กรุงเทพฯ 5 พ.ย.- “มายด์-ภัสราวลี” เข้าพบตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ เผยโดนแล้ว 3 หมายเรียก 1 หมายจับ เชื่อเป็นเกมรัฐบาลที่มุ่งตัดความสำคัญ
น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ แกนนำกลุ่มมหานครประชาธิปไตย พร้อมนายศุภณัฐ บุญสด ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้าพบ พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล รอง ผบก.อคฝ.รรท.ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ตามหมายเรียก กรณีการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนีเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ในข้อหา “ร่วมกันกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนโดยใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนในบ้านเมืองฯ” ตามกฎหมายอาญา มาตรา 116 โดยมี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ร่วมสอบปากคำ
น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า ตอนนี้มีคดีความทั้งหมด 4 คดี ในนี้เป็นหมายจับ 1 คดี โดยวันนี้ได้มารายงานตัวตามหมายเรียกในข้อหายุยงปลุกปั่นตามกฎหมายอาญามาตรา 116 จากการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนี เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งการมารายงานตัวในครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะทำตามกระบวนการของกฎหมายเช่นกัน แต่จะมีการจับกุมในคดีอื่นหรือไม่นั้น ก็ต้องดูตามข่าวกันต่อไป และยืนยันว่าไม่มีความกังวลใจ เพราะรู้ว่านี่เป็นเกมของรัฐบาลที่ต้องการตัดความสำคัญของเรา ยังยืนยันว่าจะเดินหน้าเรียกร้องกันต่อไป ทั้งนี้ ตนจะให้การปฏิเสธ โดยทนายความจะเป็นผู้ต่อสู้ทางคดี และในช่วงบ่ายวันนี้ จะมีเพื่อนอีก 4 คน เข้ามารายงานตัวตามหมายเรียกในคดีเดียวกัน
ด้าน นายศุภณัฐ กล่าวถึงข้อโต้แย้งที่จะให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า การชุมนุมดังกล่าวถือเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นการก่อความวุ่นวายแต่อย่างใด
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า, นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ตามหมายเรียกตามความผิดฐานกระทำความผิดฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน ด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่การกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 116 ตามที่นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธอิสระ เป็นผู้กล่าวหา กรณีร่วมชุมนุมและขึ้นกล่าวให้แนวคิดในการชุมนุมต่อเนื่องที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิของกลุ่มเยาวชนปลดแอกเมื่อเร็ว ๆ นี้
นายปิยบุตร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใด จึงดำเนินคดีพวกตนตามความผิดมาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่น เพราะที่ผ่านมา ตนเองไม่เคยแสดงออกความเห็นใดๆ ที่เข้าข่ายองค์ประกอบความผิดดังกล่าว จึงสงสัยว่านายสุวิทย์ นำข้อความใดมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้มีการใช้มาตรา 116 มาเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ขณะที่พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มาร่วมสอบสวนด้วย
ขณะที่บรรยากาศที่ สน.พญาไท มีมวลชนมาให้กำลังใจทั้ง 3 คน ด้วยการนำดอกกุหลาบแดงมามอบให้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท จัดเตรียมกำลังดูแลความเรียบร้อยโดยรอบ
ด้านนายกฤษฎางค์ นุชจรัส ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน ทนายความทั้ง 3 คน ระบุว่าวันนี้เป็นการรายงานตัวตามหมายเรียกครั้งที่ 1 โดยยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นออกหมายจากการกระทำใด และเหตุการณ์ใด รู้เพียงว่าเป็นความผิดตามมาตรา 116
ต้องรอฟังจากพนักงานสอบสวนที่จะแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบและสอบปากคำทั้ง 3 คน โดยคาดว่าต้องทำคำร้องต่อพนักงานสอบสวนขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานมาแก้ข้อกล่าวหา และเนื่องจากมาตรา 116 เป็นความผิดร้ายแรงโทษจำคุก 7 ปี จึงน่าจะใช้เวลาในการสอบสวน.-สำนักข่าวไทย