แจ้งเอาผิด “ลุงพล” สร้างพญานาครุกป่าสงวน

22 ม.ค.- “อัจฉริยะ” แจ้งความตำรวจป่าไม้ตรวจสอบดำเนินคดี “ลุงพล” หลังต้องสงสัยว่ากระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ รุกป่าสงวนสร้างสิ่งปลูกสร้างผิดวัตถุประสงค์กฎหมาย ขณะที่ตำรวจคาดไม่เกิน 1 เดือน จะสรุปผลดำเนินคดีหรือไม่


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางไปที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. เพื่อแจ้งความดำเนินคดี นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ในความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ มาตรา 14 ฐานห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมนำเอกสารแผนที่ Google Map ระบุพิกัดจุดเกิดเหตุภายในบ้านกกกอก จ.มุกดาหาร ไปประกอบเป็นหลักฐาน  โดยมี พันตำรวจเอกกฤษณะ สุขสมบูรณ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. เป็นตัวแทนรับเรื่องแจ้งความดำเนินคดี  

นายอัจฉริยะ ระบุ เนื่องจากพื้นที่บ้านกกกอก อยู่ในพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งเดิมอนุญาตให้ผู้อยู่อาศัยก่อนปี 2541 สามารถอยู่อาศัยต่อไปได้ และสามารถทำกินได้เฉพาะที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น  ผู้อยู่อาศัยจะไม่มีเอกสารครอบครองสิทธิในที่ดิน แต่จากข้อมูลทราบว่า ลุงพล ญาติของน้องชมพู่ ต้องสงสัยว่าได้ซื้อที่ดินดังกล่าวต่อจากผู้อยู่อาศัยเดิม เข้าไปปลูกสร้างที่อยู่อาศัยในปี 2547 และปลูกสร้างศาลพญานาคเพื่อให้ประชาชนกราบไหว้บูชา ซึ่งเป็นการกระทำผิดวัตถุประสงค์ตามกฎหมายชัดเจน  อีกทั้งตนเห็นว่าการก่อสร้างศาลดังกล่าวมีการพิสูจน์แล้วว่าไม้ที่เคยนำไปให้ประชาชนกราบไหว้บูชานั้น แท้จริงแล้วเป็นไม้มะค่าแต้ ไม่ใช่ไม้ตะเคียนตามกล่าวอ้าง และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ได้ตรวจยึดไปเป็นของกลางได้แล้ว กลับหาไม้ซุงมาวางแทนที่และอ้างว่าเป็นที่สถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เห็นชัดเจนว่าเป็นการเจตนาสร้างความงมงายให้ประชาชน จึงตัดสินใจรวบรวมพยานหลักฐานมาแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว


ในเรื่องการก่อสร้างต่างๆ เชื่อว่า ลุงพลคนเดียวคงคิดไม่ได้ต้องมีคนคอยให้คำเเนะนำ อย่างเช่นเรื่องเหล็กไหลที่มีจอมขมังเวทย์คนหนึ่งนำมาให้ลุงพล ก็เชื่อว่าเป็นของปลอม โดยขอท้าให้นำมาให้กรมทรัพยากรธรณีวิทยาตรวจสอบ ว่าเป็นเหล็กไหลจริงหรือไม่ หรือเป็นเเค่เเร่เหล็กธรรมดา หรือให้เจ้าของเหล็กไหลยืนถือเเร่ที่อ้างว่าเป็นเหล็กไหล เเล้วลองยิง หากยิงไม่เข้าผมยินดีจ่าย 3 เเสนบาท เเต่ถ้าหากตายผมไม่รับผิดชอบ

ด้านพันตำรวจเอกกฤษณะ เปิดเผยว่า ตำรวจมีข้อมูลพื้นที่ป่าสงวนอยู่แล้ว และจากหลักฐานที่นำมาแสดงก็สอดคล้องกับข้อมูลที่ต้องสงสัยว่าอาจมีการกระทำผิดกฎหมายจริง  หลังจากนี้จะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้มาเพื่อสอบสวนปากคำเพิ่มเติม ก่อนพิจารณาว่าผู้ต้องสงสัยเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายหรือไม่  คาดใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน สรุปผลดำเนินคดี หากพบว่าเข้าข่ายกระทำผิดจริง จะออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

นอกจากนี้นายอัจฉริยะ ยังกล่าวถึงกรณีลุงพลจ้างนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เป็นทนายความนั้นก็เป็นสิทธิ์ มองว่าเรื่องนี้ไม่มีราคากับตน หากคนเราไม่ผิดจะไปจ้างทนายล่วงหน้าทำไม เชื่อว่าจ้างในราคาหลักล้าน เพราะเป็นทนายระดับซุปเปอร์สตาร์ สำหรับกรณีทนายตั้มระบุว่าเครื่องจับเท็จมีความคลาดเคลื่อนเยอะ ไม่ใช่ตัวเลือกดีในการใช้เป็นหลักฐานชั้นศาลนั้น  ตนมองว่าเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของการทำคดี ไม่ใช่สาระสำคัญ แต่มีผลทางจิตวิทยาเท่านั้น เชื่อว่าตำรวจมีหลักฐานอื่นอยู่แล้ว. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

พ่อขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิตจากตึก สตง.ถล่ม

พ่อของหนุ่มขอนแก่น วัย 35 ปี หนึ่งในผู้สูญหายจากอาคาร สตง.ถล่ม ขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิต ส่วนหนุ่มช่างประปา วัย 32 ปี เหยื่อตึก สตง.ถล่ม เผาแล้ว แม่ยังทำใจไม่ได้ สะอื้นไห้หน้าเมรุ

“ชัชชาติ” เผยเตรียมกู้ 5 ร่างที่พบ-ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเตรียมกู้ 5 ร่าง จาก 14 ร่างที่พบ ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน ยันไม่ขีดเส้นตายหยุดช่วยเหลือ ปรับแผนเพิ่มการรื้อถอนด้วยเครื่องจักรหนักควบคู่ไปมากขึ้น