กทม.29 ก.ย.- ตำรวจ ตม.จับกุมผู้ต้องหาสำคัญ 4 คดี หนึ่งในนั้นคือชาวเมียนมารับจ้างทำเอกสารราชการปลอม เพื่อขอใบอนุญาตทำงาน และขออยู่ต่อในราชอาณาจักร
พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงจับกุมผู้ต้องหาก่อคดีสำคัญ 4 คดี คดีแรก ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 1 จับกุมนายอ่อง ตาน , นางนาน และนางโม ชาวเมียนมา ที่ร้านขายของชำในตลาดลานทรายพลาซ่า ถนนสาธุประดิษฐ์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา พร้อมตราประทับปลอมรูปแบบต่างๆ เอกสารราชการปลอม และหนังสือเดินทางเมียนมาอีกจำนวนมาก หลังสืบทราบว่าเป็นแหล่งรับจ้างทำเอกสารราชการปลอม เพื่อใช้ประกอบการขอใบอนุญาตทำงาน และขออยู่ต่อในราชอาณาจักร โดยเปิดร้านขายของชำบังหน้าอยู่ใกล้กับสถานทูตเมียนมา
นายอ่อง สารภาพว่า รับจ้างเป็นนายหน้าทำเอกสารปลอมให้แรงงานเมียนมาด้วยกัน แรกเริ่มเดิมทีได้รับจ้าง พาแรงงานเมียนมาไปขอต่อใบอนุญาตทำงาน และขออยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากอยู่เมืองไทยมานานจึงมีความชำนาญในการใช้ภาษาไทยติดต่อกับทางราชการ มีชาวเมียนมามาใช้บริการจำนวนมาก จากนั้นจึงเกิดความโลภเปลี่ยนเป็นใช้วิธีปลอมเอกสาร และตราประทับของเจ้าหน้าที่ เช่น ใบรับคำขอของกรมการจัดหางาน และใบรับรองแพทย์ เพื่อนำไปทำเรื่องขออนุญาตแทน โดยคิดค่าบริการ 2,000 – 3,000 บาทต่อคน มีรายได้เป็นกอบเป็นกำทำมาแล้วหลายปี
คดีที่ 2 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 1 จับกุม นาย Firoozi อายุ 46 ปี ชาวอิหร่าน อ้างตัวเป็นนายหน้ารับต่อวีซ่าให้ผู้ป่วยชาวต่างชาติใช้วิธีติดต่อกับแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชน ให้ออกใบรับรองแพทย์ให้คนต่างชาติที่ต้องการพำนักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรระยะยาว โดยมีการเสนอผลตอบแทนต่างๆให้กับแพทย์ และรับปากจะส่งผู้ป่วยชาวต่างชาติมาเป็นลูกค้าโรงพยาบาลอย่างสม่ำเสมอ แต่ถูกโรงพยาบาลหลายแห่งปฏิเสธ ทางโรงพยาบาลจึงแจ้งมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพราะสงสัยพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ นอกจากนี้ยังพบว่า นาย Firoozi พักอาศัยอยู่ราชอาณาจักรเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดกว่า 1,800 วัน โดยเดินทางเข้ามาตั้งแต่ 21 กรกฎาคม 2558 จึงดำเนินคดีเพื่อผลักดันออกนอกราชอาณาจักร
คดีที่ 3 จับสามี-ภรรยา ชาวไทย ใช้วีซ่าสหรัฐอเมริกาปลอม ถูกจับได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยระบบ BIOMETRICS ผู้ต้องหายอมรับว่า เสียค่าดำเนินการ 50,000 บาทต่อคน
คดีสุดท้าย จับกุมหญิงไทยพัวพันแก๊ง Romance Scam ซึ่งเป็นคนดูแลเงินในบัญชีที่ได้จากการกระทำความผิดในประเทศไทย แก๊งนี้ก่อเหตุมาแล้วใน 20 ประเทศ โดยจับกุมได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะเดินทางจากเมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เข้าประเทศไทย.-สำนักข่าวไทย