“เคนมผง” สายไหม ไม่เชื่อมโยงวัดพระยาไกร

กทม. 13 ม.ค. – ตำรวจเร่งขยายผลจับเครือข่าย “เคนมผง” ในพื้นที่สายไหม เบื้องต้นยังไม่เชื่อมโยง “เคนมผง” ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมนายรัตนโชค กีรติโชติ หรือจิ้ม วัย 21 ปี พร้อมของกลางเคตามีน น้ำหนักประมาณ 31.9 กรัม ได้ในพื้นที่ย่านสายไหม กรุงเทพมหานคร หลังขยายผลจากการจับกุมนายนพดล นุตตะโยธิน วัย 20 ปี และนายนฤเดช ภู่หอม หรือฟิวเจอร์ วัย 19 ปี  เมื่อคืนที่มาผ่าน ในพื้นที่อำเภอลำลูกกาคลอง 2 จังหวัดปทุมธานี จากคำให้การซัดทอดของนางสาวศิริกาญจน์ เชื้อเขตกรรม หรือนุ่น วัย 23 ปี ที่ถูกจับกุมก่อนหน้า ว่ารับยาเคนมผง มาจากนายนพดล และนายนฤเดช ซึ่งทั้งสองให้การเพิ่มเติมว่าไปเอายาเคนมผงมาจากนายรัตนโชค รวมผู้ต้องหา “เคนมผง” ที่ถูกจับกุม 4 คน

และวันนี้เมื่อเวลา 11.00 น. พนักงานสอบสวน สน.สายไหม ได้ควบคุมตัวนายรัตนโชคมาสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งผู้ต้องปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเอเย่นต์ที่ตนไปรับยามาจำหน่าย โดยยอมรับว่ายาเคที่รับมาไม่ใช่ยาเคที่ใช้ทำนมผง แต่เป็นยาเคนมข้น (ผู้ต้องหาพูดกวนสื่อ)

ขณะที่การสืบสวนสอบสวนพบว่า นายรัตนโชคได้ติดต่อสั่งซื้อยาเคนมผงจากสมาชิกในเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นหญิงวัยรุ่น ชื่อฮาย (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) อายุประมาณ 20 ปี ในราคากรัมละ 470 บาท ก่อนนำมาแบ่งขายกรัมละ 600 บาท ให้กับกลุ่มวัยรุ่นย่านสายไหม และลูกค้าทั่วไป ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผล ส่วนของกลางตัวยาที่ตรวจยึดได้จากการจับกุมผู้ต้องหา ได้ส่งตรวจพิสูจน์แล้ว คาดว่า 1-2 นี้ จะทราบผลว่าส่วนผสมของสารชนิดใดบ้าง จากข้อมูลเบื้องต้นอาจไม่เชื่อมโยงกับกรณีที่พบยาเคนมผงในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร

สำหรับข้อหาที่พนักงานสอบสวน สน.สายไหม แจ้งเอาผิดนายรัตนโชค คือมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย แต่หากผลการตรวจสอบคัดแยกสารเสพติดจากผู้เชี่ยวชาญพบมีสารเมทแอมเฟตามีน ก็จะแจ้งข้อหามีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายทันที กรณีนี้ใช้เวลาตรวจพิสูจน์ประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนนางสาวศิริกาญจน์ หรือนุ่น พนักงานสอบสวนควบคุมตัวไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญา รัชดาฯ แล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยคัดค้านการประกันตัว .-สำนักข่าวไทย