ตำรวจไซเบอร์ทลายแก๊งอุ้มบุญข้ามชาติ

กทม.5 ก.พ.- ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการเข้าทลายขบวนการอุ้มบุญข้ามชาติ 10 จุด ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล


ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง  เมืองทองธานี นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อม พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท.หรือตำรวจไซเบอร์,นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ  แถลงผลการเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นเป้าหมายขบวนการแก๊งอุ้มบุญข้ามชาติ 10 จุด ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมจับกุมนายหน้าว่าจ้างหญิงไทยตั้งครรภ์แทน 3 ราย และกลุ่มหญิงไทยที่รับจ้างอุ้มบุญ 4 ราย พร้อมของกลางอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และเอกสารอีกหลายรายการ

นายสาธิต กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่เน้นย้ำให้ป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งถือเป็นวาระทีสำคัญของรัฐบาล การรับตั้งครรภ์ หรือการอุ้มบุญ เป็นการกระทำที่เข้าองค์ประกอบ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ กล่าวคือ มีการกระทำของนายหน้าผู้เป็นธุระจัดหาหญิงที่มารับจ้างตั้งครรภ์ ด้วยวิธีการจูงใจหญิงด้วยค่าตอบแทนที่สูงกว่าการทำงานอย่างอื่นเพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ และอาจจะเข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์ จึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังกระทรวงสาธารณสุข ได้รับรายงานว่า มีเด็กทารกอายุประมาณ 4 เดือน เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ด้วยภาวะชักเกร็งและมีเลือดออกในสมอง ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเกิดจากการได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเด็กเกิดจากการอุ้มบุญ


พล.ต.ท.กรไชย กล่าวว่า จากการสอบสวนมารดาของเด็กรายนี้ ทราบว่า ได้รับจ้างให้อุ้มบุญและรอการส่งมอบเด็กให้ผู้ว่าจ้าง แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มารดาที่รับตั้งครรภ์แทนไม่สามารถเดินทางออกไปคลอดนอกประเทศได้ จึงจำเป็นต้องคลอดในสถานพยาบาลในประเทศไทยและส่งมอบทารกให้นายจ้าง    จึงสืบสวนร่วมกับหน่วยเกี่ยวข้อง และข้อมูลที่ได้จนทราบว่า สถานที่รับเลี้ยงเด็ก ชื่อว่า “GS กิ๊ก บริการศูนย์แม่บ้าน” ผ่านสื่อออนไลน์ ประกาศรับสมัครหญิงที่ต้องการหารายได้จากการรับจ้างตั้งครรภ์แทนด้วยค่าจ้างที่สูง

จากการสืบสวน พบว่า ขบวนการนี้มีนายหน้าชาวต่างชาติว่าจ้างมารดาผู้รับตั้งครรภ์แทนเป็นเงินกว่า 5 แสนบาท ทำมานานหลายปี และจะออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้แม่อุ้มบุญทั้งหมด ซึ่งจะต้องไปฝังตัวอ่อนทารกที่ประเทศกัมพูชา ก่อนกลับมาพักในประเทศไทย จนถึงกำหนดคลอดทารก ค่อยเดินทางไปยังประเทศที่สามเพื่อคลอดทารกยังสถานพยาบาลแล้วส่งมอบทารกให้ อีกทั้งมีกลุ่มหญิงไทยที่ได้รับจ้างตั้งครรภ์แทนและเดินออกนอกประเทศเพื่อฝังตัวอ่อนในลักษณะเดียวกันอีกเป็นจำนวนมาก

จากการตรวจสอบพบว่าสถานรับเลี้ยงเด็กดังกล่าวเปิดเป็นบริษัททำความสะอาดบังหน้า ใช้ชื่อหญิงชาวจีน โดยเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือเหยื่อแบ่งเป็นเป็นเด็กได้ 2 ราย อายุประมาณ 6 เดือน และอายุประมาณ 8 เดือน และผู้ดูแลเหยื่อชาวฟิลิปปินส์ 2 ราย เบื้องต้นจากการตรวจDNA ในเด็กพบว่าของพ่อเด็กเป็นคนสัญชาติจีน จากการตรวจสอบบัญชีเงินฝากพบว่าเคลื่อนไหวตั้งแต่ปี 2557 และมีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าร้อยล้านบาท  หลังจากนี้ตำรวจจะสืบสวนขยายผลเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง พร้อมสอบสวนหญิงจากสถานพยาบาลที่พบอีก 3 รายที่รับว่าเป็นแม่อุ้มบุญ แต่ยังไม่พบตัวเด็ก


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาผู้กระทำผิดตาม ม.24 พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558 ฐาน “ดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า ม.27 “กระทำการเป็นคนกลางหรือนายหน้าโดยเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดเพื่อเป็นการตอบแทนในการจัดการหรือชี้ช่องให้มีการตั้งครรภ์แทน” และความผิดตาม พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556

