ความในใจ 2 คนข่าวช่องดังลาออก

กทม. 9 ก.ย. – หัวหน้าช่างภาพสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งที่เกาะติดคดี “น้องชมพู่” รวมถึงผู้สื่อข่าวอีก 1 คน โพสต์ลาออกจากงาน พร้อมกับระบายความในใจเกี่ยวกับการทำข่าวคดี “น้องชมพู่” จนบิดเบี้ยวกลายเป็นประเด็นอื่น


ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Songpon Ruengsamut (ทรงพล เรืองสมุทร)” หัวหน้าช่างภาพสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง โพสต์ข้อความระบายความในใจเกี่ยวกับการทำข่าวคดี “น้องชมพู่” พร้อมขอโทษกับความ “เน่าเฟะ” กรณี “ลุงพล ป้าแต๋น และบ้านกกกอก” จากน้ำมือของ “สื่อมวลชนอย่างพวกเรา” ที่หยิบยื่นให้กับสังคมตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังระบุว่าได้ตัดสินใจลาออกจากที่ทำงานเพราะไม่สามารถอดทนกับการนำเสนอข่าวได้ ทั้งที่อยู่มานานกว่า 6 ปี เพราะคดีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” ที่ถูกนำเสนอโดยสื่อมวลชนกลุ่มหนึ่ง และตนเองเป็นหนึ่งในนั้น ได้มีส่วนทำให้คดีความ 1 คดีกลายเป็นเรียลลิตี้ และสร้างความแตกแยกของครอบครัว ชีวิตคนในหมู่บ้านกกกอก เรื่องไสยศาสตร์ ความงมงาย และการมอมเมา


นอกจากนี้ยังโพสต์ว่า “เรา” เป็นตัวแปรสำคัญและเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดความบิดเบี้ยวทั้งหมด เพราะหิวกระหายเรตติ้ง” และ “เรตติ้ง” กลายเป็นข้ออ้างที่ทำให้คนบางกลุ่มยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา

ในท่อนท้ายโพสต์ระบุว่า “ผมเป็นหนึ่งคนที่รับรู้เรื่องราวที่ถูกสร้าง ปั้นแต่ง และถูกนำเสนอผ่านหน้าจอมาโดยตลอด และตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า “ทำอะไรกันอยู่” และ “มันไม่ใช่ปรากฏการณ์ ไม่ใช่ความแปลกใหม่อะไรทั้งสิ้น” พร้อมขอยอมแพ้กับความบิดเบี้ยว และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดจากต้นทางได้

นอกจากนี้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Sakda Wannasut” ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่องเดียวกัน เปิดเผยว่า ได้ยุติบทบาทผู้สื่อข่าวตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน หลังทำงานมานาน 1 ปี 2 เดือน พร้อมขอบคุณผู้ใหญ่ในช่องที่ให้โอกาส ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่บ้านกกกอก แต่กลับเกิดคำถามต่างๆ นานา อีกทั้งไม่สามารถปฏิเสธได้ ต้องก้มหน้าก้มตาทำต่อไป และที่ลำบากใจคือ การเข้าถึง “สิทธิส่วนบุคคล” เพื่อให้ได้ข้อมูลบางอย่าง เพราะมองว่าไม่เหมาะแม้แหล่งข่าวพร้อมให้ข้อมูล และถามว่าคนดูได้อะไรจากสิ่งเหล่านั้น นอกจากได้ดู “ความขัดแย้งกันของเครือญาติ” ในตอนท้ายโพสต์ระบุว่า ขอโทษทุกคนต่อการนำเสนอข่าว จนพาสังคมให้มาถึงจุดนี้ได้ และตลอดเวลาไม่สามารถท้วงติงแก้ไขระบบ จึงยอมถอยออกมา เพราะไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของระบบ


นายศักดิ์ดา วรรณสุทธิ์ อดีตผู้สื่อข่าวโทรทัศน์คนดังกล่าว เปิดใจกับสำนักข่าวไทยว่า สาเหตุที่ลาออกไม่ได้ขัดแย้งกับผู้ใหญ่ในช่อง ส่วนเรื่องการทำข่าวพยายามเข้าใจว่าปัจจุบันสื่อมีการแข่งขันสูงมาก ต้องช่วงชิงพื้นที่เพื่อเรทติ้ง แต่ในความเป็นจริงหลักวิชาชีพและจรรยาบรรณของสื่อมวลชนที่เรียนมานั้นแตกต่างจากการทำงานจริง ซึ่งมีส่วนทำให้ตัวเองที่เพิ่งเข้ามาเป็นสื่อมวลชนเริ่มลำบากใจ จึงอยากพักและยุติทำหน้าที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

สงกรานต์เชียงใหม่ชุ่มฉ่ำทั้งเมือง

ประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรือสงกรานต์ล้านนา วันนี้เรียกว่าเต็มไปด้วยสีสันวัฒนธรรมและเหล่าสาวงาม ขณะที่การเล่นน้ำสงกรานต์ก็ชุ่มฉ่ำไปทั้งเมือง โดยเฉพาะรอบคูเมือง และอุโมงค์น้ำแห่งแสงสีเสียง ที่ถนนท่าแพ ยิ่งค่ำยิ่งคึกคัก

สงกรานต์ภูเก็ตคึกคัก คาดสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 8,200 ล้าน

บรรยากาศสงกรานต์ที่ จ.ภูเก็ต ปีนี้สุดคึกคัก นักท่องเที่ยวสนุกกันสุดเหวี่ยงตั้งแต่เช้าเป็นต้นมา และคาดว่าบรรยากาศแห่งความสนุกสนานนี้จะยังคงดำเนินต่อเนื่องไปแบบข้ามวันข้ามคืน