รู้จัก “เสี่ยโป้” ผู้ต้องหาคดีพนันออนไลน์-ฟอกเงิน

กรุงเทพฯ 4 ก.พ. – เปิดประวัติ “เสี่ยโป้” ผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์และฟอกเงิน หลังถูกชุดหนุมานกองปราบฯ บุกจู่โจมจับกุมพร้อมพวกอีก 11 คน ในบ้านพักย่านเพชรเกษม วันนี้


“เสี่ยโป้” มีชื่อจริงว่า อภิรักษ์ ชัชอานนท์ เริ่มเป็นที่พูดถึงบนโลกโซเชียล จากช่วงที่เกิดคดีสะเทือนขวัญ “เปรี้ยวฆ่าหั่นศพ” เนื่องจากเขาออกมาเปิดเผยแชทข้อความว่า เคยคุยกับคนร้ายที่ตำรวจกำลังตามหาตัว แต่ก่อนหน้าคดีนั้น เขาก็โด่งดังและเป็นเน็ตไอดอลมาก่อน เพราะบนโลกโซเชียลมีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคนเลยทีเดียว ชื่อของเขาเป็นที่พูดถึงมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเป็นเรื่องชักชวนคนเล่นพนันออนไลน์ การใช้ชีวิตที่โลดโผนมากมาย และถูกตั้งข้อสังเกตมาตลอดว่า ทำไมอายุน้อย แต่มีเงินจำนวนมากมาย “เสี่ยโป้” เคยบอกว่า ตัวเขานั้นทำธุรกิจต่างประเทศ รวมถึงถือหุ้นเปิดกาสิโนอยู่ ธุรกิจที่อาจดูผิดกฎหมายในไทย แต่เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายในต่างประเทศ และยังมีธุรกิจอาหารเสริมสำหรับผู้ชาย ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำเงินมากอีกด้วย

“เสี่ยโป้” มักแสดงตัวว่ามีเงินทองมากมาย และถูกมองว่าเป็นแบดบอย แต่เขาก็บอกเสมอว่า ชอบบริจาคเงินให้ผู้ยากไร้ ซึ่งเขามองว่าเป็นการทำบุญและตอบแทนสังคมทางหนึ่งด้วย


“เสี่ยโป้” ชื่อจริงว่า นายอภิรักษ์ ชัชชานนท์ เกิดวันที่ 6 พฤษภาคม 2535 ฐานะทางบ้านถือว่า “ดีมาก” พ่อแม่เป็นเจ้าของโรงงานผลิตเสื้อรายใหญ่ ส่งขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ สมบัติของครอบครัวแต่เดิมมีอยู่แล้วในระดับร้อยล้านบาท โดยครอบครัวนี้มีลูกชาย 3 คน “เสี่ยโป้” เป็นคนกลาง

“เสี่ยโป้” เริ่มตั้งแก๊งเล็กๆ ของตัวเองอยู่ในย่านเพชรเกษม ด้วยความที่มีฐานะดี ทำให้มีเด็กวัยรุ่นมารวมตัวกันเป็นลูกน้องของเขาจำนวนมาก และมีเรื่องทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง เขาเคยบอกว่า มีลูกน้องประมาณ 40-50 คน โดย “เสี่ยโป้” ตั้งตัวเป็นผู้คุ้มครอง

อายุ 18 ปี “เสี่ยโป้” เปิดบ่อนพนันของตัวเองเป็นครั้งแรก ขณะที่ตัวเขาเองก็ติดการพนันอย่างหนัก หอบเอาเงินที่ได้จากบ่อนตัวเองไปเล่นที่บ่อนอื่น จนมีหนี้สินจำนวนมาก เมื่อเงินขาดมือ จึงเริ่มเข้าสู่วงการยาเสพติด


“ผมเคยยุ่งกับยาเสพติดพักหนึ่ง คนเป็นหัวหน้าก็ต้องมีเงินเลี้ยงลูกน้อง ก็เลยต้องขายยา หาเงิน การมียาเสพติด ทำให้ลูกน้องอยู่กับเรา เราก็เอายาให้เขาทั้งเสพและขาย”

