กรุงเทพฯ 7 ธ.ค.-หนุ่มกร่างชักปืนขู่คู่กรณีกลางร้านข้าวต้มย่านประเวศ หลังมีเรื่องชกต่อยกัน หญิงที่มาด้วยเข้าห้ามและพาตัวออกไป
กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดภายในร้านข้าวต้มแห่งหนึ่งช่วงเวลา ประมาณ 00.30 น. เป็นภาพขณะชายสวมเสื้อสีดำทำท่าจะพุ่งเข้าไปทำร้ายชายอีกคน โดยมีเพื่อนชายและหญิงที่มาด้วยกันและคนที่อยู่ในร้านพยายามเข้าไปช่วยห้ามปราม แล้วบอกให้ใจเย็น จากภาพจะเห็นชายเสื้อดำอีกคน เหน็บปืนไว้ที่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง ก่อนชักปืนออกมา ส่ายไปมาทั่วร้าน จากนั้นเขาเก็บปืน แล้วหญิงที่มาด้วยกันก็เข้ามาพาตัวออกไปนอกร้าน
ทีมข่าวตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นร้านข้าวต้ม ริมถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณเที่ยงคืน กลุ่มคู่กรณีทั้ง 2 กลุ่มมีเรื่องชกต่อยกันอยู่ข้างร้าน จากนั้นลูกค้าที่อยู่ในร้านและพนักงานต่างพากันวิ่งหลบหนีกันอย่างชุลมุนเข้าไปหลบที่หลังร้าน จากนั้นหญิงสวมเสื้อวินรถจักรยานยนต์ก็พาชายคนหนึ่งเดินเข้ามากลางร้าน โดยมีคู่กรณีเดินตามมาแล้วพยายามเข้ามาทำร้าย จากนั้นชายและหญิงเสื้อดำได้เข้ามาห้ามปราม ก่อนจะปรากฏภาพดังที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ
ด้านนายศิริชัย เดชา อายุ 71 ปี เจ้าของร้านข้าวต้ม คนที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อเหตุจำนวน 3 คน มีชาย 2 คน หญิง 1 คน ได้เข้ามาสั่งอาหารและนั่งโต๊ะที่ติดกับริมถนน ส่วนกลุ่มคู่กรณีมา 3 คน นั่งอยู่โต๊ะด้านใน โดยระหว่างนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุได้พูดจาในลักษณะก่อกวน ตัวเองได้ยินจึงทำเป็นไม่สนใจ และเดินหนีออกมา ซึ่งเป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่ชายกลุ่มคู่กรณีออกมาสูบบุหรี่ด้านข้างร้าน ตัวเองหันมาอีกทีก็เห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้าไปชกต่อยชายคู่อริแล้ว ระหว่างนั้นเพื่อนของชายที่ก่อเหตุ ได้ชักอาวุธปืนออกมา ทำให้ลูกค้าที่อยู่ภายในร้านต่างพากันวิ่งหลบหนี ตัวเองจึงได้เข้าไปห้ามปราม เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องทะเลาะวิวาท แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ยังไม่ยอม กระทั่งชักปืนขึ้นมาขู่อีกครั้งในลักษณะส่ายไปส่ายมา ต่อมาผู้หญิงที่มาด้วยก็เข้ามาห้ามและพาตัวออกไปนอกร้าน
ทั้งนี้ยืนยันว่า ระหว่างที่เกิดเหตุชายคนที่มีอาวุธปืน ได้ชักปืนขึ้นมาถึง 3 ครั้ง ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องแล้ว กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขึ้นรถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน ไม่ทราบรุ่นและสี ขี่หลบหนีไป ส่วนสาเหตุตัวเองคิดว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุตั้งใจที่จะเข้ามาหาเรื่องที่ร้าน โดยภายหลังจากเกิดเรื่องแล้ว ทางตำรวจ สน.บางนาได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากนั้นผู้สื่อข่าวได้มาติดตามเรื่องที่ สน.บางนา แต่ก็ยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความที่ สน.บางนา แต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย