กทม.5 พ.ย.- ตำรวจแถลงภาพรวมการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ชุมนุมทั่วประเทศ รวมทั้งข้องเรียกร้องของคณะกรรมการสิทธฯ
พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมพันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยพลตำรวจตรีปิยะ กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินคดีของกองบัญชาการตำรวจนครบาลในห้วงที่ผ่านมาจับผู้ต้องหาในคดีเกี่ยวกับความมั่นคงและความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไปแล้วจำนวน 85 ราย ข้อหาสำคัญคือข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง, การกระทำผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จำนวน 68 ราย, ความผิดประทุษร้ายตามมาตรา 110 จำนวน 3 ราย, กระทำผิดตามมาตรา 116 จำนวน 13 ราย, และความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.เปรียบเทียบปรับ เช่น พ.ร.บ.ความสะอาด หรือพ.ร.บ.อื่นๆ จำนวน 2 ราย
พันตำรวจเอกกฤษณะ กล่าวว่า นับตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีการรวมตัวชุมนุมกันของกลุ่มต่างๆ ซึ่งมีการกระทำผิดกฎหมายในภาพรวมทั่วประเทศจำนวน 140 คดี ใน 26 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งเรื่องของการชุมนุมอยากให้เคารพกฎหมายเป็นหลัก โดยเฉพาะการแจ้งการชุมนุมกับตำรวจที่รับผิดชอบตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ หากแจ้งให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบ และเจ้าหน้าที่จะได้จัดกำลังไปอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และรักษาความสงบเรียบร้อยซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ในหลายๆ ส่วนที่ผ่านมามีทั้งการแจ้งและไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบ ทั้งที่กฎหมายก็บอกไว้ชัดเจนว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร หลังจากที่มีการออกมาชุมนุมโดยไม่มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ มีการแจ้งแล้วมีการกระทำความผิดกฎหมายในส่วนอื่นนั้น สุดท้ายแล้วพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการตามกรอบกฎหมายที่ให้อำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยที่ไม่ได้มี 2 มาตรฐาน
พลตำรวจตรีปิยะ ขอให้มองถึงเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องผู้ใช้รถใช้ถนนและผู้ที่ต้องดำรงชีวิตประจำวัน
ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีหนังสือเรื่องข้อห่วงใยต่อการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการควบคุมตัวและดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลและควรชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจับกุมและดำเนินคดีให้สาธารณชนทราบโดยเร็ว
พันตำรวจเอกกฤษณะ กล่าวว่า ต้องแยกเป็น 2 ประเด็น คือ ประเด็นที่ทาง กสม.ได้ออกสื่อ ทราบว่าจะมีการส่งหนังสือไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อที่จะให้ชี้แจงในประเด็นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้อำนาจในการจับกุม และการใช้อำนาจในการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมในการใช้น้ำฉีดหรืออะไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการ ในส่วนการชี้แจงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายกฎหมายคงต้องไปดูเป็นขั้นตอนการชี้แจงตามปกติอยู่แล้ว ประการที่สองในส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่ต้องไปชี้แจง ทั้งผู้ที่ได้รับมอบหมายโดยตรงในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลหรือส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้มีความกังวลอะไรในเรื่องที่ต้องเข้าไปชี้แจง พร้อมยืนยันว่าในการปฏิบัตืหน้าที่ในทุกส่วนนั้นเราปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักกฎหมาย ยึดหลักรัฐศาสตร์ ไม่ได้มุ่งที่จะบังคับใช้กฎหมายจับกุมเป็นหลัก เรามีการเจรจาต่อรอง มีขั้นตอน มีพัฒนาการจนไปถึงในจุดที่จะต้องมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ขอยืนยันว่าเรามีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย และยึดถือกฎหมายเป็นสำคัญ
พลตำรวจตรีปิยะ กล่าวอีกว่า ส่วนของการเตรียมความพร้อมการดูแลพื้นที่การชุมนุมที่ผ่านมา กลุ่มคณะราษฎรได้มีการแถลงการณ์ที่จะชุมนุมต่อโดยกำหนดแนวทาง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้เรียกประชุมหารือเตรียมกำลังไว้เพื่อรองรับไว้ทั้งหมด 12 กองร้อยไว้ดูแลโดยรอบพื้นที่ที่มีการชุมนุม เช่น โดยรอบพื้นที่สนามหลวง และที่เหลืออีก จำนวน 24 กองร้อย ได้มีการจัดกำลัง เพื่อเฝ้าจุดตามสถานที่ราชการ ส่วนขณะนี้มีการปรับลดกำลังแล้วหรือไม่นั้น ขณะนี้ได้มีการปรับลดกำลังบางส่วนตามความเหมาะสม .-สำนักข่าวไทย