กทม. 5 ธ.ค. – ครอบครัวรับศพวิศวกรถูกยิงคาร้านบะหมี่จับกัง ท่ามกลางความโศกเศร้า พ่อเผยไม่ทราบปมสังหาร ด้านรอง ผบช.น. ยืนยันยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องสถาบัน ความขัดแย้งส่วนตัว และขัดผลประโยชน์
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ครอบครัวของนายอาทิตย์ โฉมเนตร อายุ 27 ปี วิศวกรที่ถูก 2 คนร้ายบุกยิงภายในร้านขายบะหมี่จับกัง ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ เสียชีวิตต่อหน้าต่อตาพ่อตา แม่ยาย รวมถึงภรรยาและลูกน้อยวัยเพียง 1 เดือน เดินทางเข้ารับศพที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดท่าพระ เป็นเวลา 5 วัน และเตรียมฌาปนกิจในวันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคมนี้
บรรยากาศในการรับศพเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยเฉพาะภรรยาที่อยู่ในเหตุการณ์ร้องไห้เสียใจอย่างหนัก ขณะที่เพื่อนของผู้ตายไม่อยากเชื่อว่าจะอายุสั้น และบอกว่าลมหายใจสุดท้ายของผู้ตายยังคงเฝ้ามองภรรยาและลูกด้วยความเป็นห่วง
ครอบครัวของผู้ตายให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ยังมึนงงกับเหตุการณ์ ไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องของสถาบัน เพราะผู้ตายเรียนจบมา 2-3 ปี และไปเป็นทหารเกณฑ์ ก่อนมามีครอบครัว ที่ผ่านมาไม่มีเรื่องทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบัน แต่จะเป็นปัญหาอื่นๆ หรือเรื่องส่วนตัวนั้นยังตอบไม่ได้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่นิติเวช ทราบว่าลูกชายมีบาดแผลจากกระสุนที่ใบหน้า 1 นัด ข้อมือ 1 นัด และหน้าอก 4 นัด ยอมรับเสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น และสงสารหลานที่ต้องกำพร้าพ่อ
สำหรับเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 21.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา ภายในร้านขายก๋วยเตี๋ยวจับกัง ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ ซอย 4 เลขที่ 26/37 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ หลังได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่พบนายอาทิตย์นอนจมกองเลือดอยู่ภายในร้าน จึงระดมกำลังทำ CPR แต่ทว่ายื้อชีวิตไม่ทันเพราะถูกยิงเข้าใต้ราวนมและจุดอื่นๆ เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบถามพบว่าผู้ตายไม่เคยมีเรื่องราวกับใคร ไปทำงานเป็นวิศวกรดูแลคุมงานสร้างบ้าน ก่อนเกิดเหตุกำลังเล่นกับลูกน้อยและครอบครัว แต่จากนั้นมีชายรูปร่างสูงประมาณ 160 เซนติเมตร นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไม่ทราบสีและทะเบียนมาจอดหน้าร้าน ก่อนเดินเข้ามาในร้าน ไม่พูดไม่จา ชักปืนยิงไปยังผู้ตายทันที
ขณะที่เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา ตำรวนครบาล 7 และ สน.ท่าพระ ได้ประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี โดยให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งเกี่ยวกับสถาบันการศึกษา และมีการลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี ซึ่งมีกล้องตลอดเส้นทาง ตั้งแต่เส้นจรัญสนิทวงศ์ เลี้ยวซ้ายแยกท่าพระ มุ่งหน้าวงเวียนใหญ่ และบริเวณถนนประชาธิปก ข้ามสะพานพระปกเกล้า ต่อเนื่องถนนจักรวรรดิ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ภาพ 2 ผู้ต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีที่บริเวณวงเวียนใหญ่
ทั้งนี้ จากแนวทางการสืบสวนพบว่าหลังผู้ตายเรียนจบยังใส่เสื้อช็อปสถาบันไปโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวบ่อยครั้ง ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเคยนำเรื่องไปเล่ากับแม่ว่ามีคนตามมาเฝ้าที่หน้าบ้าน 2 ครั้ง และแม่บอกให้ผู้ตายระวังตัว จากนั้นผู้ตายหายไปจากบ้าน 2-3 วัน จนมาเกิดเหตุสลดดังกล่าว
สำหรับพฤติการณ์ของคนร้ายพบว่าเตรียมการมาเป็นอย่างดี โดยได้จอดรถจักรยานยนต์ห่างจากร้านบะหมี่เพียงไม่กี่เมตร ก่อนบุกเข้าไปยิงทันทีอย่างไม่รีรอ นอกจากนี้ตำรวจกำลังดูกล้องวงจรปิดย้อนหลังไป 1 สัปดาห์ เพราะเชื่อว่าน่าจะมาดูลาดเลาไว้หลายครั้ง โดยมีพยานสังเกตเห็นคนร้ายจอดรถจักรยานยนต์รอที่ปากซอยจรัญฯ 4 ก่อนถึงที่เกิดเหตุประมาณ 30 เมตร อยู่ร่วมชั่วโมง
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องสถาบัน ความขัดแย้งส่วนตัว และขัดผลประโยชน์ เชื่อว่าคนร้ายไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์ และมาประทุษร้ายต่อชีวิตร่างกาย ก่อนหลบหนีไป.-สำนักข่าวไทย