คลุกคลีอยู่ในธุรกิจสีเทาอย่างต่อเนื่อง สร้างชื่อในวงการนักเลงอยู่แถวฝั่งธนฯ แต่สาเหตุที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นในประเทศ คือ การทะเลาะกับนักเลงคนอื่น ซึ่งได้แก่ “แอล โอรส” กับ “เน วัดดาว”

“เสี่ยโป้” กลายเป็นไอดอลของกลุ่มเด็กๆ ที่อยากเป็นนักเลง ครั้งหนึ่งเขานำเงิน 1 ล้านบาท นำแบงก์พันมาวางเรียงกันแล้วถ่ายรูป

เมื่อเริ่มมีชื่อเสียงในวงกว้าง “เสี่ยโป้” ยืนยันว่า เขาเลิกขายยาเสพติดแล้ว แต่ยังอยู่ในวงการพนัน โดยเฉพาะพนันออนไลน์ นอกจากนั้นก็ขายของออนไลน์ไปด้วย ทำรายได้ไปพร้อมกัน ของที่ “เสี่ยโป้” ขาย เช่น ครีมยี่ห้อไฮโดรเซลล์ อาหารเสริมยี่ห้อ OMG สำหรับใช้เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย

ความนิยมของ “เสี่ยโป้” เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนในเฟซบุ๊กมีผู้ติดตามระดับหลักล้าน นั่นทำให้ยอดขายสินค้าของเขา ทั้งครีมทาหน้า และอาหารเสริม ขายดีตามไปด้วย นอกจากนั้นเขายังรับรายได้อีกหลายทาง ทั้งจากโต๊ะพนันบอล โดยเคยเป็นคนให้ทีเด็ดฟันธงบอลแต่ละคู่มาแล้ว รวมถึงเขายังไปเปิดบ่อนพนันในต่างประเทศ แล้วเชิญชวนคนไทยให้ไปเล่นในบ่อนของเขาทางออนไลน์

“เสี่ยโป้” เคยบอกว่า มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 40-50 ล้านบาท โดยครั้งหนึ่งมีลูกเพจไปแซว “เสี่ยโป้” ในเฟซบุ๊กว่า เป็นเศรษฐีกำมะลอ ทำให้ “เสี่ยโป้” โมโห หยิบเงินหลายล้านมากองบนโต๊ะ แล้วพูดว่า “เงินกูนี่ถมบ้านมึงได้เลย เงินกูทับพ่อมึงตายได้เลย”

จุดที่ทำให้ “เสี่ยโป้” เป็นที่ชื่นชอบของคนกลุ่มหนึ่ง เพราะความรวยของเขานั่นเอง “เสี่ยโป้” จะมีกิจกรรมแจกเงินจริงในโลกออนไลน์อยู่เสมอ อยู่ๆ ก็แจกเงิน 500 หรือ 1,000 บาท ให้กับคนที่มาฟังไลฟ์สด ซึ่งทำให้เวลาที่เขาไลฟ์เมื่อไหร่ จะมีคนมาดูไลฟ์พร้อมกันระดับหลักหมื่น

ดราม่าที่ทำให้ “เสี่ยโป้” เป็นที่รู้จักในระดับประเทศ มีอยู่ 3 เรื่อง

เรื่องแรกคือ คดีเปรี้ยวหั่นศพ โดย “เสี่ยโป้” กับ “เปรี้ยว” นั้นแอบกิ๊กกันในช่วงสั้นๆ ประมาณ 1 เดือน โดยทั้งคู่ส่งภาพโป๊แลกกันไปมา จนถึงวันที่ “เปรี้ยว” ทำการฆาตกรรม ณ วันนั้นยังแชทคุยกับ “เสี่ยโป้” อยู่เลย แต่จากการสืบสวนของตำรวจพบว่า “เสี่ยโป้” ไม่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม แค่แชทกับผู้ต้องหาเฉยๆ

เรื่องที่ 2 คือ ดราม่ากับ “กานต์ วิภากร” ภรรยาของ “เสก โลโซ” โดยในช่วงหนึ่งที่กานต์กับเสกเลิกกัน ได้ไปคบหากับเสี่ยโป้ โดยทางฝั่งกานต์ อายุมากกว่าเสี่ยโป้ถึง 19 ปี เสี่ยโป้ขอกู้เงินกานต์ 50 ล้านบาท เพื่อเอาไปเล่นพนัน โดยบอกกานต์ว่า ถ้าได้กำไรจะเอามาแบ่งให้กานต์ แต่ปรากฏว่า เงินก้อน 50 ล้านบาท เสี่ยโป้เล่นเสียทั้งหมด และขอไกล่เกลี่ยหนี้ แต่สุดท้ายกานต์ไม่ยอม แถมยังด่าเสี่ยโป้ว่าเล่นเสียแบบจัดฉากไว้แล้ว และส่งฟ้องศาลให้เสี่ยโป้ใช้หนี้ พร้อมดอกเบี้ยอีก 10 ล้านบาท รวมเป็น 60 ล้านบาท พร้อมออกสื่อประจานเสี่ยโป้ทุกรูปแบบ

และเรื่องที่ 3 คือ วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 “คณะก้าวหน้า” จัดกิจกรรมคอนเสิร์ตระดมทุน ในชื่องาน #MAYDAYMAYDAY เพื่อหาเงินช่วยเหลือประชาชนที่ลำบากจากโควิด-19 ปรากฏว่า มีแฟนคลับจำนวนมากแชทไปหา “เสี่ยโป้” ว่าให้ร่วมบริจาคด้วย ซึ่ง “เสี่ยโป้” ด้วยความรำคาญจึงบริจาคไปแบบประชด ด้วยจำนวนเงิน 1 บาท

“เสี่ยโป้” ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของเครือข่าย โดยร่วมกับพวก 31 คน ซึ่งมีพฤติการณ์ร่วมกันประกาศ โฆษณา ชักชวน และร่วมกันจัดให้บุคคลทั่วไปเข้าเล่นการพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ www.lagalaxy1.com, www.Gpbvegas.com, www.lagalaxy88.com, www.lagalaxy911.com, www.lagalaxy6.com และ www.lagalaxy168.com โดย “เสี่ยโป้” จะทำหน้าที่ในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ชักชวน ให้คำแนะนำ ผ่านบัญชีเฟซบุ๊กของตนเอง บัญชีเฟซบุ๊กของภรรยา และบัญชีเฟซบุ๊กของเว็บไซต์พนันออนไลน์อื่นๆ โดยมีพฤติกรรมชี้นำให้ประชาชนเข้าไปเล่นการพนันผ่านเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่ “เสี่ยโป้” เป็นผู้เกี่ยวข้อง หรือเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย

จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า กลุ่มของผู้ต้องหาได้สมคบคิดกันในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบัญชีธนาคารที่เปิดรองรับไว้จำนวนหลายบัญชี ในลักษณะเป็นบัญชี “รับแทง” / บัญชี “รับจ่าย” / บัญชี “แถว 2” และ บัญชี “พัก” เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของเงินที่ได้จากการกระทำความผิด นอกจากนี้ ทางกลุ่มผู้ต้องหายังได้นำเงินจากการกระทำความผิดไปดำเนินการในกิจการอื่นๆ เพื่ออำพรางลักษณะที่แท้จริงของการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดร่วมกันฟอกเงินอีกด้วย

สำหรับบทสรุปของ “เสี่ยโป้ อานนท์” ปัจจุบันอายุ 28 ปี เขายังคงอยู่ในแวดวงของการพนันออนไลน์ และประกอบธุรกิจส่วนตัว ขายเครื่องสำอางนำเข้าจากเกาหลีเช่นเดิม ขณะที่ยอดผู้ติดตามในเฟซบุ๊ก เพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.6 ล้านคนแล้ว กระทั่งตำรวจบุกจับในวันนี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี