จับขบวนการทุจริตโครงการคนละครึ่ง

18 ธ.ค.กรุงเทพฯ. –ตำรวจประเดิมจับขบวนการทุจริตเงินโครงการคนละครึ่งจับ ผู้ต้องหาตั้งตัวเป็นโบรกเกอร์หาลูกค้าป้อนร้านโชว์ห่วยที่สมุทรสาคร แต่โป๊ะแตกถูกจับได้ เพราะลูกค้าอยู่ไกลถึงเชียงใหม่


ตำรวจจับ 4 ผู้ต้องหา ทุจริตในโครงการคนละครึ่ง   โดยมีลักษณะวิธีการทุจริต 2 รูปแบบ รูปแบบแรก ร้านค้าคนละครึ่งที่รับแลกเงินสด มีการโอนเงินให้กับประชาชนที่ใช้แอปพลิเคชันเป๋าตัง (สิทธิคนละครึ่ง) โดยตรงผ่านทาง mobile banking , ATM , และเงินสด ซึ่งรูปแบบนี้ไม่ได้มีการซื้อ – ขายสินค้าจริงแต่ไปรับเงินโดยตรง

 ส่วนรูปแบบที่ 2 ลักษณะเป็นเจ้ามือ ประชาชนที่ต้องการแลกเงินมีการให้ข้อมูลการ  Login เข้าแอปพลิเคชันเป๋าตังแก่ร้านค้าเพื่อใช้สิทธิคนละครึ่งแทน โดยวิธีนี้ร้านค้าจะหาลูกค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์ เช่น ไลน์ เฟซบุ๊ก เป็นต้น ซึ่งหากมีประชาชนสนใจจะมีการตกลงแบ่งผลประโยชน์  กระทำการเสมือนมีการค้าขายแต่ไม่มี  โดยผู้ต้องหาจะแสดงตนเป็นทั้งร้านค้า และประชาชนผู้ใช้สิทธิ์  โดยกรณีนี้ตำรวจได้สืบสวนจากข้อมูลพบว่าที่อยู่ร้านค้า และผู้ใช้สิทธิอยู่ต่างภูมิลำเนา และคนละจังหวัด ทั้งเชียงใหม่ สงขลา ฯลฯ


พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุ ขณะนี้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 4 คนแล้ว ในข้อหาฉ้อโกง และข้อหาฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และเรียกสอบปากคำประชาชน 14 คน ที่นำข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับรหัสเข้าแอปพลิเคชันเป๋าตังส่งให้กับร้านค้าผู้กระทำความผิด  หลังจากนี้ตำรวจจะพิจารณาว่าจะต้องแยกการดำเนินคดีต่อไปอย่างไร โดยร้านค้าผู้กระทำความผิดพบว่ามีประชาชน 200 คน ที่เข้าข่ายร่วมกระทำความผิด โดยรัฐได้โอนเงินให้กับร้านค้าไปแล้วกว่า 220,000 บาท ในจำนวนนี้มีทั้งการซื้อ – ขายแบบสุจริต และการกระทำทุจริตโดยลูกชายของเจ้าของร้านเป็นหนึ่งในผู้หาวิธีฉ้อโกง เนื่องจากทราบช่องโหว่เชิงเทคนิค เช่น การไม่สแกนซื้อสินค้า  ส่วนสามี-ภรรยา ทำหน้าที่เป็นนายหน้าพบว่าได้เงินส่วนต่างจากการกระทำผิด 10 วัน ประมาณ 10,000 บาท

ยอมรับยังสรุปความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงแต่เชื่อว่าความเสียหายนั้นจะไม่สูง เนื่องจากทางธนาคารได้เฝ้าระวังและสั่งหยุดต่ายเงินทันทีเมื่อพบความผิดปกติ

สำหรับข้อมูลพบว่า มีร้านค้าที่กระทำความผิดจำนวนอีกกว่า 700  ร้านค้า ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจจะดำเนินการตรวจสอบและจับกุมดำเนินคดีต่อไป              ส่วนการสอบสวนดำเนินคดีในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ ระบุ ตำรวจกองปราบและตำรวจท่องเที่ยวลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐาน คาดว่าสัปดาห์หน้าจะสรุปคดีได้ หากพบเป็นเป็นคดีฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น จะออกหมายจับ ส่วนฉ้อโกง จะออกหมายเรียก เนื่องจากมีอัตราโทษหนักเบาไม่เท่ากัน. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