ออกหมายเรียกแล้ว “พ.ท.” รุมทำร้ายหนุ่มใหญ่

กทม. 10 ต.ค. – ตำรวจ สน.พญาไท ออกหมายเรียกนายทหารยศ “พ.ท.” รุมทำร้ายร่างกายหนุ่มใหญ่ จากปมปัญหาแย่งที่จอดรถ เข้าให้ปากคำในสัปดาห์หน้า ด้าน ทบ. สั่งสอบข้อเท็จจริง


ความคืบหน้ากรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพเหตุการณ์ความยาวประมาณ 4 นาที เป็นภาพที่นายประยุทธ โชคสุนทรเลิศ อายุ 41 ปี ถูกนายทหาร สังกัด สลก.ทบ. กับพวกอีก 1 คน ใช้กำลังรุมทำร้าย บริเวณลานจอดรถใต้อาคารบ้านพักสวัสดิการกองทัพบก (พญาไท) จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนที่นายประยุทธเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.พญาไท

ล่าสุดพันตำรวจเอกบวรภพ สุนทรเลขา ผู้กำกับการ สน.พญาไท เปิดเผยว่า ตอนนี้สอบปากคำน้องสาวของผู้บาดเจ็บไปแล้ว 1 ปาก เชื่อว่าพี่ชาย และนายทหารยศ “พ.ท.” ผู้ก่อเหตุ ไม่ได้เพียงทะเลาะกันเรื่องที่จอดรถเท่านั้น แต่พบว่าก่อนหน้านี้ทะเลาะกันมาจากข้างนอกก่อน แต่ไม่ทราบว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร ก่อนมามีเรื่องวิวาททำร้ายร่างกายกันบริเวณลานจอดรถ ซึ่งพิจารณาเห็นว่าเพียงพอแล้ว จึงออกหมายเรียก พ.ท. ผู้ก่อเหตุ ให้มาพบ พนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำภายในสัปดาห์หน้า หากไม่มาตามหมายเรียกครั้งที่ 1 จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 จากนั้นจะออกหมายจับต่อไป ส่วนผู้เสียหายเบื้องต้นยังไม่สามารถสอบปากคำได้ เพราะต้องรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่ต่างจังหวัด นอกจากนี้พนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องมาประกอบสำนวนคดี


ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า กองทัพบกตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นทหารนายจริง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ลานจอดรถใต้อาคารบ้านพักสวัสดิการกองทัพบก (พญาไท) เหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากไม่ทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร มีลักษณะคล้ายมึนเมา และสื่อสารไม่เข้าใจ เข้ามาในบริเวณบ้านพักสวัสดิการกองทัพบกในยามวิกาล และยอมรับว่าได้ทำร้ายผู้เสียหายจริง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของ สน.พญาไท สำหรับหน่วยต้นสังกัดได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม กองทัพบกต้องขอโทษผู้เสียหายด้วยที่กำลังพลประพฤติไม่เหมาะสม ใช้ความรุนแรง ทั้งนี้ จะดำเนินการทางวินัย และให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายอย่างดีที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก