเบียน 9 กศ 9777 กรุงเทพมหานคร ถูกรื้อ ทิ้งไว้อีก 1 คัน และรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน มาร์ช สีเขียว หมายเลขทะเบียน ฆด5950 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ แผ่นป้ายทะเบียน 7 แผ่น เล่มทะเบียน 65 เล่ม กุญแจ 28 ดอก ประแจตัวทีเหล็กแทง 31 ตัว คีมล็อก 2 อัน เครื่องทำกุญแจ 1 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่บ้านพัก ซ.เทอดไท 68/1 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. เช้าวันนี้ (6 ก.พ. )
พ.ต.ท.สุนทร กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องเรียนรถจักรยานยนต์ในพื้นที่บางเขนหายอยู่บ่อยครั้ง ทางพล.ต.ต.พีระพงษ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น. รรท.ผบก.น.2 พ.ต.อ.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ รอง ผบก.น.2 จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนออกหาข่าวและตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนพบว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค. เวลาประมาณ 20.40 น. มีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีแดง หมายเลขทะเบียน 9 กศ 9777 กรุงเทพมหานคร ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 125 สีน้ำเงินแดง ทะเบียน 2 ขฐ 1892 กรุงเทพมหานคร จากลานจอดรถห้างโลตัส สาขาหลักสี่ และในวันที่ 28 ม.ค. คนร้ายกลุ่มเดิมก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ คืนเดียว 3 คัน ในพื้นที่เขตติดต่อสายไหม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายศุพงศ์สิต รื่นโต นายจีรวัฒน์ บุญทวี และนายพุฒิพงศ์ รื่นโต 33 ปี พี่ขายนายศุพงศ์สิต ( ถูกจับกุมไปและในคดียาเสพติด ท้องที่ สน.บุปผาราม) จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับจนสามารถติดตามตัวจับกุมได้ดังกล่าว
ทั้งนี้จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองราย ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันลักรถจักรยานยนต์จริง โดยทำมานาน 2-3 ปี ขายรถออกไปแล้วหลายสิบคัน โดยพวกตนจะแบ่งหน้าที่กันขับรถตระเวนหาจักรยานยนต์ที่ต้องการ ก่อนจะลงไปแทงคอรถ และติดต่อหาผู้ซื้อ ซึ่งอยู่ฝั่งธนบุรี ทั้งนี้พวกตนจะเน้นหารถฮอนด้า เวฟ สภาพใหม่ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาตามหมายจับ ก่อนคุมตัวส่งศาลอาญา ฝากขัง พร้อมสืบสวนขยายผลถึงร้านที่รับซื้อก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย