กรุงเทพฯ 19 พ.ย.- แพทย์ใหญ่ตำรวจ ร่วมภาคเอกชน เปิด “ศูนย์พึ่งได้” ช่วยเหลือเด็ก-สตรีเหยื่ออาชญากรรม ดูแลครบวงจร เป็นที่พึ่งประชาชน
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 เวลา 13.00 น พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า ปัญหาความรุนแรงของสังคม โดยเฉพาะกับเด็กและสตรีเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนควรให้ความช่วยเหลือ และแก้ไขอย่างจริงจัง โดยเฉพาะความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเด็กและสตรี กลุ่มเซ็นทรัลจึงมอบเงินสนับสนุนในการสร้างและปรับปรุงจำนวนมากกว่า 5 ล้านบาท ก่อสร้าง “ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจ” ศูนย์บริการแบบครบวงจร (One Stop Crisis Center) แก่เด็ก-สตรีที่ถูกกระทำรุนแรงแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย
พล.ต.ท.โสภณรัชต์ กล่าวต่อว่า วานนี้ 18 พ.ย.2563 นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เกียรติร่วมงานด้วย ณ ลานกิจกรรม ชั้น 2 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ ทั้งนี้ การร่วมสนับสนุนก่อสร้างและปรับปรุง “ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจ” ในครั้งนี้ เราได้ระดมทุน จำนวน 5,848,250 บาท จากธุรกิจในเครือกลุ่มเซ็นทรัล ประกอบด้วย เซ็นทรัลพัฒนา (ซีพีเอ็น), โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซนทารา, ไทวัสดุ, เพาเวอร์บาย, โรบินสัน และเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล เป็นต้น
ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจ นับเป็นศูนย์บริการแบบครบวงจร ที่ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงทั้งจากครอบครัวและสังคม โดยทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายแบบบูรณาการครบวงจร หรือ One Stop Crisis ในจุดเดียว ตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจชันสูตร, งานชันสูตรผู้ป่วยคดี, การตรวจร่างกาย การเก็บหลักฐานและวัตถุพยานตามกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์, การให้คำปรึกษาและแนะนำการป้องกันโรค, การบำบัดฟื้นฟูทางจิตใจและสังคมจากพยาบาล, นักสังคมสงเคราะห์, นักจิตวิทยา, แพทย์นิติเวช และทีมสหวิชาชีพทั้งภายในและภายนอกโรงพยาบาล ไปจนถึงการคุ้มครองสวัสดิภาพ เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความปลอดภัยและการป้องกันมิให้ถูกกระทำซ้ำ เพื่อให้สามารถกลับมามีกำลังใจที่เข้มแข็งและใช้ชีวิต.
ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจ เปิดให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 การถูกทำร้ายร่างกายและคุกคามทางเพศเป็นคดีความอันดับต้นต้นๆ ที่เหยื่อถูกกระทำมากที่สุดตลอด 28 ปี ที่เปิดให้บริการ ยิ่งก้าวเข้าสู่โลกยุคไซเบอร์ ยิ่งทำให้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมนำมาซึ่งความรุนแรงเพิ่มขึ้น
ที่ผ่านมาศูนย์พึ่งได้ ให้การเยียวยาเหยื่อเพื่อลดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์และการฆ่าตัวตายอย่างได้ผล จากเหยื่อที่ถูกส่งตัวเข้ามารับบริการเฉลี่ยปีละ 800 คน โดยมีทีมสหวิชาชีพที่บูรณางานกันช่วยเหลือ ตั้งแต่รับตรวจผู้ป่วย ไปจนถึงวางแผนการเยียวยา เริ่มต้นจากฉุกเฉิน ตรวจร่างกาย เก็บร่องรอยไว้เป็นหลักฐาน เพื่อประกอบทางด้านคดีความ เสร็จแล้วก็จะส่งต่อนัดมาที่ศูนย์พึ่งได้ เพื่อที่สหวิชาชีพจะได้ร่วมกันดูแลให้ครบองค์รวม ทั้งคุณหมอทางด้านคดี คุณหมอทางด้านสุขภาพ พยาบาลที่จะดูแลในเรื่องของการป้องกันการติดเชื้อ รวมถึงการป้องกันการตั้งครรภ์ แล้วก็จะมีนักจิตวิทยาที่ดูแลทางด้านสุขภาพใจ
พล.ต.ท.โสภณรัชต์ กล่าวอีกว่า อยากจะทำให้ครบวงจร คือ ไม่ใช่ว่ามาถึงตรวจตรวจเสร็จ ก็กลับไป แต่คนไข้ก็ไปนั่งทุกข์ใจ เศร้าใจอยู่ หาทางออกไม่ได้ ก็เลยคิดว่าเราควรจะทำให้มันเป็นระบบขึ้น แทนที่จะเข้ามาตรวจอย่างเดียว เพื่อเก็บหลักฐาน พิสูจน์หลักฐาน ก็ควรจะรักษาผู้ป่วยให้เยียวยาจิตใจด้วย ศูนย์พึ่งได้จึงจัดตั้งเพจเฟซบุ๊ก “Because We Care” สำหรับให้คำปรึกษาและช่วยเหลือผู้ที่ถูกกระทำความรุนแรง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์และแนะนำการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย