รู้จัก “เสี่ยโป้” ผู้ต้องหาคดีพนันออนไลน์-ฟอกเงิน

กรุงเทพฯ 4 ก.พ. – เปิดประวัติ “เสี่ยโป้” ผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์และฟอกเงิน หลังถูกชุดหนุมานกองปราบฯ บุกจู่โจมจับกุมพร้อมพวกอีก 11 คน ในบ้านพักย่านเพชรเกษม วันนี้


“เสี่ยโป้” มีชื่อจริงว่า อภิรักษ์ ชัชอานนท์ เริ่มเป็นที่พูดถึงบนโลกโซเชียล จากช่วงที่เกิดคดีสะเทือนขวัญ “เปรี้ยวฆ่าหั่นศพ” เนื่องจากเขาออกมาเปิดเผยแชทข้อความว่า เคยคุยกับคนร้ายที่ตำรวจกำลังตามหาตัว แต่ก่อนหน้าคดีนั้น เขาก็โด่งดังและเป็นเน็ตไอดอลมาก่อน เพราะบนโลกโซเชียลมีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคนเลยทีเดียว ชื่อของเขาเป็นที่พูดถึงมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเป็นเรื่องชักชวนคนเล่นพนันออนไลน์ การใช้ชีวิตที่โลดโผนมากมาย และถูกตั้งข้อสังเกตมาตลอดว่า ทำไมอายุน้อย แต่มีเงินจำนวนมากมาย “เสี่ยโป้” เคยบอกว่า ตัวเขานั้นทำธุรกิจต่างประเทศ รวมถึงถือหุ้นเปิดกาสิโนอยู่ ธุรกิจที่อาจดูผิดกฎหมายในไทย แต่เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายในต่างประเทศ และยังมีธุรกิจอาหารเสริมสำหรับผู้ชาย ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำเงินมากอีกด้วย

“เสี่ยโป้” มักแสดงตัวว่ามีเงินทองมากมาย และถูกมองว่าเป็นแบดบอย แต่เขาก็บอกเสมอว่า ชอบบริจาคเงินให้ผู้ยากไร้ ซึ่งเขามองว่าเป็นการทำบุญและตอบแทนสังคมทางหนึ่งด้วย


“เสี่ยโป้” ชื่อจริงว่า นายอภิรักษ์ ชัชชานนท์ เกิดวันที่ 6 พฤษภาคม 2535 ฐานะทางบ้านถือว่า “ดีมาก” พ่อแม่เป็นเจ้าของโรงงานผลิตเสื้อรายใหญ่ ส่งขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ สมบัติของครอบครัวแต่เดิมมีอยู่แล้วในระดับร้อยล้านบาท โดยครอบครัวนี้มีลูกชาย 3 คน “เสี่ยโป้” เป็นคนกลาง

“เสี่ยโป้” เริ่มตั้งแก๊งเล็กๆ ของตัวเองอยู่ในย่านเพชรเกษม ด้วยความที่มีฐานะดี ทำให้มีเด็กวัยรุ่นมารวมตัวกันเป็นลูกน้องของเขาจำนวนมาก และมีเรื่องทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง เขาเคยบอกว่า มีลูกน้องประมาณ 40-50 คน โดย “เสี่ยโป้” ตั้งตัวเป็นผู้คุ้มครอง

อายุ 18 ปี “เสี่ยโป้” เปิดบ่อนพนันของตัวเองเป็นครั้งแรก ขณะที่ตัวเขาเองก็ติดการพนันอย่างหนัก หอบเอาเงินที่ได้จากบ่อนตัวเองไปเล่นที่บ่อนอื่น จนมีหนี้สินจำนวนมาก เมื่อเงินขาดมือ จึงเริ่มเข้าสู่วงการยาเสพติด


“ผมเคยยุ่งกับยาเสพติดพักหนึ่ง คนเป็นหัวหน้าก็ต้องมีเงินเลี้ยงลูกน้อง ก็เลยต้องขายยา หาเงิน การมียาเสพติด ทำให้ลูกน้องอยู่กับเรา เราก็เอายาให้เขาทั้งเสพและขาย”

