ลดโทษจำคุก “โมนา” คดีฆ่าสาวใช้

กรุงเทพฯ 6 ต.ค.-ศาลอุทธรณ์พิพากษาลดโทษ “โมนา” อดีตผู้เข้าประกวดนางงาม จากโทษจำคุกตลอดชีวิต เหลือจำคุก 20 ปี คดีฆ่าฝังดินสาวใช้ “น้องน้ำ”


ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.กฤษณา หรือ “โมนา” สุวรรณพิทักษ์ อายุ 47 ปี อดีตผู้เข้าประกวดนางงาม จังหวัดเพชรบุรี , น.ส.ปรารถนา หรือ “เม้า” ท้วมทรัพย์ อายุ 35 ปี เพื่อนสนิทรุ่นน้อง และนายปราโมทย์ สุวรรณพิทักษ์ อายุ 47 ปี พี่ชายและอดีตผู้ใหญ่บ้าน เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ ร่วมกันช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษอาญาหรือรับโทษน้อยลง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,184

โดยคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย. – วันที่ 12 เม.ย.2555 นางสาว กฤษณาใช้กระป๋องสเปรย์ ยาวประมาณ 1 ฟุต ทุบตีที่ศีรษะ น.ส.จริยา หรือน้องน้ำ อายุ 15 ปีเศษ สาวใช้บ้านพัก หมู่บ้านกลางกรุงรัชวิภา แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. หลายครั้ง เพื่อเจตนาฆ่า และยังใช้ท่อต่อพลาสติกเครื่องดูดฝุ่นทุบตีบริเวณต้นขา และใช้ที่หนีบผมที่ยังร้อนจี้ตามลำตัว จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และถึงแก่ความตาย จากนั้นวันที่ 15 เม.ย.2555 น.ส.ปรารถนา และนายปราโมทย์ จำเลยที่ 2 และ 3 ร่วมกัน เคลื่อนย้ายศพ โดยขุดหลุมฝังผู้ตายไว้ข้างบ้านพักใต้ต้นตาล ใน ต.หนองโสน อ.เมือง จ.เพชรบุรี โดยจำเลยที่ 1 และ 2 ให้การปฏิเสธ ส่วนจำเลยที่ 3 รับสารภาพ


คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2562 ให้จำคุก น.ส.กฤษณา หรือ โมนา จำเลยที่ 1 ตลอดชีวิต และให้ชดใช้ค่าสินไหม ให้มารดาของผู้ตายเป็นเงิน กว่า 1.06 ล้านบาท, น.ส.ปรารถนา จำเลยที่ 2 สั่งจำคุก 1 ปี 4 เดือน และนายปราโมทย์ สุวรรณพิทักษ์ จำเลยที่ 3 จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา

โดยวันนี้ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว จำเลยที่ 1-2 กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ โจทก์มีพยานเบิกความว่าจำเลยที่ 1 มีอารมณ์ร้าย เคยมีชาวพม่ามาทำงานรับใช้แล้วถูกทำร้าย 2 คน ก่อนออกไป โดยเห็นจำเลยที่ 1 ใช้กระป๋องสเปรย์ตีผู้ตาย ภายหลังได้เรียกให้พยานดูผู้ตายเสียชีวิตในครัว พบร่างกายมีรอยไหม้ พยานเห็นจำเลยทั้งสามนำศพผู้ตายไปฝัง และมีพยานอีกรายเห็นจำเลยที่ 1 ทำร้ายผู้ตายถึงแก่ความตาย เมื่อมีการนำศพไปขอให้วัดเผาศพ วัดไม่เผาให้เนื่องจากไม่มีใบมรณบัตร ศาลอุทธรณ์เห็นว่าพยานโจทก์ทั้งสองเบิกความเชื่อมโยงกันเป็นขั้นตอนเกี่ยวกับการทำร้ายผู้ตาย การขอเผาศพ และฝังศพสอดคล้องกัน ไม่มีเหตุโกรธเคืองปรักปรำจำเลย เชื่อว่าเบิกความไปตามความจริง

ส่วนที่จำเลยที่ 1 อ้างไม่ได้ทำร้ายผู้ตาย แต่ผู้ตายหนีหายไปนั้น จำเลยที่ 1 ไม่ได้ให้การนี้ในชั้นสอบสวน โดยให้การว่าผู้ตายเสียชีวิตที่กรุงเทพฯ และจำเลยที่ 1-2 ให้การซัดทอดกันไปมาว่าอีกฝ่ายทำร้าย จึงเป็นการอ้างเลื่อนลอย ไม่หักล้างพยานหลักฐานโจทก์ โดยจำเลยที่ 1 ทำร้ายผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยทั้งสามนำศพไปฝัง จากการตรวจกระดูกผู้ตาย พบกระดูกกรามหลุด แตกหักก่อนตาย จากการถูกตีศีรษะรุนแรง และไม่นำส่งโรงพยาบาล จำเลยที่ 1 ย่อมเล็งเห็นถึงแก่ความตาย มีความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนา จำเลยที่ 2 ผู้ฝังศพ ย่อมมีความผิดฐานร่วมกันช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษอาญา ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย แต่เห็นว่าศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 1 หนักเกินไป จึงแก้ไขให้เหมาะสม


สำหรับประเด็นอุทธรณ์เห็นสมควรลงโทษสถานเบาหรือรอการลงโทษหรือไม่ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโทษจำเลยที่ 2-3 เหมาะสมแล้ว การปกปิดการตายช่วยจำเลยที่ 1 ให้ไม่รับโทษ ทำให้มารดาผู้ตายทุกข์ทรมาน ถึงแม้จำเลยไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน และจำเลยที่ 3 ชดใช้ค่าเสียหายแล้ว ก็ไม่มีเหตุรอการลงโทษ ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุก น.ส.กฤษณา หรือโมนา จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 20 ปี ส่วน น.ส.ปรารถนา และนายปราโมทย์ จำเลยที่ 2-3 โทษเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-มีหมอกตอนเช้า

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนยังมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า

ทูตไทยขอบคุณอิสราเอลช่วยปล่อย 5 ตัวประกันชาวไทย

เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล กล่าวขอบคุณรัฐบาลอิสราเอล ในการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทย 5 คน กลับบ้าน หลังกลุ่มฮามาสปล่อยตัว พร้อมกับตัวประกันชาวอิสราเอล 3 คน

5 แรงงานไทยปลอดภัยดี พูดคุยปกติ หลังฮามาสปล่อยตัว

“พิพัฒน์” เผย 5 แรงงานไทยปลอดภัยดี พูดคุยปกติ หลังได้รับการปล่อยตัว มอบปลัดแรงงาน ดูแลสิทธิประโยชน์กองทุนฯ ต่างประเทศ และประกันสังคม

นายกฯ ยินดีหลังได้รับยืนยัน 5 คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกาซาแล้ว

“นายกฯ แพทองธาร” ยินดีหลังได้รับการยืนยัน 5 คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกาซาแล้ว สั่ง รมต.ต่างประเทศ เดินทางไปรับตัวกลับสู่อ้อมกอดประเทศไทย พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับการช่วยเหลือ หวังคนไทยที่เหลือจะได้รับการปล่อยตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัย