กทม.23 ต.ค.- กลุ่มคนที่แจ้งความถูกคนเสื้อเหลืองทำร้าย ที่ ม.รามฯ เมื่อวาน มาตามความคืบหน้าคดีวันนี้ ตำรวจยัน ไม่สามารถชี้ใครผิดได้ใน 1-2 วัน
กลุ่มเครื่อข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย จำนวนหนึ่ง ไป สน.หัวหมาก ติดตามความคืบหน้าคดีที่ ถูกกลุ่มคนเสื้อเหลือง ทำร้ายร่างกายโดยใช้ลำโพงฟาดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา บริเวณมหาวิทยาลัยรามคําแหง หลังเข้าแจ้งความเอาผิดกลุ่มคนดังกล่าวเมื่อวานที่ผ่านมา(22 ต.ค.) ก่อนนำอาหารและน้ำดื่มมานั่งรับประทานด้านหน้า สน.เพื่อกดดันตำรวจให้เร่งรัดติดตามตัว คนทำร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายนันทพงศ์ ปานมาศ สมาชิกเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยกล่าวว่า กลุ่มชายเสื้อเหลืองที่ทำร้าย เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่บางกะปิ, รามคำแหง ขณะนี้ทราบชื่อแล้ว 9 คน พวกตนรู้สึกว่า อาจไม่ปลอดภัยหากปล่อยไว้นาน จึงต้องการให้ตำรวจตามตัวทั้งหมดมาดำเนินคดี ยืนยันที่ผ่านมาพวกตนไม่คิดล้มล้างสถาบัน เพียงแต่ต้องการให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ กฎหมาย และไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเท่านั้น พร้อมฝากถึงนายถาวร เสมเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม โดยอ้างว่า คนของนายถาวร เป็นถึงที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วย กลับมาทำร้ายนักเรียน, นักศึกษา เป็นเรื่องที่ไม่สมควรไร้ซึ่งวุฒิภาวะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ควรขอโทษ ไม่ใช่พูดท้าท้าทายให้แจ้งความ คำพูดดังกล่าวบ่งบอกว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหจุการณ์ทำร้าย หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมที่ สน. หัวหมาก จะเดินทางไปรวมกับผู้ชุมนุมที่หน้าเรือนจำ
ด้าน พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.หัวหมาก กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่ น.ส.ฐิติมา บุตรดี หรือแบม อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยรามคำแหง พิธีกรที่อยู่ในเหตุการณ์ที่กลุ่มคนเสื้อเหลืองบุกฝ่าแนวกั้นตำรวจเข้ามาทำร้าย และทุ่มลำโพงใส่จน น.ส.ฐิติมา ได้รับบาดเจ็บ ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยาน และพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิด ยังไม่มีการออกหมายเรียกใครมารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนกรณีที่ช่วงเย็นวันนี้(23 ต.ค.) จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาทวงถามความคืบหน้าคดี ถือเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่ยืนยันว่า ทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ไม่สามารถตัดสินให้ใครผิดหรือไม่ผิดได้ภายใน 1-2 วัน.-สำนักข่าวไทย