คลุกคลีอยู่ในธุรกิจสีเทาอย่างต่อเนื่อง สร้างชื่อในวงการนักเลงอยู่แถวฝั่งธนฯ แต่สาเหตุที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นในประเทศ คือ การทะเลาะกับนักเลงคนอื่น ซึ่งได้แก่ “แอล โอรส” กับ “เน วัดดาว”

“เสี่ยโป้” กลายเป็นไอดอลของกลุ่มเด็กๆ ที่อยากเป็นนักเลง ครั้งหนึ่งเขานำเงิน 1 ล้านบาท นำแบงก์พันมาวางเรียงกันแล้วถ่ายรูป

เมื่อเริ่มมีชื่อเสียงในวงกว้าง “เสี่ยโป้” ยืนยันว่า เขาเลิกขายยาเสพติดแล้ว แต่ยังอยู่ในวงการพนัน โดยเฉพาะพนันออนไลน์ นอกจากนั้นก็ขายของออนไลน์ไปด้วย ทำรายได้ไปพร้อมกัน ของที่ “เสี่ยโป้” ขาย เช่น ครีมยี่ห้อไฮโดรเซลล์ อาหารเสริมยี่ห้อ OMG สำหรับใช้เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย

ความนิยมของ “เสี่ยโป้” เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนในเฟซบุ๊กมีผู้ติดตามระดับหลักล้าน นั่นทำให้ยอดขายสินค้าของเขา ทั้งครีมทาหน้า และอาหารเสริม ขายดีตามไปด้วย นอกจากนั้นเขายังรับรายได้อีกหลายทาง ทั้งจากโต๊ะพนันบอล โดยเคยเป็นคนให้ทีเด็ดฟันธงบอลแต่ละคู่มาแล้ว รวมถึงเขายังไปเปิดบ่อนพนันในต่างประเทศ แล้วเชิญชวนคนไทยให้ไปเล่นในบ่อนของเขาทางออนไลน์

“เสี่ยโป้” เคยบอกว่า มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 40-50 ล้านบาท โดยครั้งหนึ่งมีลูกเพจไปแซว “เสี่ยโป้” ในเฟซบุ๊กว่า เป็นเศรษฐีกำมะลอ ทำให้ “เสี่ยโป้” โมโห หยิบเงินหลายล้านมากองบนโต๊ะ แล้วพูดว่า “เงินกูนี่ถมบ้านมึงได้เลย เงินกูทับพ่อมึงตายได้เลย”

จุดที่ทำให้ “เสี่ยโป้” เป็นที่ชื่นชอบของคนกลุ่มหนึ่ง เพราะความรวยของเขานั่นเอง “เสี่ยโป้” จะมีกิจกรรมแจกเงินจริงในโลกออนไลน์อยู่เสมอ อยู่ๆ ก็แจกเงิน 500 หรือ 1,000 บาท ให้กับคนที่มาฟังไลฟ์สด ซึ่งทำให้เวลาที่เขาไลฟ์เมื่อไหร่ จะมีคนมาดูไลฟ์พร้อมกันระดับหลักหมื่น

ดราม่าที่ทำให้ “เสี่ยโป้” เป็นที่รู้จักในระดับประเทศ มีอยู่ 3 เรื่อง

เรื่องแรกคือ คดีเปรี้ยวหั่นศพ โดย “เสี่ยโป้” กับ “เปรี้ยว” นั้นแอบกิ๊กกันในช่วงสั้นๆ ประมาณ 1 เดือน โดยทั้งคู่ส่งภาพโป๊แลกกันไปมา จนถึงวันที่ “เปรี้ยว” ทำการฆาตกรรม ณ วันนั้นยังแชทคุยกับ “เสี่ยโป้” อยู่เลย แต่จากการสืบสวนของตำรวจพบว่า “เสี่ยโป้” ไม่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม แค่แชทกับผู้ต้องหาเฉยๆ

