กทม.-14 ม.ค.- ญาติรับศพชาย-หญิง เสียชีวิตในห้องพักจากเสพยาเกินขนาดในพื้นที่ สน.โชคชัย แม่เผยลูกเคยติดยา พาไปรักษาจนหาย ไม่คิดว่ากลับมาเสพอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ วันนี้ (14 ม.ค.) นางคลองทรัพย์ โพธิ์แก้ว มารดา พร้อมด้วย น.ส.อิสรีย์ หรือเกด โพธิ์แก้ว พี่สาวและญาติ เดินทางมารับศพ น.ส.ปรีดาภรณ์ หรือกุ้ง โพธิ์แก้ว ส่วน น.ส.พวงเพ็ญ สิงหะ น้าสาวของนายพารวย หรือไอซ์ ฉวีวรรณ ก็มารับศพหลานชายด้วยเช่นกัน ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด
น.ส.อิสรีย์ กล่าวว่า ตนพร้อมครอบครัวรวมถึงบุตรสาววัย 11 ขวบ และบุตรชายวัย 7 ขวบ ของ น.ส.ปรีดาภรณ์ มารับศพ น้องสาวมีอาชีพเป็นพีอาร์ตามสถานบันเทิงต่างๆ ในเขตพื้นที่ กทม. มานานกว่า 7 ปี มีอุปนิสัยเป็นคนดื้อรั้นเคยเตือนอยู่เสมอให้เลิกยุ่งกับยาเสพติด แต่น้องสาวไม่เคยเชื่อฟัง และมักโต้เถียงกันถึงประเด็นนี้อยู่เป็นประจำ สำหรับเพื่อนของน้องสาวไม่รู้จัก เพราะปกติตนพักอาศัยอยู่ที่ จ.จันทบุรี ส่วนน้องสาวมาทำงานที่ กทม. แต่ช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ภายในประเทศครั้งแรกน้องสาวได้พาลูกทั้ง 2 คน ไปอยู่กับตนที่ จ.จันทบุรี หลังจากนั้นได้เดินทางกลับเข้ามาทำงานที่ กทม.ตามปกติ กระทั่งเกิดเหตุสลดขึ้น หลังจากนี้บุตรทั้ง 2 คนของน้องสาว ตนและมารดาจะช่วยกันดูแลต่อไป
ด้านนางคลองทรัพย์ เปิดเผยว่า น.ส.ปรีดาภรณ์ หรือกุ้ง ได้ฝากลูกทั้ง 2 คน ให้ตนเลี้ยงอยู่ที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมส่งเสียค่าเลี้ยงดูบุตรมาให้ทุกวันประมาณ 300-500 บาท แล้วแต่จะหาเงินได้หลังจากการทำงาน ซึ่งมักจะเดินทางไป-กลับเพื่อหาบุตรทั้ง 2 อยู่เป็นประจำโดยไม่เคยละทิ้งหน้าที่ความเป็นแม่ ส่วนเรื่องที่ น.ส.ปรีดาภรณ์ ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดนั้นตนรับรู้มาโดยตลอดหลังจากที่กุ้งหย่าร้างกับสามี แต่ไม่รู้ว่าเสพสารเสพติดชนิดใด ซึ่งเมื่อประมาณ 5 ปี ที่ผ่านมา ตนเคยพาไปบำบัดเพื่อหวังให้หมอรักษาได้ประมาณ 2 เดือน ใน จ.จันทบุรี ก็สามารถเลิกขาดได้ แต่ก็ยังหวนกลับไปเสพอีกครั้ง
สำหรับลางสังหรณ์บอกเหตุนี้ก็ไม่มีอะไร มีเพียงเหตุการณ์ที่บุตรชายวัย 7 ขวบ พบนกกาเข้ามาที่บ้านพร้อมส่งเสียงร้องกากาก่อนใช้เท้าเตะไล่ไป ซึ่งโดยปกติที่บ้านจะไม่เคยมีนกกามาพักอาศัยอยู่บริเวณนี้มาก่อน อีกทั้ง ล่าสุดเมื่อวันเกิดเหตุยังโทรศัพท์คุยกันตามปกติ ก่อนมาทราบข่าวร้ายในช่วงหัวค่ำ เชื่อว่าบุตรสาวไปยุ่งเดี่ยวกับเคนมผง เพราะไม่กี่วันมานี้ได้ไปขับรถชนเสาไฟฟ้าจนใบหน้าเสียโฉมและทำใจไม่ได้ที่ไม่สามารถไปทำงานได้ตามปกติ จึงนัดรวมตัวกับกลุ่มเพื่อนๆ เพื่อเสพยาเสพติด โดยจะนำศพไปบำเพ็ญที่วัดบ้านชำโสม (บ้านทุ่งแฝก-บ้านเขาไม้แก้ว ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
ด้าน น.ส.พวงเพ็ญ น้าสาวของนายพารวย กล่าวว่า ตนและหลานชายพักอาศัยอยู่คนละสถานที่กันจึงไม่รับรู้เรื่องส่วนตัว ทราบเพียงว่าหลานชายพักอาศัยอยู่กับแฟนสาวที่ชื่อ น.ส.สุวรรณี โดยขณะนี้อาการของฝ้ายยังอยู่ระหว่างการรักษาอาการและยังคงทรงตัวอยู่ ซึ่งแพทย์ผู้รักษาได้แจ้งว่าหากอาการแย่ลงจะโทรแจ้งให้ญาติทางฝ่ายหญิงทราบในทันทีแต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อแม้แต่อย่างใด .- สำนักข่าวไทย