นายแพทย์ธเรศ กล่าวว่า เหตุที่การอุ้มบุญผิดกฎหมายเป็นที่นิยมในไทย เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมในด้านเครื่องมือและบุคลากร ทำให้มีนายหน้าและผู้สนใจมีบุตร เห็นช่องทางในการอุ้มบุญในไทย ซึ่งไทยมีคลีนิกอุ้มบุญถูกกฎหมาย 102 แห่งทั่วประเทศ ทั้งรัฐและเอกชน และมีบุคคล 400 คู่ที่สามารถอุ้มบุญได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งหลักสำคัญคือ สามีและภรรยาที่รับลูกอุ้มบุญต้องเป็นคนไทย หากคนใดคนหนึ่งไม่ใช่คนไทย ต้องแต่งงานอยู่กินกันไม่ต่ำกว่า 3 ปี ฝ่ายหญิงและชายต้องมีอายุไม่เกินกำหนด และอุ้มบุญในสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรอง หากพบสถานพยาบาลใดเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะมีการลงโทษตามกฎหมายร้ายแรงสุดก็ถึงขั้นเพิกถอนใบประกอบการ หากมีแพทย์ทำผิด ก็ต้องเอาผิดทั้งทางวิชาชีพและกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยา

คนไข้เผยรับยาส่งต่อให้นายหน้า ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท

มีคนไข้ รพ.ทหารผ่านศึก เพียง 50 คน จากกว่า 100 คน ตอบรับเข้าให้ข้อมูลตำรวจ คดีขบวนการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ ขณะที่หนึ่งในคนไข้ เผยเข้ารักษาเพื่อยาส่งต่อให้นายหน้ารับซื้อยา ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท

จับครบ 10 คนแล้ว แก๊งยิงนักศึกษาอุเทนถวายบาดเจ็บ

จับครบตามหมายจับ 10 คน แก๊งยิงนักศึกษาอุเทนถวายบาดเจ็บก่อนวันบลูเดย์ ทั้งหมดยังปากแข็งให้การภาคเสธ ตำรวจพบพฤติการณ์วางแผนครึ่งเดือน ถอดเสื้อมือยิง มีรอยแผลเป็นฟันเฟือง 4 อัน

จับแล้ว! มือยิง นศ.อุเทนก่อนวันบลูเดย์ พบทำเป็นขบวนการ

จับแล้ว! กลุ่มมือยิง นศ.อุเทนฯ ก่อนวันบลูเดย์ พบพฤติการณ์ทำงานเป็นทีม มีคนชี้เป้าให้ยิง มีคนพาแยกย้ายหลบหนี เร่งล่าอีก 1 คาดได้ตัวเร็วๆนี้

ข่าวแนะนำ

คนไทยเจ็บ 4 เหตุเครื่องบินรบเกาหลีใต้ทิ้งระเบิดพลาดขณะซ้อมรบ

โฆษก กต. เผยเหตุเครื่องบินรบเกาหลีใต้ทิ้งระเบิดพลาดในการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้-สหรัฐ มีคนไทยได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เตรียมเข้าผ่าตัด 1 คน พรุ่งนี้ (7 มี.ค.68) ส่วนอีก 3 คน บาดเจ็บเล็กน้อย

ล่าคนร้ายขว้างไปป์บอมบ์ถล่มป้อมรถไฟยะลา เจ็บ 6

คนร้ายป่วน จ.ยะลา 2 รอบ ขว้างไปป์บอมบ์ ชาวบ้านเจ็บระนาว ก่อนวางระเบิดซ้ำหน้าวัดขณะจัดงานบวช ผู้การยะลา สั่งยกระดับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่ขั้นสูงสุด ไล่ล่าคนร้าย

คุมตัว 2 แม่ลูก ทำแผนฆ่าสามีใหม่ ลูกชายรับแค้นพ่อเลี้ยงทำร้ายแม่

ตำรวจคุมตัวสองแม่ลูกทำแผนฆ่าสามีใหม่ สารภาพรัดคอปลิดชีพ ก่อนนำศพไปทิ้งอำพราง ส่วนแรงจูงใจก่อเหตุ ลูกชายยอมรับแค้นพ่อเลี้ยงทำร้ายแม่

ยกหูคุยนายกฯ มาเลเซีย ร่วมแก้น้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก

นายกฯ ยกหูจากเยอรมนีคุย “นายกฯ มาเลเซีย” เตรียมความพร้อมร่วมมือแก้ปัญหาน้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก ผลักดันโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่-ด่านบูกิตกายูฮิตัม คาดเสร็จภายใน ต.ค.นี้