เรื่องที่ 2 คือ ดราม่ากับ “กานต์ วิภากร” ภรรยาของ “เสก โลโซ” โดยในช่วงหนึ่งที่กานต์กับเสกเลิกกัน ได้ไปคบหากับเสี่ยโป้ โดยทางฝั่งกานต์ อายุมากกว่าเสี่ยโป้ถึง 19 ปี เสี่ยโป้ขอกู้เงินกานต์ 50 ล้านบาท เพื่อเอาไปเล่นพนัน โดยบอกกานต์ว่า ถ้าได้กำไรจะเอามาแบ่งให้กานต์ แต่ปรากฏว่า เงินก้อน 50 ล้านบาท เสี่ยโป้เล่นเสียทั้งหมด และขอไกล่เกลี่ยหนี้ แต่สุดท้ายกานต์ไม่ยอม แถมยังด่าเสี่ยโป้ว่าเล่นเสียแบบจัดฉากไว้แล้ว และส่งฟ้องศาลให้เสี่ยโป้ใช้หนี้ พร้อมดอกเบี้ยอีก 10 ล้านบาท รวมเป็น 60 ล้านบาท พร้อมออกสื่อประจานเสี่ยโป้ทุกรูปแบบ

และเรื่องที่ 3 คือ วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 “คณะก้าวหน้า” จัดกิจกรรมคอนเสิร์ตระดมทุน ในชื่องาน #MAYDAYMAYDAY เพื่อหาเงินช่วยเหลือประชาชนที่ลำบากจากโควิด-19 ปรากฏว่า มีแฟนคลับจำนวนมากแชทไปหา “เสี่ยโป้” ว่าให้ร่วมบริจาคด้วย ซึ่ง “เสี่ยโป้” ด้วยความรำคาญจึงบริจาคไปแบบประชด ด้วยจำนวนเงิน 1 บาท

“เสี่ยโป้” ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของเครือข่าย โดยร่วมกับพวก 31 คน ซึ่งมีพฤติการณ์ร่วมกันประกาศ โฆษณา ชักชวน และร่วมกันจัดให้บุคคลทั่วไปเข้าเล่นการพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ www.lagalaxy1.com, www.Gpbvegas.com, www.lagalaxy88.com, www.lagalaxy911.com, www.lagalaxy6.com และ www.lagalaxy168.com โดย “เสี่ยโป้” จะทำหน้าที่ในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ชักชวน ให้คำแนะนำ ผ่านบัญชีเฟซบุ๊กของตนเอง บัญชีเฟซบุ๊กของภรรยา และบัญชีเฟซบุ๊กของเว็บไซต์พนันออนไลน์อื่นๆ โดยมีพฤติกรรมชี้นำให้ประชาชนเข้าไปเล่นการพนันผ่านเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่ “เสี่ยโป้” เป็นผู้เกี่ยวข้อง หรือเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย

จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า กลุ่มของผู้ต้องหาได้สมคบคิดกันในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบัญชีธนาคารที่เปิดรองรับไว้จำนวนหลายบัญชี ในลักษณะเป็นบัญชี “รับแทง” / บัญชี “รับจ่าย” / บัญชี “แถว 2” และ บัญชี “พัก” เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของเงินที่ได้จากการกระทำความผิด นอกจากนี้ ทางกลุ่มผู้ต้องหายังได้นำเงินจากการกระทำความผิดไปดำเนินการในกิจการอื่นๆ เพื่ออำพรางลักษณะที่แท้จริงของการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดร่วมกันฟอกเงินอีกด้วย

สำหรับบทสรุปของ “เสี่ยโป้ อานนท์” ปัจจุบันอายุ 28 ปี เขายังคงอยู่ในแวดวงของการพนันออนไลน์ และประกอบธุรกิจส่วนตัว ขายเครื่องสำอางนำเข้าจากเกาหลีเช่นเดิม ขณะที่ยอดผู้ติดตามในเฟซบุ๊ก เพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.6 ล้านคนแล้ว กระทั่งตำรวจบุกจับในวันนี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]