กรุงเทพฯ 22 ต.ค.- ศาลแพ่งมีคำสั่งรับฟ้องสำนวนคดที่ “วัชระ เพชรทอง” ฟ้องนายกรัฐมนตรีและพวก หลังยื่นฟ้องให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ตามที่ปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะว่านายวัชระ เพชรทอง กับพวกรวม 2 คน ยื่นฟ้อง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กับพวกรวม 2 คน เป็นคดีต่อศาลแพ่ง ในคดีหมายเลขดำที่ พ5323/2563 โดยศาลแพ่งนัดฟังคำสั่งรับหรือไม่รับฟ้องในวันนี้เวลา 09.00 น.นั้น
บัดนี้ ศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ พ5323/2563 มีคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้วคดีนี้ โจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้เพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตกรุงเทพมหานคร ฉบับลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ประกาศใช้ และขอให้เพิกถอนประกาศทุกฉบับของจำเลยที่ 2 ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง โดยบรรยายฟ้องอ้างถึงเหตุที่โจทก์ทั้งสองได้รับความเดือดร้อนเสียหาย หรืออาจได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงของจำเลยที่ 1 และประกาศอื่นๆ ของจำเลยที่ 2 รวมถึงเหตุที่ทำให้ประกาศดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เห็นว่าประกาศดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครองที่ใช้บังคับต่อประชาชนทั่วไป
แต่เนื่องด้วยพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 16 บัญญัติว่า “ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำตามพระราชกำหนดนี้ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง” อันทำให้การฟ้องร้องคดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ทั้งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 188 บัญญัติว่า “การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีเป็นอำนาจของศาล” และมาตรา 194 บัญญัติว่า “ศาลยุติธรรมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวงเว้นแต่คดีที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลอื่น” อันแสดงให้เห็นว่าศาลยุติธรรมเป็นศาลที่มีเขตอำนาจทั่วไป
ดังนั้น คดีนี้จึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม เมื่อโจทก์ทั้งสองกล่าวอ้างว่าประกาศของจำเลยทั้งสองมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน กรณีมีเหตุให้รับฟ้องของโจทก์ทั้งสองไว้พิจารณา”.-สำนักข่าวไทย