ผบ.ตร.ยังไม่ยกระดับใช้กฎหมาย เน้นเจราจาผู้ชุมนุม

กรุงเทพฯ 19 ต.ค.- ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุยังไม่จำเป็นต้องยกระดับการใช้กฎหมายกับผู้ชุมนุม เชื่อการเจรจาสร้างความเข้าใจจะเป็นประโยชน์กว่า พร้อมเตรียมจัดทำวิดีโอชี้แจงข้อเท็จจริงการใช้สารเคมีสีฟ้าในการสลายการชุมนุม


พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ขณะนี้ตำรวจยังคงต้องประเมินสถานการณ์การชุมนุมแบบวันต่อวัน โดยกำชับผู้ปฏิบัติไม่ให้กระทำการเกินกว่าเหตุ เน้นการดูแลทั้งกลุ่มผู้ชุมนุม ประชาชนทั่วไป ไม่ให้ได้รับผลกระทบ ซึ่งการชุมนุมช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ผลกระทบจากการชุมนุมลดน้อยลง เนื่องจากช่วงเวลาการชุมนุมลดสั้นลง แต่จากการกระจายตัวชุมนุมหลายจุด ก็จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมากในอนาคต โดยเฉพาะ ในเรื่องการเส้นทางคมนาคม พร้อมมองว่ายังไม่จำเป็นต้องยกระดับการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มข้นขึ้น เนื่องจากการเจรจาสร้างความเข้าใจ จะทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่า แต่ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจด้วยว่า การชุมนุมทุกวันนี้เข้าข่ายผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตำรวจอาจต้องใช้กำลังควบคุมพื้นที่ ซึ่งเป็นเพียงปิดเส้นทางจราจร ไม่ให้มีการเหตุกระทบกระทั่งกับบุคคลอื่นที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ชุมนุม

ส่วนสารสีฟ้า และสารที่ผสมในน้ำที่เกิดการระคายเคือง ที่มีการใช้ในการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุว่า กำลังให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจัดทำคลิปวิดีโอเผยแพร่ให้ประชาชนเข้าใจเหตุผลความจำเป็นในการใช้สารดังกล่าว พร้อมย้ำว่าสารดังกล่าวมีการใช้ในขั้นตอนสลายการชุมนุมทั่วโลก ซึ่งเป็นไปตามหลักสากล


ส่วนกรณีมีการทำลายทรัพย์สินป้อมตำรวจแยกจราจร แยกบางนา เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันจากการสอบสวนพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มนักเรียนอาชีวะที่ไม่ถูกกัน ประกอบกันเมาสุรา ซึ่งไม่ใช่การกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังระบุว่า นายกรัฐมนตรีสอบถามและกำชับให้บังคับใช้กฎหมาย ด้วยความยุติธรรม ส่วนตัวแม้รับตำแหน่งได้ไม่นาน ก็ไม่รู้สึกเครียดและหนักใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ต้องทำหน้าที่ ดูแลบังคับใช้กฎหมาย และดูแลองค์กรตำรวจ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.